+++คนร้ายก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายถล่มมัสยิดชีอะห์แห่งหนึ่งในเมืองเฮรัต ทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ศพ บาดเจ็บหลายสิบคน ผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้งหมด กำลังแสวงบุญในมัสยิด ตอนที่คนร้ายกำลังชุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย อับดุลฮาอี วาลิซาดา โฆษกตำรวจท้องถิ่น สันนิษฐานว่า น่าจะมีมือโจมตีมากกว่า 1 คน นอกจากมือระเบิดฆ่าตัวตายที่จุดชนวนระเบิดแล้ว เชื่อว่ายังมีคนร้ายอีกอย่างน้อยๆ 1 คน ทำหน้าที่ปาระเบิดใส่พวกนักแสวงบุญ ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีครั้งล่าสุดนี้ในอัฟกานิสถาน
+++ท่าทีของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา หลังจากที่ถูกสหรัฐฯ เพิ่มชื่อของประธานาธิบดีมาดูโร เข้าสู่บัญชีดำรายชื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเวเนซุเอลา ซึ่งจะถูกอายัดทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ในสหรัฐฯ และห้ามบุคคลและนิติบุคคลที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจกฎหมายของรัฐบาลสหรัฐฯทำธุรกรรมร่วมกับผู้นำเวเนซุเอลา ประธานาธิบดีมาดูโร ประกาศกร้าวว่า ไม่เกรงกลัวมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และจะไม่มีทางปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลต่างชาติ
+++การเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เกิดขึ้นคือการตัดสินใจของชาวเวเนซุเอลา โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งรายงานจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์อยู่ที่ ร้อยละ41.5 จากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมดราว 20 ล้านคน แต่ข้อมูลขององค์กรอิสระและพรรคฝ่ายค้านระบุว่าจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์อยู่ที่เพียงร้อยละ 12 ท่ามกลางการประท้วงอย่างดุเดือด จำนวนผู้เสียชีวิตจากการประท้วงที่ยืดเยื้อตั้งแต่เดือนเม.ย.เพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นมากกว่า 120 ศพแล้ว
++++นายลินด์ซีย์ แกรแฮม วุฒิสมาชิกสายเหยี่ยวด้านนโยบายต่างประเทศจากพรรครีพับลิกัน ให้สัมภาษณ์รายการทูเดย์โชว์ทางสถานีเอ็นบีซีว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ บอกกับเขาว่า ปฏิบัติการทางทหารเพื่อทำลายโครงการของเกาหลีเหนือและประเทศเกาหลีเหนืออยู่ในแผนการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ คุยว่า เกาหลีเหนือสามารถยิงจรวดถึงเป้าหมายในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ที่ทำการทดลองยิงครั้งล่าสุด ผู้นำโลกต่างพยายามที่ยับยั้งโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือผ่านทางองค์การสหประชาชาติด้วยการลงมติคว่ำบาตร แต่ก็ยังไม่เป็นผลเพราะยังไม่สามารถขัดขวางรัฐบาลเกาหลีเหนือได้และสร้างความไม่พอใจอย่างต่อเนื่องให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ
+++นายแกรแฮม กล่าวว่า หากการดำเนินความพยายามทางการทูตโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความกดดันจากประเทศเพื่อนบ้านและพันธมิตรที่สำคัญของเกาหลีเหนือคือจีนแล้วไม่บังเกิดผลคือยังยับยั้งโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือไม่สำเร็จ สหรัฐฯจึงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากใช้ปฏิบัติการทางทหาร
+++ไปที่รัสเซีย เกิดเหตุรุนแรงภายในศาล ตำรวจภูมิภาคมอสโก แถลงว่า เกิดเหตุยิงกันภายในศาลภูมิภาคมอสโก คนร้ายผู้ก่อเหตุคือจำเลย 5 คนในคดีสังหาร 17 ศพ ถูกนำตัวไปขึ้นศาล ระหว่างอยู่ในลิฟต์เพื่อเดินทางสู่ห้องพิจารณาคดีในอาคารศาลยุติธรรม ปรากฏว่า จำเลยทั้ง 5 คนที่ถูกจับสวมกุญแจมือ หนึ่งในนั้นได้ทำร้ายตำรวจและบีบคอ และหาทางแย่งปืนตำรวจเพื่อหาทางหลบหนี เมื่อลิฟต์มาถึงชั้น 3 ของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เปิดฉากยิงใส่คนร้าย จำเลย3 คนถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บ 2 คน ขณะที่ฝ่ายตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 คนเพราะถูกยิง นอกจากนั้นก็ยังมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคุ้มกันขบวนรถนำจำเลยมาศาล ได้รับบาดเจ็บด้วย
++++จากคำบอกเล่าของพยานในที่เกิดเหตุคือน.ส.ซอฟยา รูบาสสกายา ทนายความ ระบุว่าได้ยินเสียงปืนกว่า 20 นัด เห็นเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งถูกยิงบาดเจ็บ ใบหน้ามีเลือดเต็มหน้า หลังเสียงปืน ทุกคนในศาลต่างเผ่นหนีออกมาเพื่อความปลอดภัยและต้องเลื่อนการพิจารณาคดีของทุกศาลออกไปก่อน
+++สภาผู้แทนราษฏรปากีสถาน ลงมติเลือกนายชาฮิด คาข่าน อับบาซี อดีตรัฐมนตรีพลังงาน ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อจากนายนาวาซ ชารีฟ ที่พ้นจากตำแหน่ง หลังศาลฏีกามีคำตัดสินปลดออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ก่อนจากความผิดฐานคอร์รัปชั่น พรรครัฐบาลเสนอชื่อนายอับบาซี ให้ดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลเฉพาะกาลไปจนกว่านายชาห์บาซ ชารีฟ มุขมนตรีแคว้นปัญจาบและน้องชายของนายชารีฟ มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะก้าวขึ้นมาเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
+++ชีค อาลี อัลวาลีด อัล-ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานองค์การการค้าโลก ( ดับเบิลยูทีโอ ) ประจำกาตาร์ ยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการต่อสำนักงานใหญ่ขององค์การการค้าโลก(ดับเบิลยูทีโอ)ที่นครเจนีวา ในสวิตเซอร์แลนด์ ต่อกรณีที่ 3 ประเทศในกลุ่มอ่าวอาหรับ คือซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ใช้มาตรการปิดล้อมทางการค้าต่อรัฐบาลกาตาร์ ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.
+++ซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน และยูเออี มีเวลาสูงสุด 60 วันตามกฎของดับเบิลยูทีโอ ในการเจรจาประนีประนอมการร้องเรียนของกาตาร์ หรือมิเช่นนั้นคณะอนุญาโตตลุาการของดับเบิลยูทีโอจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดในเรื่องนี้เอง และฝ่ายที่ได้รับการตัดสินว่าผิดอาจต้องเผชิญกับมาตรการลงโทษด้วย
+++เกิดเหตุผู้อพยพจากประเทศทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาราในทวีปแอฟริการาว 70 คน ได้รับบาดเจ็บ หลังพยายามฝ่าแนวรั้วลวดหนามที่กั้นพรมแดนระหว่างตอนเหนือของโมร็อกโกและดินแดนปกครองตนเองเซวตาของสเปน ตำรวจท้องถิ่น ระบุว่า ผู้อพยพราว 200 คน รีบฝ่ารั้วลวดหนามข้ามพรมแดน เพื่อเดินทางต่อไปยังทวีปยุโรป แต่มีเพียง 60 คนเท่านั้นที่สามารถเข้าเซวตาได้สำเร็จ ขณะที่โฆษกรัฐบาลเซวตา กล่าวว่า ผู้อพยพใช้คีมตัดลวดเป็นอุปกรณ์ในการช่วยฝ่ารั้วลวดหนาม และยังมีผู้อพยพอีกราว 1,000-1,500 ตั้งแคมป์อยู่ในป่า เพื่อรอจังหวะข้ามพรมแดนทันทีที่โอกาสมาถึง
+++บรรดาผู้อพยพบ่อยครั้งจะใช้วิธีกระโดดข้าม ตัดรั้วลวดหนามกั้นพรมแดน หรือแม้กระทั่งว่ายน้ำตามเส้นแนวชายฝั่งทะเลของโมร็อกโก ข้ามไปยังฝั่งเซวตาและเมลียา ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของสเปนในแอฟริกาเหนือ ผู้อพยพมักใช้เซวตาและเมลียาเป็นทางผ่านเข้าสู่สเปน จากนั้นจะเดินต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป โดยกระทรวงมหาดไทยสเปนระบุว่า จำนวนผู้อพยพที่เดินทางเข้าสเปนผ่านเซวตาและเมลียาในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 3,200 คน เพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
CR:CNN