ปภ.เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน 30จว./DSI ยังตามธัมมชโย/ปธ.กกต.น้อมรับมติ ศาลรธน.

สรุปข่าว 19.35 น.

++++ปภ.แจ้งเตือน 30 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 4-6 ส.ค.นี้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ ที่ลาดชันเชิงเขา และพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาอุทกภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนักสะสมในพื้นที่และช่วงเวลาที่มีน้ำทะเลหนุนสูง พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ หากสถานการณ์รุนแรงเกินศักยภาพให้รายงานกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

+++ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ข้อเท็จจริงมีข้อมูลการข่าวมาจากทั้ง 2 ทาง คือพระธัมมชโยยังหลบหนีในประเทศ โดยหลบอยู่ในพื้นที่รอบวัดพระธรรมกาย และพื้นที่ภาคกลาง ส่วนข่าวที่ 2 คือหลบหนีออกไปนอกประเทศแล้ว โดยลูกศิษย์นำตัวหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน ออกไปอยู่ในประเทศแถบยุโรป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน อยู่ระหว่างรอการตรวจสอบ ส่วนที่มีข่าวว่าพระธัมมชโยหนีไปอยู่ยุโรปนั้นในชั้นการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ยังไม่มีแหล่งข่าวที่ยืนยันได้ชัดเจน

+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. .... หลังร่างกฎหมายดังกล่าวมีข้อโต้แย้ง 4 ประเด็น  จากการพิจารณา กรรมาธิการมีมติแก้ไขร่างที่ผ่านการพิจารณาวาระ 3 ของ สนช.จำนวน 2 มาตรา คือมาตรา 51(4) ให้หัวหน้าพรรคลงสมัครได้ทั้งแบบแบ่งเขต หรือบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 เพื่อเป็นการให้สิทธิหัวหน้าพรรคการเมือง จากเดิมที่กำหนดให้จะต้องลงเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อเท่านั้นและ มาตรา 52 เกี่ยวกับบทลงโทษหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค และเพิ่มบทบัญญัติใหม่ 7 มาตรา เกี่ยวกับข้อห้ามการกระทำทุจริตในกระบวนการสรรหาและบทกำหนดโทษ เกี่ยวกับการทุจริตในขั้นตอนเลือกผู้สมัคร หรือไพรมารี่โหวต ซึ่งยืนยันไม่มีเพิ่มโทษยุบพรรคการเมือง จะมีอัตราโทษจำคุกขั้นต่ำ 6 เดือน – 1ปี หรือ 1- 10 ปีเท่านั้น  และต้องมีกระบวนการให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วม เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตดังเช่นที่ผ่านมา ในที่ประชุม สนช. มีมติเสียงข้างมาก ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 205 เสียง เห็นชอบให้ประกาศใช้ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ตามที่คณะกรรมมาธิการวิสามัญฯ ร่วม 3 ฝ่ายพิจารณา ขั้นตอนต่อไป ประธาน สนช. จะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ตามมาตรา 81 ของรัฐธรรมนูญต่อไป

+++นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวน้อมรับมติของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ไม่รับคำร้องที่ กกต.ขอให้วินิจฉัย 2 ประเด็นของร่าง พ.ร.ป.กกต. ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ไว้พิจารณา และเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุดผูกพันทุกองค์กร แต่เมื่อร่างพ.ร.ป.กกต. ประกาศบังคับใช้แล้ว กกต.ก็คงจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า จะใช้สิทธิในการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ติดใจแล้ว  ส่วนแนวโน้มว่า กกต.จะเป็นองค์กรอิสระเดียวที่ถูกเซตซีโร่ ว่า เรื่องเป็นธรรมหรือไม่ อยู่ที่คนอื่นจะพิจารณา ส่วนตัวมาถึงจุดนี้ได้ถือเป็นกำไรชีวิตแล้ว เป็นเสือเจ็บแล้วก็อย่าไปร้อง และเราก็รู้อยู่ว่าเวลานี้บ้านเมืองไม่ปกติ นายกรัฐมนตรีก็เครียด มีภาระหน้าที่ต้องแก้ไขมาก อย่าไปสร้างปัญหาให้ท่านลำบากใจ บ้านเมืองจะได้สงบเดินหน้าต่อไปเป็นไปตามโรดแม็ปและเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง

+++กรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย ในคดีสลายชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสมชาย งามวงศ์ชน โฆษกศาลปกครอง กล่าวว่า  เป็นคนละส่วนกับการพิจารณาคดีของศาลปกครอง ซึ่งเป็นคำร้องเรื่องของการให้ชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งโดยปกติแล้ว แม้ว่าจะไม่มีความผิดอาญา ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ต้องรับโทษทางแพ่ง คดีนี้นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ กับพวก รวม 250 คน ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี  โดยศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 1569/2552 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2555 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักนายกรัฐมนตรี จ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ร้องเป็นเงินกว่า 32 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าการสลายการชุมนุมดังกล่าว ไม่ได้ปฏิบัติตามหลักสากล  เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิง และขว้างแก๊สน้ำตาตรงเข้าไปยังผู้ชุมนุมโดยตรง  มีการยิงใส่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ รถพยาบาล โดยไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม  อันแสดงให้เห็นว่าแผนกรกฎ 48 ที่นำมาใช้เป็นเพียงการอ้างหลักการตามมาตรฐานสากล แต่การปฏิบัติจริง หาได้เป็นไปตามหลักการให้ความเมตตาต่อผู้มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง ดังที่เขียนไว้ในแผนแต่อย่างใด

+++ด้าน ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมีการประชุมที่บ้านพระอาทิตย์ วันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.)   โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่า เบื้องต้นจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ให้อุทธรณ์คดี

+++มาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหลังเกิดเหตุคนพลัดตกรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์จนเสียชีวิต นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนสถานีจากฝั่งละ 2 คน เป็น 3 คน และให้หัวหน้างานดูแลอย่างใกล้ชิด คุมเข้มไม่ให้ผู้โดยสารยืนล้ำเส้นเหลือง หากผู้โดยสารบนสถานีมีจำนวนมากต้องกันไม่ให้ผู้โดยสารข้างล่างขึ้นมา พร้อมกันนี้ยังเตรียมติดตั้งประตูเปิดปิดอัตโนมัติบนสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 7 สถานี เดิมตั้งเป้าจะติดตั้งให้ครบทุกสถานีภายในสิ้นปี 2561 แต่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เร่งให้ติดตั้งครบทุกสถานีภายในกลางปี 2561 ส่วนกรณีรถบัสรับส่งผู้โดยสารของสายการบินแอร์เอเชียชนกับเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ที่จอด ขณะนี้ยังรอผลการตรวจสอบจากกรมการขนส่งทางบก โดยที่ประชุมเสนอว่าต้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัยมากขึ้น เช่น ต้องติดกล้องซีซีทีวีภายในรถ เพื่อจะได้เห็นเหตุการณ์ภายในรถว่าเกิดอะไรขึ้น การทำสัญญาเช่ารถต้องบังคับให้ใช้รถใหม่ และต้องสุ่มตรวจแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถให้ถี่มากขึ้น

+++สหรัฐจะใช้เวทีการประชุมความมั่นคงของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ระดมเสียงประณามโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะหาทางกดดันทางการทูตต่อเกาหลีเหนือในการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องวันที่ 2-8 สิงหาคมนี้ที่กรุงมะนิลา โดยหวังว่าจะสามารถทำให้ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ 26 ชาติและสหภาพยุโรปประสานเสียงประณามเกาหลีเหนือที่มีพฤติกรรมยั่วยุ  ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์วิจารณ์นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงว่า เป็นคนบ้าที่กำลังเล่นกับของเล่นอันตราย ขอเตือนทุกคนอย่าให้หน้าตาอ้วนจ้ำม่ำหลอกลวงเอาได้ เพราะหากนายคิมจุดชนวนสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมา เอเชียตะวันออกไกลจะกลายเป็นดินแดนเสื่อมโทรมขึ้นมาทันที

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากนิกเกอิพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ ส่วนข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนั้น ส่งผลกระทบต่อตลาดแค่ในวงจำกัดเท่านั้น ปิดตลาดลดลง50.78 จุด ที่ 20,029.26 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ ปิดที่ 27,531.01 จุด ลดลง 76.37 จุด

+++ดัชนัตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดลดลง 2.29 จุด อยู่ที่ 1,578.25  จุด