ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าองค์คณะผู้พิพากษา 5 คนในศาลฏีกาของปากีสถานมีคำสั่งอย่างเป็นเอกฉันท์ในช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ปลดนายนาวาซ ชารีฟ วัย 68 ปี จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระบุว่านายชารีฟ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตทั้งต่อรัฐสภาและกระบวนการยุติธรรมของปากีสถาน จึงไม่เหมาะสมจะเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของปากีสถานอีกต่อไป นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศที่นายกรัฐมนตรีถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังการไต่สวนคดีตามกฏหมาย โดยนายชารีฟ ได้ยินยอมลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ก่อนหน้านี้ ศาลฏีกาได้ไต่สวนคดีที่เกี่ยวกับบัญชีเงินฝากในต่างแดนและทรัพย์สินในต่างแดนของลูก 3 คนของนายชารีฟ โดยหลักแล้ว การถือครองทรัพย์สินในต่างแดนของบุคคลในครอบครัวของผู้นำประเทศไม่ถือว่าผิดกฏหมาย แต่สาธารณชนสงสัยว่ามีการใช้เงินของรัฐไปซื้อทรัพย์สินนั้นด้วยหรือไม่ การสอบสวนคดีนี้ของพนักงานอัยการมีขึ้นหลังมีการแฉเอกสารที่เรียกว่าปานามาเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนในครอบครัวของผู้นำปากีสถานมีบัญชีเงินฝากและทรัพย์สินอยู่ในต่างแดน
สำหรับนายชารีฟ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 3 สมัยและอีกไม่ถึงหนึ่งปี เขาจะสร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศที่ทำหน้าที่บริหารประเทศครบวาระ 5 ปี ก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรกระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2533 ถึงกรกฏาคม 2536 และสมัยที่ 2 ระหว่างกุมภาพันธ์ 2540 ก่อนจะถูกยึดอำนาจจากผบ.ทบ.ขณะนั้นคือพล.อ.เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ เมื่อเดือนตุลาคม 2542 ต่อมาเขากลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 หลังพรรคการเมืองของเขาชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2556