ธ.กลางสหรัฐคงดอกเบี้ยตามเดิม/เรือลาดตระเวณสหรัฐ ยิงเตือนเรือติดอาวุธอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย/ตอลิบันเอาคืนยึดสังหารทหารอัฟกัน

27 กรกฎาคม 2560, 06:02น.


*ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.*



+++เรือลาดตระเวนของนาวิกโยธินสหรัฐฯคือเรือยูเอสเอส ธันเดอร์โบลท์  ยิงเตือนเรือลาดตระเวนติดอาวุธลำหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านในทะเลทางตอนเหนือของอ่าวเปอร์เซีย หลังเรือของอิหร่านแล่นเข้าไปใกล้ และอยู่ห่างจากเรือลาดตระเวนของสหรัฐฯเพียงแค่ 150 หลา หวั่นเกรงว่าเรืออิหร่านอาจจะพุ่งชนเรือสหรัฐฯ  ในช่วงเกิดเหตุ เรือยูเอสเอส ธันเดอร์โบลท์ มีเรือคุ้มกันอื่นๆลอยลำอยู่ในบริเวณนั้น เรือพิฆาตติดขีปนาวุธ ยูเอสเอส เวลลา กัลฟ์และเรือลาดตระเวนของหน่วยดูแลชายฝั่งของสหรัฐฯอีก 2 ลำ ด้านเรือของอิหร่านไม่ได้ตอบสนองใดๆต่อการยิงเตือนจากเรือสหรัฐฯ ซึ่งใช้การสื่อสารแจ้งเหตุฉุกเฉินหลายๆวิธีดังที่นานาชาติปฏิบัติกัน เช่นการสื่อสารทางวิทยุ การยิงประกายไฟและการยิงขึ้นฟ้าเพื่อเตือนฝ่ายข้าศึก ทำให้เรืออิหร่านหยุดชะงัก แต่ยังคงลอยลำอยู่ในบริเวณนั้นอีกหลายชม. ด้านสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่าน รายงานอ้างแถลงการณ์จากกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านว่าอิหร่านสามารถจะยับยั้งไม่ให้เรือรบสหรัฐฯรุกล้ำน่านน้ำอิหร่านได้สำเร็จ เรือรบสหรัฐฯข่มขวัญเรืออิหร่านด้วยการยิงเตือนรวม 2 นัดครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรือนาวิกโยธินสหรัฐฯและอิหร่านเผชิญหน้ากันในอ่าวเปอร์เซีย



+++ก่อนหน้านี้ กองทัพสหรัฐฯประณามอิหร่านเมื่อเดือนมิถุนายน กล่าวหาเรือลาดตระเวนลำหนึ่งของอิหร่านว่ากระทำการที่ไม่ปลอดภัยและไม่มีความเป็นมืออาชีพ หลังการส่องแสงเลเซอร์ยังเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งของสหรัฐฯขณะบินติดตามกองเรือสหรัฐฯที่แล่นออกจากน่านน้ำสากลในบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ครั้งนั้นสหรัฐฯไม่ได้ยิงเตือนยังเรืออิหร่าน แต่เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯประณามอิหร่านอย่างรุนแรง



+++ศาลยุติธรรมแห่งยุโรป(อีซีเจ)ว่า ศาลมีคำตัดสินว่ากฏหมายที่กำหนดให้ผู้อพยพจะต้องยื่นเรื่องขอลี้ภัยในประเทศแรกของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ที่พวกเขาเดินทางไปถึง แม้ในยามสถานการณ์ไม่ปกติเช่นนี้ คดีนี้ซึ่งรัฐบาลออสเตรียและสโลเวเนียยื่นเรื่องให้ศาลอีซีเจของอียูพิจารณา อาจจะกระทบต่ออนาคตของผู้อพยพหลายแสนคนที่เดินทางไปถึงยุโรปในช่วงที่เกิดปัญหาวิกฤติผู้อพยพระหว่างปี 2558-2559 คำตัดสินคดีนี้เกี่ยวข้องกับครอบครัวชาวอัฟกานิสถาน 2 ครอบครัวและชาวซีเรียรายหนึ่งที่ยื่นเรื่องขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรียหลังข้ามแดนมาจากโครเอเชีย ศาลเพิ่มเติมว่า โครเอเชียมีอำนาจจะชี้ขาดปัญหานี้เองเช่นกัน ปัญหาวิกฤตินี้เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อช่วงภาคฤดูร้อนปี 2558 เมื่อผู้อพยพราวหนึ่งล้านคนข้ามชายแดนจากแถบประเทศทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่านเข้าไปยังยุโรป โดยหลักทั่วไปภายใต้กฎระเบียบที่เรียกว่าข้อตกลงกรุงดับบลิน ผู้อพยพจะต้องยื่นเรื่องขอลี้ภัยกับรัฐบาลในประเทศแรกของกลุ่มอียูที่พวกเขาไปถึง ต่อมา เยอรมนีระงับการใช้กฎระเบียบนี้ชั่วคราวสำหรับกรณีผู้อพยพชาวซีเรีย พร้อมทั้งระงับการเนรเทศผู้อพยพกลับยังประเทศแรกในกลุ่มอียูที่พวกเขาไปถึง นับแต่เดือนสิงหาคม 2558 เป็นต้นมา มีผู้อพยพหลายร้อยคนเดินทางไปถึงออสเตรีย ในแต่ละวัน ในตอนแรกผ่านฮังการีและต่อมาผ่านสโลเวเนีย ส่วนใหญ่ต้องการจะมุ่งหน้ายังเยอรมนี ที่ผ่านมาผู้อพยพราว 9 หมื่นคนยื่นขอลี้ภัยในออสเตรีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมดของออสเตรีย ส่งผลให้ออสเตรียและสโลวีเนียยื่นเรื่องให้ศาลมีคำตัดสินชี้ขาดในเรื่องดังกล่าว



+++นายฮวน เกเกวเซนส์ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลาว่ากลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร จะร่วมการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ 2 วันเริ่มจากวานนี้ในการพยายามเฮือกสุดท้ายเพื่อกดดันให้เขายกเลิกการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญในวันอาทิตย์นี้เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงมองเรื่องนี้ว่าเป็นองค์กรทางนิติบัญญัติขึ้นมาเพื่อรองรับการควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จของผู้นำเวเนซุเอลา ด้านนายมาดูโรวัย 54 ปี ยืนหยัดว่าการเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้จะเดินหน้าต่อไปตาม



+++นักรบกลุ่มตอลีบันสังหารทหารอัฟกันเสียชีวิต 26 ศพและบาดเจ็บ 13 คน หลังบุกโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งในอำเภอคัคเซ เมืองกันดาฮาร์ทางภาคใต้ของประเทศ การสู้รบยังคงดำเนินต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ และรัฐบาลได้เรียกกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจากพื้นที่อื่นๆในละแวกใกล้เคียง ไปยังเมืองกันดาฮาร์แล้ว ด้านกลุ่มตอลีบัน ระบุว่า พวกเขาสามารถเข้าควบคุมฐานทัพนั้นไว้แล้ว แต่เรื่องตัวเลขผู้เสียชีวิตสื่อท้องถิ่นรายงานไม่ตรงกัน คือกลุ่มตอลีบันระบุว่าพวกเขาสามารถสังหารทหารเสียชีวิตกว่า 70 ศพและจับทหารไว้ได้ 7 คน นับเป็นการเพลี่ยงพล้ำให้กับกลุ่มตอลีบันอีกครั้งหนึ่งของกองทัพอัฟกานิสถานหลังจากที่ถูกกลุ่มตอลีบันลอบโจมตีมาหลายครั้งในช่วง 2-3 เดือน  ก่อนหน้านี้ กลุ่มตอลีบัน เคยบุกโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งนอกเมืองมาซาร์-อีชารีฟ ทางภาคเหนือของประเทศเมื่อเดือนเมษายน มีทหารเสียชีวิต 170 ศพ นับเป็นเหตุโจมตีฐานทัพที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2544 หลังสหรัฐฯและพันธมิตรบุกอัฟกานิสถานเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มีกลุ่มตอลีบันเป็นแกนนำ



+++ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 48.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วัที่ 30 พฤษภาคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ ปิดที่ 50.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมเช่นกัน



+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 97.58 จุด ปิดที่ 21,711.01 จุด  ขณที่ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดตัดสินใจตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหมายเอาไว้ ด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และจะค่อยๆกระชับนโยบายทางการเงินอย่างช้าๆ โดยจะเริ่มลดระดับการเข้าถือครองพันธบัตรเร็วๆนี้ ในสัญญาณที่แสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจอเมริกา ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ในวันพุธ(26ก.ค.) ปรับลด 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,249.40 ดอลลาร์ต่ออนซ์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม ก่อนเฟดออกถ้อยแแถลงทางนโยบาย



+++นายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอังกฤษว่าอังกฤษจะห้ามขายและห้ามใช้รถรุ่นที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล เริ่มมีผลตั้งแต่ปีพ.ศ.2583 หรือ คศ.2040 หรือ 23 ปี ข้างหน้า เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศในประเทศ รัฐบาลจะไม่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ใช้รถพลังงานดีเซลและเบนซินวิ่งตามท้องถนนอีกต่อไป  และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเลิกใช้รถรุ่นเก่าและหันไปเลือกใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อปีที่แล้วมีการจดทะเบียนรถใหม่เกือบ 2 ล้าน 7 แสนคันในอังกฤษ ส่งผลให้อังกฤษเป็นตลาดรถยนต์รายใหญที่สุดอันดับสองในยุโรป รองจากเยอรมนี แผนยกเลิกรถพลังเบนซินและดีเซลภายในปี 2583 นับว่า เป้าหมายที่สูงมาก แต่ข่าวดีคือความต้องการของผู้บริโภคสำหรับรถพลังงานสะอาดเช่น รถพลังไฟฟ้า รถที่ใช้เชื้อเพลิงหรือใช้เชื้อเพลิงผสมเช่นรถรุ่นไฮบริดในอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในปี 2558 ด้านนายไมค์ ฮาเวส ซีอีโอ ของสมาคมผู้ผลิตและค้ารถยนต์ของอังกฤษ ระบุว่า อุปสงค์สำหรับรถพลังไฟฟ้าจะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับรถรุ่นเก่าๆ ที่สำคัญคือผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความเป็นกังวลค่อนข้างมากในเรื่องราคา ระยะทางที่รถจะสามารถวิ่งได้จากเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ และจุดแวะเติมเชื้อเพลิงของรถพลังงานสะอาดที่อาจจะมีจำกัด โดยเฉพาะในระยะแรกๆ

ข่าวทั้งหมด

X