หลังใช้ม.44 ปลดล็อครถไฟความเร็วสูง ที่ประชุมสนช.เร่งพิจารณาทันที รมว.คมนาคม ชี้ผลดีเชื่อมโยงจีน-อาเซียน

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ   มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมโดยมีการแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบและให้อภิปรายโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคกรุงเทพฯ-หนองคายระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเสนอโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคกรุงเทพฯ-หนองคายระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา โดยมีเหตุผลความจำเป็นและสาระสำคัญสรุปดังนี้ โครงการดังกล่าวมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ปัจจุบันมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีการค้าการลงทุนกับประเทศไทยสูงอีกทั้งเป็นการสนับสนุนภูมิภาคของประเทศไทยให้เป็นการเชื่อมโยงของภูมิภาคอาเซียนและเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก จึงถือเป็นเส้นทางในการเพิ่มศักยภาพและโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทยดังนั้นการตัดสินใจลงทุนดำเนินการจึงถือเป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของประเทศซึ่งหากประเทศไทยสามารถเชื่อมโยงการขนส่งไปกับจีนได้ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์สร้างความเจริญให้กับประเทศทางระยะยาว มีการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่นอีกด้วย

โครงการในช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ไทยจะเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าโครงการ 179,413 ล้านบาท แบ่งสัญญาโครงการออกเป็น 2 สัญญา โดยสัญญาที่ 1 งานด้านโยธา ไทยจะดำเนินการทั้งหมดโดยการประกวดราคาตามระเบียบของไทย คิดเป็นร้อยละ 75 หรือ 137,379.91 ล้านบาท และสัญญาที่ 2 แบ่งเป็น 3 สัญญา งานด้านออกแบบ /งานด้านควบคุมโยธา และงานด้านระบบรถไฟรับฝึกอบรม โดยให้ตีนเป็นผู้ดำเนินการคิกเป็นร้อยละ 25 หรือ 42,032.3 ล้านบาท ของมูลค่าโครงการ

สำหรับแนวเส้นทางจะเริ่มต้นที่สถานีกลางบางซื่อ /ดอนเมือง/อยุธยา/สระบุรีปากช่อง สิ้นสุดที่นครราชสีมา ช่วงที่ 1 รวมระยะทาง 253 กม. จำนวน 6 สถานี โดยจะใช้ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีหรือน้อยกว่า เปิดให้บริการวันละ 16 ชั่วโมงต่อวันตั้งแต่ 6.00 -22.00 น  โดยมีค่าโดยสาร 535 บาทและจะมีการเพิ่มอีกร้อย 15 ทุก ๆ 5 ปี โดยคาดการณ์ว่าหลังจากเปิดใช้ในปี 2564 ช่วงแรกจะมีคนใช้บริการประมาณ 5,000 กว่าคนและเพิ่มเป็น 10,000 กว่าคนตามลำดับ  โดยสมาชิก สนับสนุนโครงการดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้การกระจายความเจริญไปสู่พื้นที่ชนบทหรือสถานที่ที่รางรถไฟผ่าน ตั้งข้อสังเกตถึงการบริหารจัดการงบประมาณ ขณะเดียวกันต้องการให้เน้นในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีของไทยที่ไม่เพียงแต่พึ่งพาเทคโนโลยีจากประเทศจีนเพียงอย่างเดียวด้วย