อังกฤษ จะห้ามขายรถที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลเริ่มมีผลตั้งแต่ปี 2583

26 กรกฎาคม 2560, 21:09น.


ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอังกฤษว่าอังกฤษจะห้ามขายและห้ามใช้รถรุ่นที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล เริ่มมีผลตั้งแต่ปี 2583 เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศในประเทศ รัฐบาลจะไม่อนุญาตให้ผู้ขับขี่ใช้รถพลังงานดีเซลและเบนซินวิ่งตามท้องถนนอีกต่อไป เพิ่มเติมว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเลิกใช้รถรุ่นเก่าและหันไปเลือกใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อปีที่แล้วมีการจดทะเบียนรถใหม่เกือบ 2 ล้าน 7 แสนคันในอังกฤษ ส่งผลให้อังกฤษเป็นตลาดรถยนต์รายใหญที่สุดอันดับสองในยุโรป รองจากเยอรมนี



แผนยกเลิกรถพลังเบนซินและดีเซลภายในปี 2583 นับว่า เป้าหมายที่สูงมาก แต่ข่าวดีคือความต้องการของผู้บริโภคสำหรับรถพลังงานสะอาดเช่น รถพลังไฟฟ้า รถที่ใช้เชื้อเพลิงหรือใช้เชื้อเพลิงผสมเช่นรถรุ่นไฮบริดในอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในปี 2558 แต่โดยรวมถือว่ามีสัดส่วนที่ไม่มากคือ ไม่ถึงร้อยละ 3 ของมูลค่าตลาดรถยนต์ของอังกฤษ แต่นายเดวิด ไบลีย์ ศาสตราจารย์ภาควิชากลยุทธ์อุตสาหกรรม คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแอสตัน คาดว่า ยอดขายรถพลังงานสะอาดมีแนวโน้มจะเติบโตในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่องในอนาคต ระบุว่าการห้ามขายรถพลังงานดีเซลและเบนซินภายในปี 2583 ถือว่าเป็นมาตรการที่ถูกต้อง เนื่องจากในอนาคตรถพลังไฟฟ้าจะมีขายตามท้องตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ มีผลให้รถรุ่นเก่าพลังงานดีเซลและเบนซินไม่เหมาะสมกับสภาพสังคมอีกต่อไป



ด้านนายไมค์ ฮาเวส ซีอีโอ ของสมาคมผู้ผลิตและค้ารถยนต์ของอังกฤษ ระบุว่า อุปสงค์สำหรับรถพลังไฟฟ้าจะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับรถรุ่นเก่าๆ ที่สำคัญคือผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความเป็นกังวลค่อนข้างมากในเรื่องราคา ระยะทางที่รถจะสามารถวิ่งได้จากเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ และจุดแวะเติมเชื้อเพลิงของรถพลังงานสะอาดที่อาจจะมีจำกัด โดยเฉพาะในระยะแรกๆ



ทีมต่างประเทศ



CR:CNN Money



 

ข่าวทั้งหมด

X