ขยายผลคนบงการฆ่า8ศพ/ส่งอดีตเณรคำฟ้องศาล/24ก.ค.-7ส.ค.เปิดศูนย์ทั่วปท.แจ้งแรงงานต่างด้าว

20 กรกฎาคม 2560, 08:48น.


+++หลังจากที่ได้รับตัวนายวิรพล สุขผล หรืออดีตเณรคำ เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)  พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้จัดเตรียมทนายความของรัฐไว้ให้ผู้ต้องหาเพื่อร่วมฟังการสอบสวนตามกฎหมาย แต่จะต้องสอบถามผู้ต้องหาด้วยว่ามีความประสงค์จะใช้สิทธิตามกฎหมายในการใช้ทนายความส่วนตัวและให้ญาติพี่น้องเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วยหรือไม่ หากไม่ประสงค์จะใช้สิทธิตามกฎหมายก็ใช้ทนายความที่รัฐจัดไว้ให้ได้ ขั้นตอนการสอบสวนจะแล้วเสร็จเมื่อคืนนี้ ดีเอสไอประสานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)นำใบปาราชิกมาดำเนินการสึกให้พ้นจากความเป็นพระ หลังถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวด้วย แจ้งข้อหาที่ดำเนินคดี 6 ข้อหา ส่วนสาเหตุที่นายวิรพลไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแคลิฟอร์เนีย ให้เหตุผลว่าอยากเดินทางกลับประเทศไทย และอยากให้บ้านเมืองสงบสุข และอาจมีเหตุผลมาจากหลักฐานที่ดีเอสไอและอัยการนำสืบในศาลค่อนข้างแน่นหนาการยื้อคดีเพื่อให้ขั้นตอนยืดยาวออกไปจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีอีกเป็นจำนวนมาก เช้านี้จะส่งตัวนายวิรพลให้อัยการพิเศษ เพื่อส่งฟ้องศาล ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอจะค้านประกันตัวในชั้นศาลด้วย ส่วนการติดตามทรัพย์สิน ทราบว่าเงินที่ประชาชนบริจาคให้นายวิรพลเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินแล้ว โดยส่วนที่อยู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ได้ทำบัญชีและอายัดไว้หมดแล้ว



+++จุดเริ่มต้นของคดีนี้ มาจากการร้องทุกข์กล่าวโทษของนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่ต้องการให้ดีเอสไอรับสอบสวนเป็นคดีพิเศษเนื่องจากอดีตหลวงปู่เณรคำ มีพฤติการณ์อวดอุตริอภินิหารเพื่อฉ้อโกงเงินบริจาคจากประชาชนและต้องอาบัติปาราชิก จากการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2553 อดีตเณรคำถูกจับขณะอยู่กับสีกายามวิกาลท้องที่ สภ.คำป่าหลาย จ.มุกดาหาร แต่ขณะนั้นคดีไม่มีความคืบหน้า ในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ รวบรวมหลักฐานเป็นตัวอย่างสารพันธุกรรม 4 ชิ้น ได้แก่ ปลายซิการ์ที่ใช้สูบ เศษจีวร 2 ชิ้นและพระเครื่อง ผลการตรวจพิสูจน์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าเศษซิการ์พบคราบน้ำลายตรงเยื่อบุกระพุ้งแก้ม ปรากฏสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอตรงกับเด็กชายที่เป็นบุตรของหญิงสาวที่มีเพศสัมพันธ์กับอดีตเณรคำชี้ให้เห็นว่าบุคคลทั้ง 3 เป็นพ่อแม่ลูกกันจริง หลักฐานชิ้นนี้นำไปสู่การดำเนินคดีในข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี และคดีพรากผู้เยาว์



+++คดีอื่นๆ เช่น ฉ้อโกงประชาชน  ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และความผิดฐานฟอกเงิน เป็นผลมาจากพฤติการณ์อวดอุตริ มีหลักฐานว่า ในการรับกิจนิมนต์และเดินสายเทศน์ตามสถานที่ต่าง ๆ จะอวดอ้างว่าตัวเองเป็นพระสงฆ์ชรารูปหนึ่งที่มรณภาพแล้ว กลับชาติมาเกิดสามารถระลึกชาติได้ จนกลายเป็นที่มาของชื่อ หลวงปู่เณรคำ



+++คดี8ศพที่จ.กระบี่ ขยายผลต่อ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ศาลอนุมัติ หมายจับกลุ่มผู้ต้องสงสัยสังหารโหดนายวรยุทธ สังหลัง พร้อมครอบครัวและญาติ จำนวน 8 คน นำโดย นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ บังฟัต ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิด ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยทำร้ายจิตใจผู้อื่น แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน และซ่องโจร พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ 10. กล่าวว่าประเด็นสังหารยังไม่พบปมประเด็นเพิ่ม มีเพียงประเด็นขัดแย้งเรื่องที่ดินที่ผู้ใหญ่บ้านนำไปขายฝากไว้กับนายซูริก์ฟัตเท่านั้น และยังไม่มีการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม



+++วันนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะลงพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อรับมอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน จากเจ้าหน้าที่ทหาร กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จากนั้นนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.อ่าวลึก เพื่อรวบรวมเอกสารให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ก่อนควบคุมตัวขออนุมัติศาลฝากขังที่เรือนจำจังหวัดกระบี่ ผัดแรกเป็นระยะเวลา 12 วัน



+++พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล 2 พร้อมเข้าให้ข้อมูลกับพล.ต.อ.จักรทิพย์ และชุดสืบสวน หากจะมีการเรียกผู้ที่มีข้อมูลเชิงลึกเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม ตำรวจต้องมีมาตรการคุ้มครองพยานที่ดีด้วย หลังจากเปิดเผยข้อมูลลับที่อ้างว่าได้จากบุคคลใกล้ชิดในพื้นที่ว่า มูลเหตุฆ่าล้างครัวที่แท้จริงมาจากเรื่องผลประโยชน์มูลค่า 40-50 ล้านบาท



+++ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา รวม 11 สำนวน ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายบรรจง หรือโกจง ปองพล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา จำเลยที่ 1,นายอ่าสัน หรือบังสัน อินท ธนู อดีตสมาชิกสภาเทศบาล ต.ปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 2, นายประสิทธิ์ หรือบังเค เหลิมเหล๊ะ อดีตรองนายกเทศมนตรี ต.ปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 6, นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีต นายก อบจ.สตูล จำเลยที่ 29, พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก จำเลยที่ 54, กลุ่มตำรวจและพลเรือน เป็นจำเลย รวม 103 คน



+++อัยการได้ทยอยฟ้องจำเลยตั้งแต่เดือน ก.ค. 2558 ในความผิด 16 ข้อหา ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ ฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 ร่วมกันหรือนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, พ.ร.บ.อาวุธปืน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหาย โดยการกักขังควบคุมตัวชาวเมียนมา และชาวบังกลาเทศ ซึ่งเป็นต่างด้าวในแคมป์บริเวณเทือกเขาแก้ว จ.สงขลา เพื่อบังคับใช้แรงงานลักษณะการค้ามนุษย์ มีการทำร้ายร่างกายมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งได้มีการโอนคดีจากศาลนาทวี จ.สงขลา มาพิจารณาคดีที่แผนกคดีค้ามนุษย์ของศาลอาญา ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.2558



+++ศาลได้อ่านคำพิพากษาโดยใช้เวลานานกว่า 13 ชั่วโมง อ่านคำพิพากษาทั้งสิ้น 550 หน้า โดยตัดสินให้จำคุก พล.ท.มนัส คงแป้น จำเลยที่ 54 อดีต ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนแยกที่ 1 ระนอง 27 ปี, จำคุกนายบรรจง หรือโกจง 78 ปี, จำคุกนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง 75 ปี โดยพิพากษาเอาผิดจำเลย รวม 62 ราย โทษจำคุกตั้งแต่ 4-94 ปี โดยจำเลยที่ถูกจำคุกสูงที่สุด 94 ปี คือนายซอเนียง อานู หรืออันวา หรือโซไนท์ อายุ 40 ปี ชาวเมียนมา ซึ่งทำหน้าที่เป็นนายหน้าค้ามนุษย์ ส่วนจำเลยอีก 40 คน ศาลพิพากษายกฟ้อง และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับชาวโรฮีนจา 58 ราย เป็นเงิน 4,400,250 บาท



+++การเปิดศูนย์รับแจ้งการใช้แรงงานต่างด้าว 100 ศูนย์ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค. นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด จะเป็นผู้กำหนดพื้นที่ ขณะที่ กรุงเทพมหานคร(กทม.)มี 11 ศูนย์ เริ่มเปิดให้บริการในวันแรกวันที่ 24 ก.ค. และพยายามกระจายไปทั่วทุกมุมเมือง เน้นให้นายจ้างไปยื่นเอกสารด้วยตัวเอง สามารถยื่นเอกสารผ่านอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ www.doe.go.th โดยดาวน์โหลดรูปถ่ายแรงงานต่างด้าว 2 นิ้ว 3 รูป สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนนายจ้าง แต่หากเป็นนิติบุคคลจะต้องนำสำเนาการจดทะเบียนไปด้วย และเจ้าหน้าที่จะออกใบรับที่มีรหัส เพื่อนัดหมายนายจ้างกับลูกจ้างมาสัมภาษณ์อีกครั้ง



+++กรณีแรงงานเมียนมาถูกนายหน้าฝั่งเมียนมาหลอกทำเอ็มโอยู เสียเงินคนละ 5 แสนจ๊าดหรือประมาณ 13,000 บาท เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย แต่เข้ามาแล้วไม่ได้งานทำ ขณะนี้ได้พูดคุยกับอธิบดีกรมแรงงานของเมียนมาแล้ว พร้อมยืนยันว่าความผิดนี้ไม่ได้รับการยกเว้นตามคำสั่ง คสช. ที่ให้ชะลอโทษตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 จึงขอเตือนว่าการทำผิดกฎหมายด้วยการแอบอ้างนำเข้าแรงงานผิด กฎหมาย จะมีโทษหนักมาก จำคุก 3-6 ปี ปรับ 6 แสนบาท-1 ล้านบาทต่อแรงงาน 1 คน โดยนายกฯสั่งกำชับให้จัดการอย่างเฉียบขาด



+++คดีอุบัติเหตุสำคัญ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นัดอ่านคำพิพากษาคดีนายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี ขับรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ พุ่งชนท้ายรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด จนเกิดไฟลุกไหม้เป็นเหตุให้ นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี ทั้งคู่เป็นนิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เสียชีวิตคาซากรถ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 คดีนี้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายเจนภพ 7 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย 3.ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย 4.ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ 5.ขับรถในขณะมึนเมา 6.เสพยาเสพติดในขณะขับรถ และ 7.ขับรถเร็ว แต่นายเจนภพสารภาพเพียง 3 ข้อหาคือ 1.ขับรถโดยประมาท 2.ขับรถด้วยความเร็ว และ 3.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ส่วนอีก 4 ข้อหานายเจนภพให้การปฏิเสธ



+++ศาลพิจารณาพยานหลักฐานแล้วพิเคราะห์ว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกในหลายมาตรา พิพากษาให้รับโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ คงเหลือจำคุก 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีวิต



+++นายปริญญา สนิทชน ทนายความของครอบครัวนายกฤษณะ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในส่วนของข้อหายาเสพติดและข้อหามึนเมานั้น ศาลตัดสินให้ยกฟ้อง เนื่องจากว่าพยานหลักฐานโจทก์รับฟังหลักฐานได้ไม่เพียงพอ โดยข้อหาเมาสุรา ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานโจทก์ให้การขัดแย้งในเรื่องการเจาะเลือดจำเลยในวันเกิดเหตุ ไม่อาจฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดในข้อหาเมาสุรา โดยภายหลังจากพนักงานสอบสวน ส่งสำนวนให้โรงพยาบาลสมิติเวชทำการเจาะเลือดเพื่อหาสารเสพติด ในสำนวนไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าสำนวนการสอบสวนทำขึ้นเมื่อใดจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงยกประโยชน์ให้จำเลย



+++น.ส.นงครัตย์ รุ่งแสง น้องสาวนายกฤษณะ กล่าวว่า พอใจในคำตัดสินของศาล ถือเป็นบรรทัดฐานในสังคมเช่นเดียวกัน ส่วนในเรื่องสารเสพติดของจำเลยไม่ติดใจตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว



+++น.ส.กัญจนา ฮ้อแสงชัย น้องสาว น.ส.ธันฐภัทร์ บอกว่า คดีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ของสังคม ชี้ให้เห็นว่ากรณีการที่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ศาลสามารถพิพากษาให้จำคุกโดยไม่ต้องรอลงอาญา คดีให้เป็นไปตามขบวนการของทนายความ สิ่งที่ทำผลที่เกิดขึ้นในวันนี้เกิดจากผู้กระทำผิด         



 

ข่าวทั้งหมด

X