สรุปข่าว 19.35 น.
+++ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ยังมีสถานการณ์ 6 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย ระนอง ยโสธร ตราด และพระนครศรีอยุธยา รวม 24 อำเภอ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่าจากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกและฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด
+++ศาลจังหวัดกระบี่ ได้ออกหมายจับ 11 ข้อหาหนัก กับ 8 ผู้ต้องหา ในคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ โดยผู้ต้องหา 8 คน ประกอบด้วย1. นายซูริกฟัต บ้านนบวงศ์กุล2. นางสาวชลิตา สังขโชติ 3. นายประจักษ์ บุญทอย 4. นายคมสรรค์ เวียงนนท์5. นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ6. นายธวัฒชัย บุญคง7. นายอรุณ ทองคำ และ 8. นายธนชัย จำนอง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าวว่า ผู้ที่ลงมือสังหารนั้น มีมากกว่า 1 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้อีก 3-4 คน ซึ่งอาจเป็นผู้เกี่ยวข้องหรือเป็นพยาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการต่อไป
++++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า ได้รับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว คาดว่าใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เบื้องต้นทราบว่า มีการแก้ไขเฉพาะวิธีพิจารณาคดี ซึ่งหากไม่มีอะไรที่เกินเลยจากหลักการ ก็คงไม่โต้แย้ง ยืนยันว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่มีส่วนไหนที่ขัดต่อการอำนวยความยุติธรรม และหลักสากล หรือ ไปตัดสิทธิผู้ที่ถูกกล่าวหา อีกทั้ง ยังให้สิทธิมากกว่าปกติด้วยซ้ำ ยกเว้นการหลบหนี ซึ่งไม่ถือเป็นสิทธิ และไม่ได้ตัดสิทธิที่จะส่งทนายมาต่อสู้คดี lj;oเรื่องการหมดอายุความ จะไม่มีการใช้ย้อนหลัง ดังนั้น การหลบหนีคดีก็ยังใช้อายุความเดิม ไม่เช่นนั้นจะไม่เป็นธรรม และกรณีที่ศาลตัดสินไปแล้ว ก็ไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะหยุดนับอายุความตามกฎหมายฉบับนี้ เพราะอะไรที่เป็นโทษ จะไม่นำมาใช้ย้อนหลังอยู่แล้ว สำหรับคดีที่ศาลตัดสินไปแล้ว แต่ยังไม่หมดอายุความ โดยปกติจะไม่มีการฟ้องซ้ำ เว้นแต่คดีที่ฟ้อง แล้วศาลจำหน่ายคดีชั่วคราว ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้เลย
+++นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ โฆษกของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ที่มีพลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานฯ ว่า ที่ประชุมวันนี้ ได้แจ้งเรื่องการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ รวม 5 ชุด พร้อมรับทราบข้อมูลเปรียบเทียบการศึกษาเบื้องต้น เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจของคณะต่าง ๆ และข้อมูลการจัดองค์กรตำรวจเปรียบเทียบประเทศต่าง ๆ ได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวางในประเด็นการแต่งตั้งโยกย้าย ทั้งเรื่องผู้มีอำนาจแต่งตั้งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำแหน่งผู้บัญชาการ รวมถึง ข้อวิจารณ์การแทรกแซงของนักการเมือง การซื้อขายตำแหน่ง การแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป ที่ประชุมยังกังวลเกี่ยวกับเงื่อนเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดกรอบการทำงานให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี ซึ่งหากไม่แล้วเสร็จ จะมีผลให้การพิจารณาหลักเกณฑ์แต่งตั้งยึดตามหลักอาวุโสเพียงอย่างเดียว เกรงว่า จะเกิดปัญหาพอสมควร จึงเห็นควรให้คณะอนุกรรมการด้านการบริหารงานบุคคล เร่งกำหนดแนวทางการแต่งตั้งให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคมนี้ และคณะอนุกรรมการทุกชุด จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 5 เมษายน 2561
+++นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า มีความรู้สึกว่าเนื้อหาสัญญาประชาคมทั้ง 10 ข้อ เหมือนการสรุปประเด็นจากรายการคืนวันศุกร์ที่นายกฯ พูดมากว่า 3 ปี เพราะเรื่องพวกนี้เป็นหลักทั่วไป พูดอีกก็ถูกอีก สัญญาประชาคมจึงไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าการปรองดองมีความคืบหน้า ทั้งนี้ในส่วนของ นปช.ถือว่าได้ทำในสิ่งที่ควรทำครบถ้วนแล้ว ทั้งการประกาศให้ความร่วมมือ ไม่เป็นอุปสรรค และแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาในทุกขั้นตอน หลังจากนี้เป็นขั้นตอนสำคัญ คือ การปฏิบัติซึ่งอยู่ในมือนายกฯ โดยตรง เพราะเป็นผู้ถืออำนาจเบ็ดเสร็จเพียงคนเดียว ซึ่งตั้งแต่ต้นชี้ว่าอันนี้เอาอันนั้นไม่เอา เรียกว่าปรองดองแบบตามใจแป๊ะ แต่สุดท้ายบอกว่าถ้าล้มเหลวจะให้เป็นความรับผิดชอบของประชาชน ถือว่าพูดง่ายแต่เข้าใจยาก พูดตรงๆ ว่าถ้าเอารัฐธรรมนูญ กฎหมายลูก และกรอบกติกาต่างๆ ที่วางไว้มาเทียบเคียงกับแต่ละข้อในสัญญาประชาคม ก็จะเห็นว่าไปกันคนละทาง ถึงที่สุดจะกลายเป็นว่า สัญญาประชาคมเอาไปเป็นโชว์รูมไว้โก้ๆ แต่ของจริงคือกลไกอำนาจที่ล็อกทิศทางประเทศเอาไว้แล้วหรือไม่
+++นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการหารือกันสัปดาห์หน้า เพื่อทบทวนเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ เนื่องจากมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2 ล้านคัน โดยคาดว่าน่าจะผลิตได้ 1,944,000 คัน สาเหตุเพราะตลาดตะวันออกกลาง ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง ขณะที่ตลาดแอฟริกาใต้เริ่มมีการผลิตรถยนต์ในประเทศ ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์ในช่วง 6 เดือนอยู่ที่ 536,406 คัน ลดลง 58,417 คัน หรือร้อยละ 9.82 จากปีก่อนที่มียอดส่งออก 594,823 คัน ส่วนยอดการผลิตเพื่อจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ 6 เดือน รวม 412,393 คัน เพิ่มขึ้น 16,523 คัน หรือร้อยละ 4.17 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มียอดผลิต 395,870 คัน เนื่องจากมีการทยอยแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา และการลงทุนของภาครัฐยังเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ตลาดดีขึ้น
+++ประชาชนหลายล้านคนใน อิสตันบูล ตุรกี พยายามจะเดินลุยน้ำไปทำงานเมื่อเช้าวันนี้ หลังฝนฟ้าคะนองเมื่อเช้ามืดวันนี้ทำให้ฝนตกหนักทั่วทั้งจังหวัด เตือนประชาชนให้จอดรถไว้ที่บ้าน ถ้าไม่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ รถไฟฟ้าใต้ดินที่แล่นจากสนามบินนานาชาติอตาเติร์กไปยังพื้นที่ในฝั่งยุโรปของอิสตันบูลถูกน้ำท่วม เช่นเดียวกับทางลอดอุโมงค์ใต้ยูโรเซียที่เปิดใช้งานเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกันระบบรถรางของเมืองที่เชื่อมต่อระหว่างย่านบักซิลาร์กับย่านกาบาตัสในแถบช่องแคบบอสพอรัสถูกระงับชั่วคราวในระยะนี้ อาคารบ้านเรือนและสำนักงานหลายแห่งถูกน้ำท่วมเสียหายเช่นกัน กระแสลมที่พัดแรงทำให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น มีรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆในท้องที่บางแห่ง แต่ไม่มีคนเสียชีวิต อิสตันบูล ที่มีประชากรราว 15 ล้านคน ต้องใช้บริการเรือเฟอร์รี่เป็นพาหนะการเดินทางไปทำงานทุกวัน แต่สภาพอากาศแปรปรวนในช่วงนี้กระทบต่อการเดินทางทางเรือเช่นกัน เนื่องจากมีการระงับการเดินเรือในระยะนี้ ด้านเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศของตุรกีคาดว่าจะยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้และมีลมแรง
+++อิหร่านออกมาตอบโต้กรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อโครงการขีปนาวุธของประเทศ โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การที่สหรัฐคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านนั้น เป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ และอิหร่านขอสัญญาว่าจะตอบโต้การกระทำดังกล่าวอย่างสาสม แถลงการณ์ระบุว่า อิหร่านจะคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลชาวอเมริกันที่เป็นปรปักษ์ต่ออิหร่านและประเทศมุสลิมอื่นๆในภูมิภาค สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหรัฐได้ออกมาตรการคว่ำบาตร 18 องค์กรและบุคคลของอิหร่านที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธ และกิจกรรมอื่นๆนอกภาคนิวเคลียร์ โดยระบุว่าการยิงขีปนาวุธของอิหร่านนั้นเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของสหรัฐทั่วโลก ขณะที่ฝ่ายอิหร่านก็ได้ออกมาตอบโต้ว่า โครงการทดสอบขีปนาวุธถือเป็นสิทธิ์ขาดของอิหร่านในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการป้องกันประเทศ
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ โดยนิกเกอิดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 20,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทญี่ปุ่น ปิดบวก 20.95 จุด ที่ 20,020.86 จุด ตลาดจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งมีแนวโน้มที่จะปรับนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่คาดการณ์ว่า ECB จะยังคงนโยบายการเงินไว้ และไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2562 เช่นเดียวกับ BOJ ที่คาดว่าจะคงนโยบายการเงินไว้เช่นกัน ภายหลังจากที่เงินเฟ้อและความเชื่อมั่น
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ในแดนบวก ตามทิศทางของตลาดหุ้นจีน เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้น 147.22 จุด ที่ 26,672.16 จุด
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,575.85 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 36,282.82 ล้านบาท