อดีตเณรคำถึงไทยแล้ว ดีเอสไอฝากขังส่งเข้าเรือนจำพรุ่งนี้

หลังพนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไปรับตัวนายวิรพล สุขผล อดีตพระภิกษุ ชื่อพระวิรพล ฉัตติโก หรือเณรคำ อายุ 38 ปี อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จังหวัดศรีษะเกษ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนตามพ.ร.บ. ส่งผู้ร้ายข้ามแดน และสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา กลับมาดำเนินคดีตามหมายจับศาลอาญา 6 ข้อหา ได้แก่ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์/ฉ้อโกงประชาชน/พ.ร.บ. ฟอกเงิน/กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี/กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี/พรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี

พันตำรวจเอก ไพสิฐ กล่าวว่า อดีตเณรคำจะทำการปลดผ้าเหลืองภายในคืนนี้ โดยอดีตเณรคำมีความผิดจากการทำคดีเมื่อปี 2552 - 2553 โดยมีการร้องทุกข์หลายข้อหา ก่อนหลบหนีไปต่างประเทศ เมื่อเณรคำหลบหนีไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้ทำการประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไป และได้เดินทางไปชี้แจงถึงเหตุผลในการขอตัวในครั้งนี้

ทั้งนี้ในช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าหน้าที่ DSI จะคุมตัวอดีตเณรคำไปให้อัยการคดีพิเศษส่งฟ้องต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ DSI คัดค้านประกัน เนื่องจากอดีตเณรคำมีมีพฤติการณ์หลบหนี ส่วนเดินทางหลบหนีอย่างไร และจะมีผู้ให้การช่วยเหลือหรือไม่นั้นจะต้องสอบปากคำตลอดทั้งคืนต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

ส่วนความพร้อมของห้องขังชั้น 6 นั้น อธิบดี DSI ยืนยันว่ามีความพร้อมและตรวจเช็คกล้องวงจรปิดครบทุกตัว ไม่พบข้อบกพร่อง รวมทั้งเน้นย้ำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ตรวจตราเข้มงวด อย่างไรก็ตามอดีตเณรคำไม่ได้มีความเครียดหรือพฤติกรรมจะทำร้ายตัวเอง โดยอดีตเณรคำระบุชัดเจนแล้วว่าจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ส่วนการสอบสวน นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง DSI ระบุว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา 2 ชุด และทาง DSI ได้เตรียมทนายอาสา และแพทย์ไว้ตรวจร่างกาย เก็บ DNA ซึ่งการสอบสวนจะแล้วเสร็จภายในคืนนี้ โดยอดีตเณรคำไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ และทาง DSI ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ทั้งนี้การที่อดีตเณรคำไม่ได้ใช้สิทธิการขออุทรณ์ที่ศาลของรัฐแคลิฟอเนียร์ เนื่องจากอดีตเณรคำต้องการที่จะกลับประเทศไทย

ขณะเดียวกันในส่วนของการยึดทรัพย์สินของอดีตเณรคำนั้น ได้มีการพิสูจน์ทราบแล้วรวมถึงทรัพย์สินที่มีการแปลงเป็นรถยนต์ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดอยู่อยู่ในสำนวนแล้ว ส่วนทรัพย์สินในต่างประเทศ อยู่นอกเหนืออำนาจของพนักงานสอบสวน

ในส่วนของการแต่งกายเป็นพระนั้น นายณัฐกิตติ์ ไชยวรรณรัตน์ นักวิชาการศาสนา ชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ระบุว่า ทาง DSI ได้ติดต่อไปทางเจ้าคณะจังหวัดศรีษะเกษ เพื่อทำการสึกเณรคำแล้ว และทางพศ. ได้มีคำสั่งปราชิกออกมาแล้ว ส่วนก่อนหน้านี้ที่ครองผ้าเหลืองอยู่ เพราะอดีตเณรคำยังไม่ทราบคำสั่งจากทางเจ้าคณะอย่างเป็นทางการ จึงถือว่ายังไม่ผิดกฎหมายเรื่องแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ เพราะการปราชิก ต้องแจ้งต่อหน้า ซึ่งคำสั่งปราชิกนั้นออกมาหลังจากที่อดีตเณรคำหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ทั้งนี้อดีตเณรคำจะไม่สามารถบวชเป็นพระได้อีกเนื่องจากถูกปราชิก หากบวชอีกจะมีความผิดทางอาญา