การแถลงปิดคดีด้วยวาจาคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดี แถลงใน 6 ประเด็น โดยระบุว่า ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการตัดสินใจฟ้องทั้งที่ไม่มีการรวบรวมพยานหลักฐานตามที่อัยการสูงสุดแจ้ง และขอให้ศาลพิจารณาคดีนี้จากสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 329 หน้าเท่านั้น เพราะเป็นเอกสารสำนวนคดีที่ถูกต้องตามกระบวนการ แต่เอกสารที่อัยการนำมาเพิ่มเติมในชั้นศาล 60,000 หน้า เป็นเอกสารนอกสำนวน หากนำมาร่วมพิจารณา จะถือว่าไม่เป็นธรรม
นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า นโยบายจำนำข้าว เป็นนโยบายสาธารณะที่เป็นประโยชน์ และดำเนินการตามกฎหมาย และไม่ได้เพิกเฉย ละเลย ต่อการทุจริต แต่ตนไม่มีอำนาจระงับยับยั้งโครงการตามอำเภอใจ ซึ่งกระบวนการขั้นตอน และวิธีการบริหารนโยบายรับจำนำข้าวเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระเบียบของคณะรัฐมนตรี และที่สำคัญ คือ โครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์ ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายตามฟ้อง รัฐบาลไม่ได้แสวงหากำไรจากโครงการนี้ และยืนยันอีกว่า ตนไม่ได้ทำผิดตามข้อกล่าวหา และไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ในการระบายข้าว
ทั้งนี้ การแถลงปิดคดีด้วยวาจาวันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ มีการอ้างอิงถึงรายงานการตรวจสอบคุณภาพและปริมาณข้าวคงเหลือ ที่รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นทำรายงาน และขณะนี้กำลังเป็นประเด็นเรื่องการนำข้าวดีไปประมูลขายเป็นอาหารสัตว์ จนทำให้ถูกมองว่าการตรวจสอบคุณภาพข้าวไม่โปร่งใส แต่เอกสารนี้เป็นหนึ่งในเอกสารที่ถูกนำส่งให้ศาลพิจารณาด้วย ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ใช้ข้อมูลนี้อ้างต่อศาลถึงความไม่โปร่งใสของกระบวนการ และอ้างว่า พลเอกประยุทธ์ น่าจะเข้าใจลักษณะการทำงานของนายกรัฐมนตรี ว่าไม่สามารถตัดสินใจยุติโครงการใดๆ ได้ด้วยตัวคนเดียว นอกจากนี้ยังพูดถึงในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งทำหน้าที่ต้ังคณะทำงานตรวจสอบตนเอง
ซึ่งระหว่างการแถลงปิดคดีฯ นางสาวยิ่งลักษณ์ร่ำไห้ และร้องขอให้ศาลฯ พิจารณายกฟ้อง โดยศาลจะนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ เวลา 09.00 น. แต่หลังการแถลงปิดคดีเสร็จสิ้น นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และกล่าวขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจในวันนี้
...
ผสข.ปภาดา พุลสุข