บรรยากาศการรายงานตัว สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ในวันที่ 3 วันนี้ค่อนข้างคึกคักมากกว่า 2 วันที่ผ่านมา โดยตอนนี้ผ่านไป 3 ชั่วโมงมีผู้มารายงานตัวทั้งหมด 41 คน และหากนับรวม 3 วัน ตอนนี้มีผู้มารายงานตัว แล้วจำนวน 119 คน จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 200 คน เช่น นายพรเพชร วิชิตชัยชล ที่ปรึกษาหัวหน้าคสช. ที่เดินทางมารายงานตัว และเปิดเผยว่า การเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ถือเป็นเกียรติมาก ส่วนที่มีหลายฝ่ายสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าสนช. นั้น จะต้องเป็นไปตามมติที่ประชุม หากได้รับตำแหน่งจริง ก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนการดำเนินการ ส่วนกรณีที่อาจจะมีสมาชิกสนช.บางส่วนลาออกจากตำแหน่ง และทำให้องค์ประชุมไม่ครบ รวมถึงกรณี ที่มีกลุ่มบุคคลจะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านว่า สัดส่วนของสมาชิกสนช.ขัดต่อมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี2557 เนื่องจากสัดส่วนไม่มีความหลากหลายนั้น นายพรเพชร ขอไม่แสดงความเห็นใดใด แต่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน จึงจะดำเนินการตามขั้นตอน จากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงนายกรัฐมนตรีในใจ นายพรเพชร เปิดเผยว่า มีนายกรัฐมนตรีในใจแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร
ส่วนพลเอกธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภา เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า อดีตสมาชิกวุฒิสภา ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ว่า เป็นการนัดทานข้าวตามปกติไม่ได้จะมีการนัดล็อบบี้กัน ตามที่มีกระแสข่าว และกรณีที่พลเอกธีรเดช ถือเป็นหนึ่งในผู้ที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งประธานสนช. พลเอกธีรเดช ชี้แจงว่า ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจ แต่ก็พร้อมสำหรับการทำงานและเชื่อว่า สมาชิกทั้ง 200 คนก็พร้อมที่จะทำงานตามหน้าที่ไม่ว่าจะได้รับตำแหน่งใด ซึ่งตามแผนการทำงาน ถือว่ามีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน คือ การทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย และรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ นอกจากนี้มีการสอบถามว่า พลเอกธีรเดช เห็นด้วยหรือไม่ หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอกธีรเดช ตอบว่า จากโพลล์สำรวจของหลายสำนักก็เชื่อว่าทุกฝ่ายเห็นด้วย
ด้านนายกล้าณรงค์ จันทิก อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยถึง ในเรื่องการถอดถอนคณะรัฐมนตรี ว่า ต่อจากนี้จะต้องมีการหารือในรายละเอียดเนื่องจากตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับปี2557 ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน
....ผสข. บุศรินทร์ วรสมิทธิ์