ดีเอสไอค้านประกันตัวอดีตเณรคำ/เตรียมแจ้ง6ข้อหาหนักแก๊งบังฟัต/โล่งใจ ญ.กระโดดสะพานไม่เสียชีวิต

19 กรกฎาคม 2560, 06:43น.


+++คืนนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยหลังศาลแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ มีคำสั่งให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนข้อหาพรากผู้เยาว์ และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ว่า ขณะนี้พ้นระยะเวลาในการอุทธรณ์คำสั่งศาลแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอนการรับตัวเท่านั้น ซึ่งพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และอัยการต่างประเทศเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อรับตัวนายวิรพลแล้ว พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวว่า การเดินทางกลับจะไปเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 22.00 น.ด้วยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 677 ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่วนพิเศษจะจัดชุดปฏิบัติการคดีพิเศษไปรับตัว จากนั้นจะนำตัวมาสอบสวนต่อที่ดีเอสไอ โดยจะคุมขังไว้ที่ห้องควบคุมชั้น 6 สำหรับห้องควบคุมชั้น 6 ดีเอสไอ ที่จะนำตัวนายวิรพลไปควบคุม อยู่ใกล้กับห้องที่คุมขังอดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินพังงาที่ผูกคอเสียชีวิตในห้อง



+++การนำตัวมาก็จะสอบสวน ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง ซึ่งผู้ต้องหาก็มีสิทธิขอประกันตัว แต่ดีเอสไอ ค้านประกัน เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนคดีพรากผู้เยาว์แม้จะหมดอายุความไปแล้วหรือไม่ยังต้องไปดูรายละเอียด แต่ก็ยังมีข้อหาอื่นที่มีหมายจับอยู่



+++เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ทีมโฆษกอัยการเตรียมจะแถลงข่าวถึงความชัดเจนการรับตัวอดีตพระเณรคำช่วงสายนี้ ดีเอสไอ ได้ขอศาลออกหมายจับเมื่อปี 2556 และได้ชี้แจงศาลแคลิฟอร์ เนียผ่านทางอัยการต่างประเทศ ถึงเหตุจำเป็นในการนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในประเทศไทย เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดและได้หลบหนีไป ส่วนการสอบสวนจะติดต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้มาร่วมด้วย เนื่องจากบางคดีเป็นการอาบัติปาราชิก



+++คดีฆ่า8ศพที่จ.กระบี่ ครอบครัวนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมภรรยา-ลูก-ญาติ และบาดเจ็บอีก 3 คน พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวน คาดว่า ไม่น่าเกินวันนี้จะสามารถขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน 1.นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล 2.น.ส.ชลิตา สังขโชติ 3.นายประจักษ์ บุญทอย 4.นายคมสรรค์ เวียงนนท์ 5.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ 6.นายธวัฒชัย บุญคง 7.นายอรุณ ทองคำ 8.นายธนชัย หรือบังโกบ จำนอง คนยิงผู้ใหญ่ โดยบังฟัตเป็นคนวางแผน และทำเอกสารหมายค้นปลอม และสังหารสมาชิกในบ้าน 7 ศพ จากนั้นนำเสื้อผ้าไปเผา ทำลายเซิร์ฟเวอร์ ส่วน น.ส.ชลิตา จัดเตรียมอุปกรณ์เสื้อผ้า รถยนต์  นายประจักษ์-นายอรุณ คุมตัวสมาชิกในบ้าน และพาผู้ใหญ่บัดไปขังไว้ในรถยนต์ฟอร์จูน เนอร์ นายคมสรรค์-นายธวัฒชัย-นายธนชัยนายอับดุลเลาะ เฝ้าเหยื่อไว้ในห้อง



+++ตำรวจเตรียมจะแจ้งข้อหาผู้ต้องหารวม 6 ข้อหา 1.ความผิดมาตรา 289(4) ผู้ใดฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ระวางโทษจำคุกและประหารชีวิต 2.ตามมาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี 3.ตามมาตรา 210 ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 4.ตามมาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย หากการ กระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว กักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย หรือรับอันตรายแสนสาหัส ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 290, 297 และ 298 ความผิดเกี่ยวกับฐานกรรโชก รีดทรัพย์ชิงทรัพย์



+++ 5.ตามมาตรา 340 กรณีที่มีการแต่งกายเลียนแบบทหาร หรือตำรวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ กึ่งหนึ่งและความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด 6.ตามมาตรา 7 ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ มีใช้ สั่งหรือนำเข้าซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีและปรับตั้งแต่ 2,000- 20,000 บาท



+++เจ้าหน้าที่ขยายผลสั่งให้สืบสวนสอบสวน ขยายผลต่อไปว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ส่วนประเด็นยังคงเป็นเรื่องการรับจำนองที่ดิน และขณะนี้ยังไม่มีหลักฐาน ว่าจะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่น



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอชื่นชมตำรวจทุกคน และทุกหน่วยงานที่สามารถคลี่คลายคดีได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ เป็นหน้าที่ตำรวจที่เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องจับกุมคนร้ายให้ได้



+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ชัดเจนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ประยุทธ์ 5 ว่ายังไม่เคยคิด กลายเป็นเรื่องใหญ่โต และบอกว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ โดยเฉพาะเรื่องการปรับโยก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สลับไปกระทรวงมหาดไทย เพื่อคุมการเลือกตั้ง



+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 4 ราย คือ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูเกียรติ มาลินีรัตน์ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายพสุ โลหารชุน เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม



+++ส่วนเรื่องของนายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ ไม่ผ่านคุณสมบัติแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกา และมีการเสนอเปิดตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาให้ บ่ายเมื่อวานนี้ นายศิริชัย แถลงยืนยันลาออกจากตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งประธานศาลฎีกาก็ได้ลงนามเรียบร้อยแล้ว โดยมีผลตั้งแต่เมื่อวาน เนื่องจากเห็นว่าตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา ที่แต่งตั้งให้ตัวเองดำรงตำแหน่งนั้นมิชอบด้วยกฎหมาย อาจเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง และตามการปฏิบัติตั้งแต่อดีต ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่อาวุโสสูงสุดควรได้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา แต่หากไม่ได้รับตำแหน่งนี้ก็จะได้อยู่ตำแหน่งเดิม ไม่เคยมีการโยกย้ายให้ไปอยู่ตำแหน่งที่สร้างขึ้นมาใหม่เหมือนกรณีนี้



+++นายศิริชัย ยอมรับว่าเจ็บปวด การทำงานมีความซื่อสัตย์มาตลอด แต่มาถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและพร้อมที่จะชี้แจงคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) จึงมีทางเดียวคือการลาออกจากตำแหน่ง และยืนยันไม่เคยฝักใฝ่การเมืองฝ่ายใด แต่ก็มีเพื่อนทั้งสองฝ่ายและเลือกที่จะไม่ติดต่อไปหาฝ่ายใดเลย



+++นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึง การตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า ขั้นตอนปฏิบัติถือเป็นความลับไม่อาจเปิดเผยรายละเอียดได้ หากปรากฏว่าไม่มีมูลความผิดเรื่องก็ยุติไป แต่หากเป็นความผิดทางวินัยก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไป แต่หากตุลาการท่านนั้นลาออกจากราชการแล้ว และผลการสอบสวนออกมาว่าเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรงก็ต้องงดโทษไป



+++การติดตามหาหลังได้รับแจ้งหญิงกระโดดน้ำฆ่าตัวตายบริเวณสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร พ.ต.ท.แดนชัย ทูลอ่อง สารวัตร (สอบสวน) สน.ปากคลองสาน เปิดเผยว่า ชุดประดาน้ำไม่สามารถลงค้นหาได้เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืนอีกทั้งกระแสน้ำเชี่ยวกราก ขณะที่ตำรวจเตรียมจะติดตามญาติมาสอบปากคำ ปรากฏว่านักศึกษาสาวรายนี้ได้เดินทางเข้าพบตำรวจ โดยให้การว่าหลังกระโดดลงไปในแม่น้ำแล้วขณะกำลังจะจมน้ำปรากฏว่ามีเรือโยงขับผ่านมาช่วยชีวิตไว้ได้ทันก่อนพาไปขึ้นฝั่งย่านพระประแดง เดินทางมาเพื่อให้ปากคำและรับทรัพย์สินที่วางทิ้งไว้บนสะพานกลับคืนไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนหลังจากหญิงสาวอ้างว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากความเมาไม่ได้มีความคิดจะฆ่าตัวตายและไม่ได้ทะเลาะกับแฟน เพราะไม่มีแฟน และไม่มีปัญหาชีวิต



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X