2พรรคการเมืองสหรัฐบรรลุข้อตกลงคว่ำบาตรรัสเซีย อิหร่านและเกาหลีเหนือ/โปแลนด์ประท้วงกฎหมายปฏิรูปศาลฎีกา

24 กรกฎาคม 2560, 06:08น.


การเมืองสหรัฐ นักการเมืองของพรรครีพับลิกันและเดโมแครต บรรลุข้อตกลงในการผ่านร่างกฎหมายเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ โดยกฎหมายต่อต้านกิจกรรมของอิหร่านที่บ่อนทำลายเสถียรภาพ ซึ่งผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว ถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หลังจากสมาชิกจากพรรครีพับลิกันเสนอรวมมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือไว้ในร่างกฎหมายนี้ด้วย โดยสภาจะลงมติในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ เพื่อรับรองร่างกฎหมายใหม่ หลังจากนั้นรัฐสภาจะมีเวลา 30 วันในการไต่สวนและลงมติว่าจะรับรองหรือคัดค้านข้อเสนอ ขณะที่สมาชิกรัฐสภาจำนวนมากหวังว่า ร่างกฎหมายใหม่จะเป็นการส่งสัญญาณถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้คงจุดยืนแข็งกร้าวกับรัสเซีย นางแนนซี เปโลซี ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาล่าง กล่าวว่า พฤติกรรมของรัสเซียกดดันให้คองเกรสต้องผ่านมาตรการลงโทษ ออกมาบังคับใช้โดยเร็วที่สุด



นายแอนโธนี สแกรามุชชี นักการเงินที่มารับตำแหน่งใหม่เป็นผู้อำนวยการสื่อสารของทำเนียบขาว เริ่มการทำงานในวันแรกด้วยการลบทวีตที่เขาเคยแสดงความเห็นแตกต่างกับนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพ นโยบายเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ศาสนา รวมถึงการควบคุมอาวุธปืน



ตำรวจเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา พบร่างผู้เสียชีวิต 8 ศพและผู้ที่มีอาการป่วยจากการขาดอากาศหายใจอีก 20 คนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ของรถบรรทุกพ่วง ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถห้างวอลมาร์ต ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะเป็นคดีการค้ามนุษย์ โดยพนักงานห้างวอลมาร์ตเปิดเผยว่า มีคนจากในรถบรรทุกมาขอน้ำดื่ม และเมื่อพนักงานนำน้ำดื่มไปให้ก็พบว่ามีผู้ที่แออัดอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์จึงรีบแจ้งตำรวจ และการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีรถยนต์หลายคันเข้ามารับผู้ที่อยู่ในคอนเทนเนอร์



ส่วนที่อัฟกานิสถาน เกิดเหตุลักพาตัวชาวบ้าน 7 คนในจังหวัดกันดะฮาร์ ซึ่งต่อมากลุ่มตอลีบานยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือและสังหารทั้ง 7 คนแล้ว นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีก 30 คนที่ถูกลักพาตัวไปจากค่ายทหารที่อยู่บนทางหลวงระหว่างเมืองกันดาฮาร์และอูรุซกัน โดยสหประชาชาติระบุว่าจำนวนของพลเรือนที่เสียชีวิตจากความรุนแรงในอัฟกานิสถาน สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกถึง 1,600 รายแล้ว



กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ลงนามข้อตกลงร่วมกับกบฏซีเรียสายกลางในการเจรจาที่กรุงไคโร เกี่ยวกับวิธีการทำงานของเขตปลอดภัยใกล้กรุงดามัสกัส แต่ข้อตกลงยังไม่นำมาบังคับใช้อย่างสมบูรณ์



ประธานาธิบดีเรเซ็ป เทย์ยิป เออร์โดกาน ผู้นำตุรกี เตือนเยอรมนีไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของตุรกี หลังจากที่เยอรมนีแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการที่ตุรกีควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนหลายคน และเยอรมนีเตือนว่าอาจมีผลต่อความสัมพันธ์และการลงทุน



ชาวโปแลนด์จำนวนมากร่วมการชุมนุมประท้วงร่างกฎหมายปฏิรูปศาลฎีกาอย่างต่อเนื่อง โดยมีนายเลช วาเลซา อดีตประธานาธิบดีเข้าร่วมการรณรงค์ด้วย และเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันปกป้องประชาธิปไตย เนื่องจากกฎหมายนี้ให้อำนาจรัฐบาลเลือกผู้ชิงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกาได้ ซึ่งผิดหลักการถ่วงอำนาจอธิปไตยทั้งสาม อย่างไรก็ตามกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาแล้ว รอให้ประธานาธิบดี อังเดร ดูดา ลงนามภายใน 21 วัน



รัฐบาลอิสราเอลเผยว่า มีความเต็มใจที่จะพิจารณาทางเลือกอื่นๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยในฮาเร็ม อัลชารีฟ หรือเทมเปิล เมาต์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเยรูซาเลม นอกไปจากการติดตั้งเครื่องตรวจจับโลหะบริเวณทางเข้าพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์รวมถึงมุสลิมพากันประท้วง กล่าวหาว่าอิสราเอลพยายามควบคุมพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มอีก



ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ออกคำสั่งให้ตำรวจสามารถยิงผู้ลักลอบค้ายาเสพติดได้ทันที หากผู้ต้องสงสัยขัดขืนการจับกุม เนื่องจากในปัจจุบันอินโดนีเซียมีปัญหายาเสพติดรุนแรง แต่คำสั่งนี้ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเลียนแบบประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์



กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อน หลังจากที่มีผู้ป่วยมากกว่า 1,800 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการเป็นลมแดด และในบางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 36 องศาเซลเซียส ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงแนะนำให้ประชาชนดื่มน้ำ และใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อระบายความร้อน



ตำรวจในรัฐราชาสถานของอินเดียจับกุมขบวนการลักน้ำมันดิบปริมาณมากกว่า 50 ล้านลิตร มูลค่า 7,750,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากบ่อน้ำมันของบริษัท เวเดนตา รีสอร์ต ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ โดยมีพนักงานกว่า 75 คนมีส่วนร่วมในการก่อเหตุ และเจ้าหน้าที่ต้องพยายามตามหาตัวมาเกือบ 6 ปี ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 25 คน ซึ่งยอมรับว่าขโมยน้ำมันไปขายให้เจ้าของโรงงานที่อยู่ใกล้เคียง



ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ รายงานว่า เศรษฐกิจเกาหลีเหนือโตเร็วที่สุดในรอบ 17 ปี ในปี 2559 แม้ว่านานาประเทศจะใช้มาตรการลงโทษเพื่อควบคุมการแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็ตาม โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ถึงร้อยละ 3.9 โดยอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงานเป็นตัวขับเคลื่อนให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากสุดนับตั้งแต่โตร้อยละ 6.1 ในปี 2542



ขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือยังมีการส่งออกเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4.6 มากที่สุดนับตั้งแต่ที่เติบโตร้อยละ 11.8 ในปี 2556 การส่งออกทั้งหมดของเกาหลีเหนือซึ่งไม่รวมการค้ากับเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ในปีที่ผ่านมา เป็น 2,820 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เกาหลีเหนือไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจ แต่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้เผยแพร่ข้อมูลจีดีพีของเกาหลีเหนือทุกปีนับตั้งแต่ปี 2534 โดยอาศัยข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาล เช่น กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ



..

ข่าวทั้งหมด

X