ในวันนี้ ที่รัฐสภาจะมีการประชุมร่วมกันของแม่น้ำ 5 สาย เพื่อส่งมอบวาระปฏิรูปโดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยจะมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.), คสช., สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), สปท. และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เข้าร่วมประชุม
โดย ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท. จะเป็นผู้ชี้แจงต่อที่ประชุมเกี่ยวกับผลการทำงาน และส่งมอบผลงานการปฏิรูปต่อนายกรัฐมนตรี จำนวน 200 เรื่อง ครอบคลุม 37 วาระปฏิรูปใน 11 ด้าน เฉลี่ยเดือนละ 10 เรื่องทั้งแผนปฏิรูปข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปและกฎหมายที่จำเป็นต่อการปฏิรูปทำให้ประเทศแข็งแรงขึ้นและดีขึ้นกว่าในอดีตอย่างมีอนาคต ถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจที่ดำเนินการมา 1 ปี 9 เดือนอย่างเป็นทางการ
ส่วน กรธ. ประชุมตามปกติ โดยขณะนี้กำลังมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรธ. คาดว่าจะสามารถพิจารณาแล้วเสร็จในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ และหากเป็นไปได้อาจจะส่งร่างฯกลับไปให้ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ได้ดูรายละเอียดอีกรอบ เชื่อว่าจะสามารถพิจารณาได้ทันเวลาที่ กรธ.จะต้องส่งร่างกฎหมายลูกฉบับสุดท้ายให้ สนช.ภายในวันที่ 4 ธันวาคมนี้แน่นอน
บ่ายวันนี้ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือ เรื่องการเข้าถึงเงินทุนจาก VC โดย Startup ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถ.รัชดาภิเษก
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาล
ประเด็นการเมืองที่ยังต้องติดตามกันต่อก็คือในวันพรุ่งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะแถลงปิดคดีโครงการรับจำนำข้าวด้วยวาจาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งทาง คสช. ระบุว่า ไม่พบการเตรียมก่อเหตุรุนแรง อย่างไรตาม มีความเห็นว่า การมีมวลชนที่ชื่นชอบมาให้กำลังใจถือเป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และต้องไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 1 สิงหาคม จะไปร่วมให้กำลังใจและฟังคำแถลงปิดคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเชื่อว่าจะมีประชาชนมาร่วมให้กำลังใจมากกว่าวันไต่สวนนัดสุดท้าย
สำหรับการตัดสินคดีจะมีขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคมนี้
และในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดฟังคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด กรณีขอคืนพื้นที่การชุมนุมจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551
ส่วน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตกรณีที่มีนักการเมืองและเจ้าของโรงสีข้าวบางแห่งเรียกร้องให้ตรวจสอบคุณภาพข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ในช่วงใกล้วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคพวก นอกจากนี้ยังมีประเด็นของทรัพย์สินในบัญชีธนาคารของอดีตนายกรัฐมนตรี 16 บัญชี มีน้อยกว่าทรัพย์สินเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี ที่รายงานต่อ ป.ป.ช.
...