หลังการให้ข้อมูลผู้ที่อยู่เบื้องหลังการฆ่ายกครัว นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านตำบลบ้านกลาง จังหวัดกระบี่ ของพันตำรวจโทสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับตำรวจสันติบาล 2 พลตำรวจเอกสุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน และพลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าวว่า วันนี้พันตำรวจโทสันธนะ มาในฐานะผู้ให้ข้อมูลเท่านั้น โดยหลักฐานเป็นข้อมูลพยานบุคคลที่อ้างว่าเป็นแหล่งข่าวแต่วันนี้ไม่สะดวกมาให้ข้อมูลและขอกลับไปคุยกับแหล่งข่าวก่อน ไม่ใช่เอกสารหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งข้อมูลที่นำมาบอกเป็นลักษณะ การข่าวที่ไม่มีส่วนใดขัดแย้งกับสำนวนคดีของชุดสืบสวน และ ได้บอกกับพันตำรวจโทสันธนะแล้วว่า เป็นข้อมูลเดิมที่ชุดสืบสวนมีอยู่ตั้งแต่ต้น ขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานในคดีที่เกี่ยวข้องกับโรงโม่หินและยังไม่มีพยานหลักฐานว่ามีบุคคลอื่นจ้างวานฆ่าแต่อย่างใด
หลังจากนี้ตำรวจ ไม่จำเป็นต้องเรียกพันตำรวจโทสันธนะ มาให้ข้อมูลอีก แต่หากยังมีข้อมูลเพิ่มเติมทางตำรวจก็พร้อมเปิดรับฟัง ส่วนกรณีที่พันตำรวจโทสันธนะเรียกร้องให้ย้ายสำนวนคดีมาส่วนกลาง เป็นอำนาจของศาล ตำรวจไม่สามารถก้าวล่วงได้ จากการพูดคุยได้สอบถามไปแล้วว่าเจ๊ชุมพรเป็นใครพร้อมที่จะให้ชื่อ-นามสกุล จริงหรือไม่ พันตำรวจโทสันธนะ อ้างว่า เป็นเพียงชื่อสมมติ ยังไม่สะดวกที่จะให้ชื่อจริงนามสกุลจริง เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของพยาน และข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากได้ พันตำรวจโทสันธนะ ก็ไม่สามารถให้ได้ และข้อมูลที่คุยกันวันนี้ไม่มีความเป็นนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจไม่สามารถนำเข้าสำนวนได้
ส่วนความคืบหน้าในคดี ขณะนี้สำนวนคดีมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 80 อีกร้อยละ20เป็นเพียงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันพนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนคดีโดยเร็วที่สุด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้กำชับให้นำสืบพยานล่วงหน้า เพราะเป็นพยานสำคัญที่รอดชีวิตต้องได้รับการดูแล
ด้านพันตำรวจโทสันธนะ กล่าวว่า การพูดคุยวันนี้เป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งทางตำรวจก็รับฟัง ส่วนเจ๊ชุมพร กับผู้ต้องหาทั้ง8ราย จะมีความเชื่อมโยงหรือไม่นั้น อาจจะมีคนกลางมาเกี่ยวข้องในลักษณะการจ้างวาน ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรง ซึ่งตนเองได้ให้ข้อมูลไปแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยทางตำรวจก็รับฟังข้อมูลและจะขยายผลต่อ