ไต่สวนพยานนัดสุดท้ายคดียิ่งลักษณ์จำนำข้าว/ รองนายกฯย้ำ พิจารณาคดีลับหลังจำเลยทำได้/เณรคำนอนเรือนจำ ตรวจหลักฐาน2คดี 18 ก.ย.

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

+++วันนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานปากสุดท้ายในคดีรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ต้องกำชับเจ้าหน้าที่ต่างมีหน้าที่กันอยู่แล้ว แต่สื่อมวลชนต้องช่วยกำชับและเตือนว่าอย่าก่อความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ศาลและขอให้เคารพศาล

+++ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการดูแลความเรียบร้อยช่วงพิจารณาคดีรับจำนำข้าววันนี้า ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะเคยชี้แจงไปแล้วว่าการออกมาให้กำลังใจสามารถทำได้ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์เคยมาขึ้นศาลหลายครั้งและครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย คาดว่าจะมีมวลชนมาให้กำลังใจ300-500คน สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะไปดูแลส่วนของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ก็จะดูแลในภาพรวม จึงไม่มีอะไรที่น่าห่วง

+++ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า  น.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความกระบวนการพิจารณาคดีจำนำข้าวว่ามาตรา5 ของพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 ขัดรัฐธรรมนูญปี2560 หรือไม่ว่า ถือเป็นสิทธิ์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาว่าสมควรต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากศาลเห็นสมควรต้องยื่นตีความ การสืบพยานก็ต้องดำเนินต่อไป เพียงแต่ยังพิพากษาไม่ได้เท่านั้นเองเพราะต้องรอคำวินิจฉัย

+++ด้านที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง หรือกรรมาธิการร่วม 3ฝ่าย หลังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีความเห็นโต้แย้งว่า ร่างพรป.ดังกล่าวมี 5ประเด็นขัดรัฐธรรมนูญ อาทิ การให้สมาชิกพรรคการเมืองมีส่วนร่วมสรรหาผู้สมัครเลือกตั้ง ที่ยังขาดกระบวนการป้องกันการทุจริต และ การกำหนดให้หัวหน้าพรรคการเมืองอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งลำดับ 1 ในระบบบัญชีรายชื่อเท่านั้น เป็นการตัดสิทธิการลงเลือกตั้งแบบแบ่งเขตของหัวหน้าพรรคการเมืองโดยต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 15วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก่อนเสนอให้ สนช.ลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่กำหนดประชุมนัดแรกวันที่ 25กรกฎาคมนี้

+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงการข้อสังเกตว่าร่างกฎหมายนี้ที่สามารถพิจารณาคดีลับหลังได้จำเลยได้ ไม่เป็นไปตามหลักสากล นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปตามหลักสากล เนื่องจากเป็นการพิจารณาลับหลังเฉพาะกรณีที่จำเลยหลบหนี จากเดิมที่ไม่สามารถพิจารณาลับหลังได้เลย เพราะต้องเปิดโอกาสให้จำเลยได้ซักค้านพยานของอีกฝ่าย ต่อมาเมื่อเห็นว่ามีทนายความมาซักค้านแล้ว จำเลยจึงไม่จำเป็นต้องไปศาลก็ได้

+++ไพรมารีโหวต นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)กล่าวถึงแนวทางการปรับแก้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสนช.จะเสนอกมธ.ร่วม 3 ฝ่าย ให้การทำไพรมารีโหวตมีโทษยุบพรรค ที่เปิดให้ให้ใครสามารถฟ้องก็ได้ว่า พรรคต้องตรวจสอบ เพราะหากเสนอไปเท็จ รายงานเท็จ หัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบ จะมีโทษไม่แรง ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง มีผลทำให้เล่นการเมืองไม่ได้สักพักหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นยุบพรรคเพราะเป็นเรื่องภายในพรรค ซึ่งหากให้ กกต.เป็นผู้ดำเนินการ เท่ากับให้กกต.เข้าไปวุ่นวายภายในพรรคไม่ใช่เรื่องของการเลือกตั้ง

+++โยกย้ายนายทหาร พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)  กล่าวว่า ส่วนของกองทัพบกว่า ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ แต่ต้องส่งเอกสารบัญชีโยกย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลประจำปี2560ให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมภายในวันที่ 31กรกฎาคม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งการพิจารณาเลื่อนยศปรับย้ายเป็นไปตามห้วงเวลา ยึดกรอบความเหมาะสมภาพรวม ทั้งเรื่องอาวุโส ผลงาน ตำแหน่งและสถานการณ์ในอนาคต จากนั้นพล.อ.ประวิตร จะประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลต่อไป

+++ภายหลังรับตัวนายวิรพล สุขผล อดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือเณรคำ อดีตประธานสงฆ์และผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ จากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค. หลังจากศาลชั้นต้นแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งตัวกลับมาประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อ่านคำสั่งฟ้องแก่นายวิรพล ดังนี้ คดีแรกคือ คดีพิเศษที่ 186/2556 สั่งฟ้องฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี ส่วนข้อหาอื่น คือข้อหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และพาเด็กไปเพื่อการอนาจาร ตามมาตรา 279 กับ 283 ทวิ มีอายุความ 15 ปี แต่เหตุเกิดปี 2543 คดีจึงขาดอายุความ อัยการจึงยุติคดี คดีที่สองคือ คดีพิเศษที่ 151/2556 อัยการสั่งฟ้องข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมหรือเท็จฯ  โทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ทั้งนี้ อัยการขอให้คืนทรัพย์แก่ผู้เสียหาย 29 คน รวม 28.6 ล้านบาทเศษด้วย พร้อมขอให้นับโทษต่อหากมีคดีใดตัดสินก่อน กับขอคัดค้านการประกันตัวด้วย เพราะมีพฤติการณ์จะหลบหนี  ศาลประทับรับฟ้องไว้และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 18 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก มีคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 3 ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินมูลค่า 43 ล้านบาทเศษของนายวิรพลกับพวก ซึ่งเป็นผู้คัดค้านรวม 8 คน ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯสำหรับคดีแพ่งริบทรัพย์ดังกล่าว เป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ซึ่งนายวิรพลและผู้ที่มีชื่อทรัพย์สินสามารถยื่นอุทธรณ์คัดค้านต่อศาลอุทธรณ์ได้อีกภายใน 30 วัน

+++กรณีนายรพีภัค ธราธรพิทักษ์ ผู้ไถ่ชีวิต ได้เผยแพร่เรื่องราวของ “ควายบุญรอด” ควายเพศเมีย จาก จ.เพชรบูรณ์ ที่ร่วมกับเพื่อน ไถ่ชีวิตควายดังกล่าวขณะที่กำลังจะนำส่งไปโรงฆ่าสัตว์ ด้วยเงิน 35,000 บาท ก่อนจะนำไปให้ปศุสัตว์ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ดูแลต่อไป ต่อมาทราบว่าปศุสัตว์ได้มอบ "ควายบุญรอด" ให้กับเกษตรกรรายหนึ่งเพื่อนำไปเลี้ยง แต่ถูกนำตัวไปโรงฆ่าสัตว์อีกครั้งเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กแฟนเพจ มูลนิธิอนุรักษ์โคกระบือไทยและให้ชีวิตใหม่แก่สัตว์ถูกทอดทิ้ง นัดรวมตัวกันวันเสาร์ที่ 22 ก.ค. จะมีเรียกร้องให้ความเป็นธรรมกับควายบุญรอด เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานปศุสัตว์ อำเภอเขาค้อ มาช่วยควายบุญรอด อย่าให้ต้องโดนเชือดตายฟรีๆ เลย