+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2560 โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นการสมควรให้มีกฎหมายการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ โดยให้นายกฯ เป็นประธานกรรมการ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นรองประธานคนที่1 ประธานวุฒิสภา เป็นรองประธานคนที่ 2 เป็นต้น และในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธชาติขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะและผู้ทรงคุณวุฒิให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
+++นอกจากนี้ ให้คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านต่างๆ จัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันและให้นำความเห็นของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง(ป.ย.ป.) มาประกอบการพิจารณา และให้คณะกรรมการจัดให้มีการทบทวนทุก 5 ปีหรือในกรณีที่สถานการณ์โลกหรือสถานการณ์ของประเทศเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหมาะสมที่จะดำเนินการตามเป้าหมายยุทธศาสตร์
+++นอกจากนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.2560 โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นการสมควรให้มีกฎหมายการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีเนื้อหาให้มีการจัดทำแผนการปฏิรูปประเทศต่างๆจำนวน 11 ด้าน ประกอบด้าน การเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การศึกษา เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาธารณสุข สื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ สังคม และด้านอื่นตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) กำหนด นอกจากนี้การจัดทำแผนการปฏิรูปประเทศต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะขององค์กรฝ่ายตุลาการมาใช้ประกอบในการพิจารณา
+++คณะกรรมการปฏิรูป เสนอร่างแผนปฏิรูปประเทศ ที่ผ่านการพิจารณาแล้วต่อครม. ภายใน 30 วันหลังจากที่ประชุมให้ความเห็นชอบแล้ว และครม.ต้องแจ้งความคืบหน้าการดำเนินตามแผนการปฏิรูปประเทศต่อรัฐสภาทุก 3 เดือน และต้องกำหนดผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวังที่คาดหวังว่าจะบรรลุภายใน 5 ปีด้วย
+++ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดเงินประจำตำแหน่งและเงินตอบแทนอื่นของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ที่มาจากการแต่งตั้ง และประธานสภากรุงเทพมหานคร และรองประธานสภากรุงเทพมหานคร ที่มาจากการเลือกของสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ประธานสภากทม. และรองประธานสภากทม. ผู้ใดเป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ให้ผู้นั้นได้รับเงินประจำตำแหน่ง และเงินตอบแทนอื่น ในอัตรากึ่งหนึ่ง โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการ มีรายงานว่า ส.ก.ที่เป็นข้าราชการจะได้ค่าตอบแทน กึ่งหนึ่ง หรือ 24,225 บาท ส่วนประธานสภา กทม.ได้รวม 73,560 บาท และรองประธานสภา กทม.ได้ 61,140 บาท โดยไปสอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พ.ศ. 2559 สมัยที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนี้ ประธานสภากทม.เดือนละ 26,200 บาท รองประธานสภา กทม.เดือนละ 24,000 บาท สมาชิกสภา กทม.เดือนละ 20,000 บาท
+++ปัจจุบัน สภากทม.มี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ เป็นประธานสภากทม. มีนายกิตติ บุศยพลากร เป็นรองประธานสภาคนที่ 1 และนายนิรันดร์ ประดิษฐกุล (ผู้ตรวจอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด) เป็นรองประธานสภาคนที่ 2 ขณะที่มีข้าราชการประจำเป็นสมาชิกสภา กทม.จำนวน 11 ราย อดีตข้าราชการ 17 ราย และเอกชน 2 ราย
+++รายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถึงความพร้อมของศาลฎีกาฯ ในวันที่ 1 ส.ค.เวลา 09.30 น.ที่นัดแถลงปิดคดีด้วยวาจาคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 กรณีไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าวเมื่อเกิดความเสียหายต่อรัฐ 5 แสนล้านบาท และปล่อยให้โครงการดำเนินต่อไปกระทั่งมีการทุจริตในขั้นตอนโครงการที่เกี่ยวเนื่องกันและมีผู้ได้รับประโยชน์
+++ศาลฎีกาฯ ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังพลมาดูแล โดยมี สน.ทุ่งสองห้อง เป็นหลัก และมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล สน.ต่าง ๆ และในส่วนที่ได้รับมอบหมายเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ภายในอาคารศาลจะมีเจ้าหน้าที่ รปภ. นับสิบนายกระจายกำลังรักษาการณ์ตามจุดทางเข้าอาคารศาล และทางเข้าห้องพิจารณาคดี รวมทั้งนำแผงเหล็กมากั้นเป็นช่องทางเข้า-ออก ทางเดียว ซึ่งการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ.และแผงเหล็กกั้นส่วนนี้ ก็เป็นไปตามปกติที่เคยจัดสรรหาไว้ระหว่างการพิจารณาคดี โดยบุคคลที่จะผ่านเข้า-ออกไปห้องพิจารณาคดีจะต้องผ่านเครื่องตรวจอาวุธด้วย ผู้ที่จะเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีจะต้องนำบัตรประชาชน มาแลกบัตรเข้า-ออกกับเจ้าหน้าที่ รปภ. ณ จุดแลกบัตรบริเวณแผงเหล็กกั้นทางเข้าศาลโดยบัตรนั้นจะมี 2 สี คือ สีเหลืองสำหรับประชาชนทั่วไป และสีเขียวสำหรับสื่อมวลชน โดยห้องพิจารณาคดีของศาลนั้นสามารถรองรับประชาชนที่จะร่วมเข้าฟังได้ประมาณ 100 คน และการจัดสรรที่นั่งสำหรับสื่อมวลชนเบื้องต้นประมาณ 30 คน โดยขณะนี้ในส่วนของการแถลงปิดคดีด้วยวาจา ศาลไม่ได้ถ่ายทอดเสียงผ่านเครื่องขยายเสียงออกจากห้องพิจารณาคดีมายังภายนอกอาคาร ส่วนจะใช้เวลานานเท่าใดขึ้นกับฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ จำเลยในคดี จะแถลงต่อศาล โดยขั้นตอนสำคัญ คงมีเพียงการแถลงปิดคดีด้วยวาจา และมีความเป็นไปได้ที่องค์คณะฯ จะมีคำสั่ง กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ศาลฎีกาฯ ไม่ส่งประเด็นโต้แย้งข้อกฎหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งนี้กระบวนการทั้งหมดดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงเวลาไม่เกิน 12.00 น.
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดปรับลดลง 9.41 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,571.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 22,988.06 ล้านบาท น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย เกิดความกังวลประเด็นทางการเมืองจากกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยความกังวลจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ในประเทศ และนอกประเทศก็มีความกังวลสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีด้วย ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียช่วงบ่ายนี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกมากกว่าลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดในช่วงบ่ายนี้ก็อยู่ในแดนบวก
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ปิดลบ 34.66 จุด ที่ 19,925.18 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 344.60 จุด ปิดวันนี้ที่ 27,323.99 จุด
+++การยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีโครงการรับจำนำข้าว น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า การดำเนินการเป็นไปตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายระบุไว้ว่าคดีอาญาอยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะตัดสินวันที่ 25 สิงหาคมนี้ หากตัดสินว่ามีความผิดจะนำไปสู่การดำเนินคดีแพ่งต่อไป ซึ่งกรมบังคับคดี จะดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตามที่คณะกรรมการสืบทรัพย์ของกระทรวงการคลังส่งเรื่องมา
+++การเดินทางลงพื้นที่น้ำท่วมจ.สกลนคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเดินทางลงพื้นที่จ.สกลนคร เช้าวันที่ 2 ส.ค.โดยเครื่องบินกองทัพอากาศ รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากผู้ว่าราชการจังหวัดและอธิบดีกรมชลประทาน ไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย (โรงยิมอบต.สน.) จากนั้นจะเดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ชุมชนรอบหนองหาร โดยเรือใช้เวลา 40 นาที และเดินทาง ไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นเพื่อดูสภาพพื้นที่และการซ่อมแซม รวมถึงการแก้ไขปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นที่ถูกน้ำกัดเซาะ พร้อมรับฟังคำอธิบายจากอธิบดีกรมชลประทาน เดินทางถึงกรุงเทพฯประมาณ 13.40 น.
+++เมื่อช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 3/2560 จากนั้น 16.00 น. นายกฯปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยบอกเพียงว่า วันนี้เจ็บคอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมเจ็บคอ นายกฯกล่าวสั้นๆ ว่า ก็บอกว่าเจ็บคอ พูดมากตั้งแต่เช้า จะถามทำไมคนเจ็บคอ
+++สถานการณ์ระดับน้ำที่แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ คำชะโนด ขณะนี้ตกอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นเมืองบาดาลไปแล้ว นายวีรวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี ออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนงดเข้าสักการะปู่ศรีสุทโธ-ย่าศรีปทุมมา ในพื้นที่เกาะคำชะโนด หลังคำชะโนด ประสบปัญหาอุทกภัยตั้งแต่วันนี้จนถึง 3 สิงหาคม 2560 พื้นที่ลานบวงสรวงด้านนอก ยังคงสามารถเข้าบวงสรวงได้ตามปกติ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางอำเภอจะประกาศแจ้งให้ทราบอีกครั้ง รายงานระบุว่า ระดับน้ำภายในเกาะคำชะโนด ณ ขณะนี้มีความสูงมากกว่า 90 เซนติเมตร พระสงฆ์ที่จำพรรษาในสำนักสงฆ์ต้องขนย้ายสิ่งของออกจากกุฏิไปจำพรรษาที่วัดใกล้เคียงเพื่อหนีน้ำ ส่วนระดับน้ำรอบเกาะยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแม่น้ำสงครามที่เป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านอำเภอบ้านดุง มีมวลน้ำจำนวนมาก และไหลเอ่อจนทำให้เกิดน้ำท่วม
+++กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ถูกเซ็ตซีโร่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง เปิดเผยว่า เตรียมจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนญ ภายใน 2 สัปดาห์นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเขียนคำร้อง โดยจะทำอย่างรอบคอบและมีสาระ นายสมชัย ยังเขียนจดหมายเปิดผนึก ถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยกเหตุผลของ สนช. ที่ใช้ในการลงมติเซ็ตซีโร่ กกต. และการให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน คงอยู่จนครบวาระ และระบุว่า เป็นการดำเนินการที่หลายมาตรฐาน ดังนั้น ในการแก้คืนในสิ่งที่เห็นว่ายังไม่ถูกต้อง ในฐานะส่วนบุคคล จึงจำเป็นต้องอาศัยกระบวนการทางกฎหมายที่มีอยู่ในการดำเนินการมิใช่เป็นไปเพื่อการรักษาตำแหน่งแต่เพื่อให้หลักการที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นต่อสังคมไทยและจะดำเนินการตามสิทธิที่เห็นสมควรโดยทันที เมื่อมีความพร้อมในด้านเอกสาร
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างสื่อของทางการรัสเซียว่า กองทัพรัสเซีย แสดงแสนยานุภาพทางทหารทั่วโลกเพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งกองทัพเรือ มีการจัดพิธีสวนสนามของทหารตามเมืองสำคัญๆของประเทศ จุดเด่นของกิจกรรมครั้งนี้อยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เป็นประธานในพิธีสวนสนามทางทหาร มีเรือรบและเรือดำน้ำรวม 50 ลำ เครื่องบินรบอีก 40 ลำและทหารเรือกว่า 5,000 คนจากกองเรือประจำทะเลบอลติก,ทะเลดำ,ทะลทางตอนเหนือ,กองเรือประจำมหาสมุทรแปซิฟิกและกองเรือประจำทะเลสาบแคสเปียนเข้าร่วมพิธี โดยผู้นำรัสเซีย ย้ำถึงความสำคัญของกองเรือของรัสเซียว่าประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซียเป็นเรื่องที่แยกไม่ออกจากชัยชนะของกองทัพเรือที่กล้าหาญและไม่เคยหวั่นเกรงข้าศึก
+++ผู้นำรัสเซีย เพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของประเทศรัสเซียในหลายๆด้านเป็นผลมาจากการพัฒนาและการสร้างนวัตกรรมของกองทัพเรือ ทำให้มีเรือรบลำใหม่ๆ ทยอยนำเข้ามาประจำการอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ การฝึกอบรมในเชิงยุทธการของหน่วยจู่โจมและการเตรียมความพร้อมของนาวิกโยธินได้รับการพัฒนาให้มีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
+++เอเอฟพี รายงานอ้างนายเอ.เค.ดัส หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารจัดการอุบัติภัยประจำรัฐโอริสสาทางภาคตะวันออกของอินเดียว่าเหตุฟ้าผ่ามีคนเสียชีวิตแล้ว 11 ศพและบาดเจ็บ 15 คนในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุด มีคนเสียชีวิตหลายร้อยคนและคนอีกหลายล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย ก่อนเกิดเหตุฟ้าผ่า ชาวบ้านทั้ง 11 คน ทำงานอยู่ในไร่นาขณะฝนตกลงมาในรัฐโอริสสา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารจัดการอุบัติภัยประจำรัฐโอริสสา คาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุฟ้าผ่าอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้บาดเจ็บบางคนอาการสาหัส สำหรับฝนที่ตกหนักในฤดูมรสุมซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 20 รัฐทั่วประเทศอินเดีย
แฟ้มภาพ