นักวิจัยชี้ เหตุที่งานวิจัยยังไม่สามารถนำไปใช้งานได้จริงก็เพราะไม่ตอบโจทย์ทางสังคมและอุตสาหกรรม

25 กรกฎาคม 2560, 13:22น.


ปัญหาอุปสรรคของระบบการวิจัยในประเทศไทย โดยในการสัมมนาทางวิชาการยุทธศาสตร์การพัฒนางานวิจัยของประเทศและการจัดการเพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่จัดโดยคณะอนุกรรมการดำเนินการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ด้านการวิจัย ในคณะกรรมการวิจัยและพัฒนาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยได้นำนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ มาร่วมแสดงความคิดเห็นถึงสาเหตุของงานวิจัยในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง 


 


ดร.ภาวดี อังค์วัฒนะ รองผู้อำนวยการนาโนเทค แสดงความคิดเห็นว่า ในยุคนี้ถือเป็นยุคทองของการวิจัยที่ได้รับสนับสนุน แต่จากข้อมูลสำรวจ พบว่าการวิจัยและพัฒนาเพื่อเทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงนั้น มีเพียงร้อยละ 1 สาเหตุมาจากงานวิจัยเป็นสิ่งที่ต้องใช้การลงทุนสูงในการที่จะนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง การที่มักมีคนพูดอยู่เสมอว่า งานวิจัยขึ้นหิ้งหรือขาดการต่อยอด ไปสู่การพัฒนาที่แท้จริง สาเหตุหนึ่งเป็นเรื่องของปัญหาด้านตัวชี้วัดและกระบวนการ ซึ่งประกอบด้วยตัวชี้วัดมีความเอนเอียงไปตามความคิดความเชื่อ ค่านิยมของผู้วิจัยทำให้ไม่เกิดผลหรือผลกระทบต่อสังคม และการที่ไม่เกิดผลหรือผลกระทบนั้น มีสาเหตุมาจากการวิจัยมีช่องว่างระหว่างผลผลิตและผลกระทบมากเกินไปจึงจะต้องหาตัวช่วยลดช่องว่างเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ และสุดท้ายระบบการวิจัยและการพัฒนาของประเทศไทย แม้ว่าจะมีการทำกันมายาวนานแต่ก็มักจบเพียงแค่งานวิจัย 1 เล่มที่ขาดการต่อยอด นำไปสู่การปฏิบัติการจริงเพื่อพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม จึงถือเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า อย่างไรก็ตามได้เสนอแนวทางการแก้ไขโดยจะต้องฟังเสียงผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรม ว่ามีความต้องการในการนำงานวิจัยเพื่อไปใช้ในผลิตภัณฑ์จริงมากน้อยเพียงใด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการนำวิจัยขึ้นหิ้งเหมือนที่ผ่านมา โดยงานวิจัยจะต้องตอบโจทย์คือมีผู้สามารถนำงานวิจัยนั้นไปใช้ได้ มีผู้ได้รับประโยชน์จากงานวิจัย 


 


ขณะที่ ดร.สัญชัย คูบูรณ์ ผู้แทนนักวิจัย กล่าวถึงข้อจำกัดของงานวิจัย ว่าในเชิงนโยบายคือการนำเสนอผลงานวิจัยและองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้นั้น ไม่ได้น้ำหนักหากจะพัฒนาไปถึงไทยแลนด์ 4.0 โดยให้ข้อเสนอแนะว่า ต้องนำผลงานวิจัย และองค์ความรู้ไปผลักดันให้ประสบผลสำเร็จ ในด้านอุตสาหกรรมโดยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยของผู้ประกอบการ ว่ามีความต้องการงานวิจัยไปใช้เพื่อสิ่งใด นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเชิงการถ่ายทอดเทคโนโลยี คือขาดเครื่องมือและอุปกรณ์ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิต ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มสัดส่วนในการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตจากระดับห้องปฏิบัติการไปสู่ระดับนำร่อง รวมถึงปัญหาของ การขาดวิศวกรร่วมวิจัยเรียนรู้กระบวนการการออกแบบพัฒนางานวิจัย ไปจนถึงถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มกำลังคนด้านวิศวกร ร่วมวิจัยเพื่อเรียนรู้ร่วมกันในกระบวนการออกแบบ และพัฒนาผลงานวิจัยไปจนถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ของผลิตภัณฑ์ด้วย


...


ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม
ข่าวทั้งหมด

X