สภาพของทางหลวงในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบอุทกภัย
พลตำรวจตรีสมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) เปิดเผยว่า มวลน้ำที่ท่วมมาจาก 2 ส่วน คือ จากเทือกเขาสองดาวและเทือกเขาภูพาน ไหลบ่ามาทางอำเภอเมือง ลงลำน้ำก่ำ และไหลต่อไปยังลำน้ำโขง ส่วนมวลน้ำที่มาจากเทือกเขาส่องดาว จะไหลไปทางอำเภอสว่างแดนดิน และพื้นที่อำเภอวาริชภูมิ อำเภอวานรนิวาส และอำเภออากาศอำนวย ทำให้ถนนทางหลวงหมายเลข 22 ซึ่งเป็นเส้นทางจากจังหวัดอุดรธานีไปยังจังหวัดสกลนครเกิดปัญหา ในช่วงกิโลเมตรที่ 74 น้ำท่วมสูง 1 เมตร แต่ขณะนี้ลดลงแล้ว ส่วนกิโลเมตรที่ 146 และ147 มีสะพานขาด เจ้าหน้าที่ทางหลวงจึงวางสะพานแบรี่เพื่อให้สามารถเดินทางเข้าจังหวัดสกลนครได้ 1 ช่องทาง และในวันนี้จะสามารถวางสะพานแบรี่ได้อีก 1 ช่องทาง คาดจะเสร็จในช่วงเย็นวันนี้
ส่วนทางหลวงเส้นอื่นที่พบปัญหา คือ เส้นทางจากจังหวัดสกลนคร มุ่งหน้าสู่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เนื่องจากเป็นทางผ่านของมวลน้ำ คอสะพานบางแห่งถูกน้ำกัดเซาะจนชำรุด เจ้าหน้าที่ทางหลวงจึงนำวัสดุแข็ง เช่น อิฐ ไปถมบริเวณไหล่ทางและคอสะพาน ทำให้สะพานยังคงใช้การได้ แต่รถที่มีน้ำหนักเกิน 15 ตันต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนกิโลเมตรที่ 17 และ 18 ได้มีการวางสะพานแบรี่เพิ่ม สำหรับผู้ที่จะเดินทางจากจังหวัดสกลนครไปยังอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม หากพบว่าสะพานแบรี่ใช้การไม่ได้ สามารถใช้เส้นทางอำเภอเมืองสกลนคร ไปยังอำเภอเต่างอย และมุ่งหน้าไปยังอำเภอโคกศรีสุพรรณ เพื่อเดินทางไปอำเภอธาตุพนมได้ ส่วนการเดินทางจากจังหวัดนครพนม มุ่งสู่สกลนคร ในเส้นทางที่ติดกับสนามบิน ขณะนี้สามารถใช้การได้แล้ว มีเพียงอำเภอวานรนิวาสและอำเภออากาศอำนวย ที่ยังมีน้ำท่วมสูง มีประชาชนรอความช่วยเหลือและรออาหาร ซึ่งทางตำรวจภูธรและตำรวจทางหลวง ให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้
ส่วนประชาชนที่จะเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะถนนที่มีเลขทางหลวง 4 หลัก เช่น บริเวณอำเภอดงหลวง จังหวัดกาฬสินทร์ ยังมีจุดที่คอสะพานขาดอยู่อีกหลายจุด กรมทางหลวงชนบท และ กรมทางหลวง กำลังดำเนินการเร่งแก้ไขอยู่ ส่วนทางหลวงหมายเลข 1 หลัก 2 หลัก และ 3 หลัก ซึ่งเป็นทางหลวงหลักที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดและอำเภอ กรมทางหลวงได้แก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังน้ำที่มาจากจังหวัดสุโขทัย พบว่าเส้นทางที่ยังต้องเฝ้าระวัง คือ ทางหลวงหมายเลข 223 ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก เชื่อมต่อจังหวัดสกลนครกับจังหวัดนครพนม แต่มีปัญหาน้ำกัดเซาะคอสะพาน กรมทางหลวงจึงนำวัสดุแข็ง ไปถมบริเวณคอสะพานที่มีปัญหาแล้ว ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทาง ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1193 และ 1586
นอกจากนี้ตำรวจทางหลวงและกรมทางหลวงยังร่วมกันจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คำแนะนำหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วม แต่ก็ยังพบผู้ที่ฝ่าฝืนไปยังเส้นทางที่ห้าม ทำให้ตกถนน ตกคอสะพาน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือแล้ว
ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมี 12 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการจัดตั้งโรงครัว เปิดสถานีตำรวจเป็นที่พักชั่วคราวกับผู้ประสบอุทกภัย และป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำเติมประชาชน ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับแจ้งเหตุ
..
ผสข.ปภาดา พูลสุข