ปัญหาน้ำท่วมหนักในจังหวัดสกลนคร ทำให้รถยนต์หลายคันจมน้ำ ล่าสุด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด มหาชน ได้ใช้ โครงการ FIRST AID โมเดลกู้และซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมสกลนคร เบื้องต้นประเมินว่า มีรถจมน้ำประมาณ 800 คัน และทำประกันภัยไว้กับบริษัทฯไม่ต่ำกว่า 200 คัน นายณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 2(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า จากวิกฤตอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสกลนครประสบความเสียหายมากที่สุดซึ่สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ประเมินความเสียหายในเบื้องต้นประมาณ1,000 ล้านบาท โดยความเสียหายที่มีการทำประกันภัยไว้ สามารถแบ่งเป็น 3กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มรถยนต์ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียหายจากการถูกน้ำท่วมประมาณ800 คัน ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้เพราะต้องประเมินจากการแจ้งเคลมความเสียหายจากผู้เอาประกันภัยสำหรับภัยที่ บมจ.วิริยประกันภัย รับประกันภัยเอาไว้ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์และคาดว่าน่าจะประสบภัยน้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 คัน
จากข้อมูลล่าสุดที่ได้รับแจ้งจากผู้เอาประกันภัย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 144 คัน โดยส่วนใหญ่สามารถกู้ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรถยนต์ที่ยังไม่สามารถกู้ได้ส่วนใหญ่จะจมอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง ซึ่งในพื้นที่บริเวณนี้น้ำยังสูงมาก แต่คาดว่าน่าจะดำเนินการกู้ได้ภายใน1-2 วันนับแต่นี้
ปฏิบัติการช่วยเหลือรถยนต์ถูกน้ำท่วมจำนวนมากอย่างนี้ได้ดำเนินการไปตามโมเดลที่เรียกว่า”ปฏิบัติการ First Aid” อันเป็นระบบที่บริษัทฯได้คิดค้นขึ้นมาในการกู้และซ่อมแซมรักษารถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมจากการเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดขอประเทศเมื่อปี2554 และได้มีการพัฒนากระบวนการทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำใหบริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าไม่ว่าอุทกภัยจะเกิดขึ้นที่ไหนและมีรถยนต์เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตามศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนสามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการสั่งการตลอดไปถึงการส่งทีมงานจากส่วนกลางเข้าไปช่วย
ขณะที่ทีมช่างซ่อมรถยนต์จากศูนย์ซ่อมฯและจากดีลเลอร์ก็เตรียมความพร้อมและสามารถกระจายกำลังพลไปดำเนินการฟื้นสภาพหรือซ่อมแซมในเบื้องต้นตามจุดต่างๆที่กำหนดไว้ได้ทันที อีกทั้งการเข้าไปกอบกู้รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม บริษัทฯไม่ได้ตีกรอบความช่วยเหลือเฉพาะรถยนต์คันที่เอาประกันภัยกับบริษัทฯเท่านั้น แต่เข้าไปช่วยทุกคันตามที่ได้มีการแจ้งเข้ามาให้เข้าไปช่วยเหลือ รวมถึงให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยรายทางอีกด้วย
ขณะที่การประเมินความเสียหายที่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของการเคลมประกันภัยอาทิ การตรวจสอบหลักฐานว่าอยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยครบถ้วนเพียงใดจะเป็นเรื่องที่ดำเนินการในภายหลัง หรืออย่างน้อยๆ ต้องผ่าน 2ขั้นตอนแรกไปก่อนคือการนำเอารถออกจากพื้นที่น้ำท่วมและการเปลี่ยนถ่ายระบบน้ำมันหล่อลื่นภายใน
นอกจากการระดมสรรพกำลังเข้าไปกู้และซ่อมแซมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของบริษัทฯ แล้ว การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในรูปแบบอื่นๆ ทางบริษัทฯก็ได้ดำเนินการควบคู่ไปพร้อมๆ กัน โดยกลุ่มพนักงานวิริยะจิตอาสา ซึ่งเริ่มจากกลุ่มพนักงานสำรวจภัยซึ่งต้องทำหน้าที่เข้าไปสำรวจรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมตามที่ได้รับแจ้งอยู่แล้ว จะทำหน้าที่สำรวจความเดือดร้อนของผู้คนในพื้นที่นั้นๆ ไปด้วยเลยว่า ต้องการให้ช่วยเหลือในเรื่องของเครื่องอุปโภคและบริโภค โดยใช้ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนสกกลนครเป็นศูนย์ประสานงาน ซึ่งจะทำหน้าที่ประมวลความต้องการและดำเนินการจัดซื้อ รวมไปถึงการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน จากนั้นก็จะส่งไม้ต่อให้กลุ่มพนักงานจิตอาสาอีกกลุ่มหนึ่งลำเลียงไปส่งตามพิกัดข้อมูลที่ได้รับมา เบื้อต้นหน่วยงานในพื้นที่ได้ตั้งงบเพื่อใช้จ่ายทันที 2 แสนบาท และได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย และจากส่วนกลางอีก 5 แสนบาท