นายกฯย้ำไม่เกี่ยวข้อง อุ้มโกตี๋ในลาว แต่งตั้งทหารนั่ง เลขาฯสมช.เพื่อความมั่นคง

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวถึงการแต่งตั้งเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.คนใหม่ว่า การแต่งตั้ง พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นการพิจารณาของฝ่ายความมั่นคง และคิดว่าในช่วงนี้จำเป็นต้องมีผู้ที่รู้เกี่ยวกับงานความมั่นคงและเกี่ยวข้องกับทางทหารเข้าไปดูแลโดยตรง ขอให้คนใหม่ได้เข้ามาทำงานระยะหนึ่ง ส่วนรายชื่ออีกที่มีกระแสข่าวการแต่งตั้งมาก่อนหน้านี้ ก็ต้องปรับตำแหน่งให้สูงขึ้น และทำงานความมั่นคงโดยไปช่วยเหลือที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติต่อไป

ส่วนกรณีกระแสข่าวมีชายชุดดำอุ้มนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ จากบ้านพักที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่ได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคง และเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย ส่วนการอ้างว่าบุคคลคนที่อุ้มเป็นคนไทยที่ไปก่อเหตุในลาว ยืนยันไม่ใช่เจ้าหน้าที่จากไทยทำ เพราะลาวก็มีกฎหมายอยู่แล้ว ต้องตรวจสอบต่อไป ที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และติดตามข้อมูลของโกตี๋มาโดยตลอด

ส่วนการแถลงปิดคดีด้วยวาจาโครงการรับจำนำข้าวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีมวลชนมาให้กำลังใจ 1,200 คน มองว่าเป็นเรื่องของขั้นตอนตามกระบวนการของกฎหมาย ขออย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ให้มาก เพราะเป็นเรื่องของศาลที่จะรับไปพิจารณาต่อไป

ส่วนการประเมินสถานการณ์วันที่ 25 ส.ค.ที่เป็นวันตัดสินคดี จะกระทบต่อสถานการณ์การเมืองหรือไม่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเอง แต่ขึ้นอยู่กับกลุ่มประชาชนและกลุ่มนักการเมือง ยืนยันไม่เคยแทรกแซงกระบวนการของศาล เพียงแต่ให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยไม่ก้าวล่วง ซึ่งเป็นโยบายของรัฐบาล

นายกรัฐมนตรียังให้คำแนะนำประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการซ้ำรอยปี 2557 โดยทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ประชาชน ว่าจะกลับไปสู่หนทางเดิมหรือไม่ และต้องดูประเด็นปัญหาประเทศว่าอยู่ที่ไหน เพราะเรื่องคดีความต่างๆ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่ทำงานเป็นอิสระ อย่านำมาเกี่ยวข้องกับรัฐบาล ยืนยันไม่เคยชี้นำคำตัดสินของศาล ทุกอย่างมีการตรวจสอบได้ ตามข้อเท็จจริง ซึ่งหากถ้าไม่ผิดจะเข้ากระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร