นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เหตุเกิดเมื่อตอนค่ำของวันศุกร์แล้ว ตามปกติเราจะเข้มงวดในการดูแลป้องกันการลักทรัพย์ และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในพื้นที่ อยู่แล้ว และในวันเกิดขึ้น รปภ.คนหนึ่ง ได้สังเกตเห็นพนง.โหลดกระเป๋า มีพฤติกรรมผิดปกติ คือเอากระเป๋าใบใหญ่บังตัว และทำอะไรกับกระเป๋าอยู่พักหนึ่ง พอปิดไฟล์ รปภ.คนนี้ก็เดินตามพนักงานโหลด 2 คนไป และขออนุญาตตรวจค้น แต่ทั้ง 2 คน ไม่ให้ตรวจค้น ทางรปภ.เลยวิทยุขอความช่วยเหลือจาก รปภ.คนอื่น จนสามารถตรวจค้นได้ พบเงินสกุลจีน จำนวน 10,000 หยวน หลังจากนั้นมีการขยายผล นำตัวมาสอบปากคำ ทราบว่าทำเป็นครั้งที่ 5 โดยจะเลือกที่กระเป๋าใบใหญ่ เพราะจะเปิดง่าย ล็อคไม่ได้แน่นหนา ไม่ได้เอาเฉพาะเงิน แต่เอาทุกอย่างที่เป็นของมีค่า เมื่อถูกจับกุม พนักงานดังกล่าวได้พ้นสภาพทันที และไม่สามารถกลับเข้ามาทำงานได้อีก ถึงแม้จะเปลี่ยนบริษัทก็ตาม เพราะจะขึ้นแบล็คลิสไว้
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องเดินทาง ขอความกรุณาอย่าเอาของมีค่าเก็บไว้ที่กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง ควรเก็บไว้ที่ตัว และถ้าของเกิดสูญหายให้แจ้งสายการบินที่เดินทางทันที และทางสายบินก็จะแจ้งมาทาง จนท.และจนท.จะทำการตรวจสอบให้
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกิตติพงษ์ กิตติขจร ผอ.ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกัน แถลงการจับกุม นายสิทธิชัย แซ่เตียว อายุ24ปี และนายปิยะพงษ์ จุ้ยสุวรรณ อายุ28ปี ทั้งสองเป็นพนักงานสังกัดบริษัทแห่งหนึ่งทำหน้าที่โหลด และจัดวางกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร ขึ้น-ลง เครื่องบิน ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีของกลางเป็น ธนบัตรสกุลหยวน ฉบับละ100หยวน จำนวน100ฉบับ รวมเป็นเงิน10,000หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ49,600บาท ธนบัตรต่างประเทศ สกุล มนัสเติร์ก จำนวน56มนัสเติร์ก นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อDaniel Welingtonจำนวน1เรือน แว่นตากันแดด ยี่ห้อVisunจำนวน1อัน และแว่นตากันแดด ยี่ห้อAviationจำนวน1อัน โดยจับกุมได้ภายในพื้นที่ปฏิบัติงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในกระเป๋าผู้โดยสารจริง โดยนายสิทธิชัย จะเป็นคนสังเกตว่ากระเป๋าสัมภาระใบไหนที่เป็นซิปรูดไม่มีกุญแจล็อกก็จะใช้ลำตัวบังด้านนอก ก่อนใช้มือล้วงเข้าไปหยิบทรัพย์สินออกมาและซุกซ่อนไว้ในเป้ากางเกง หรือ ยัดใส่รองเท้าเพื่อง่ายต่อการนำออก ด้าน นายสิทธิชัย หนึ่งในผู้ต้องหา ได้ออกมาแฉเส้นทางการเป็นโจร โดยอ้างว่าทำเป็นขบวนการ พร้อมทั้งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูยังสถานที่จริงที่มักถูกลงมือก่อเหตุ ก่อนจะระบุว่า ตนเองเพิ่งเข้ามาทำงานกับบริษัทแห่งนี้ภายในสนามบินสุวรรณภูมิได้เพียง5 เดือนเท่านั้น และได้ลงมือก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วถึง5ครั้ง โดยจดจำพฤติกรรมการก่อเหตุมาจากรุ่นพี่ที่เคยทำงานด้วยกัน แต่ลาออกไปก่อนหน้านี้
ด้าน พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ในส่วนของกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ร่วมขบวนการที่ทางผู้ต้องหาได้ชี้เป้าไว้แล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวทั้งหมดแล้วอยู่ระหว่างเฝ้าดูพฤติกรรม ในส่วนของผู้ต้องทั้งสองคนนี้เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณ:ภาพจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ