+++พายุโซนร้อน ตาลัส (Talas) บริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม เคลื่อนขึ้นฝั่งทางใต้ของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนามแล้ว และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ โดยจะเคลื่อนผ่านทางตอนบนของประเทศไทยและจะสลายตัวบริเวณประเทศลาวตอนบน สำหรับปริมาณน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ใช้ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยารับน้ำเข้าไปตามศักยภาพที่รับได้ พร้อมกับควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในระดับ 15.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกหนักลงมาอีกจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนตาลัส จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ริมตลิ่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ติดตามการรายงานอย่างต่อเนื่อง
+++นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามที่คาดไว้ โดยในวันนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,284 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่แม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขายังเพิ่มขึ้นรวม 407 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รับน้ำเข้า 2 ฝั่งได้เพียง 214 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงจำเป็นต้องค่อยๆ ระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นอีก แต่ยังมั่นใจว่าจะไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าไม่ทราบเรื่องข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่จะถูกโยกไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และไม่ขอแสดงความเห็น เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะพิจาณา และเป็นคนเดียวที่จะสามารถให้รายละเอียดได้
+++สอดคล้องกับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าวการปรับโผครม. และมีชื่อของตัวเอง อาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งดังกล่าวว่าไม่มีความเห็น
+++เรื่องทุจริตเงินทอนวัด นายสุวพันธุ์ ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สนับสนุนคดีทุจริตโกงเงินงบประมาณบูรณะซ่อมแซมปฏิสังขรณ์วัด หรือการทุจริตเงินทอนวัด จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทั่วประเทศ ภายในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมร่วมกัน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้เห็นว่ามีประเด็นซับซ้อนยิ่งขึ้น ศอตช. จึงพร้อมช่วยสนับสนุนตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ศอตช. มีนโยบายตรวจสอบการใช้งบประมาณของแผ่นดินอย่างถูกต้อง ศอตช. เป็นหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการ ทั้ง ปปง. สตง. ดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติม
+++ข้อเสนอให้ปลดพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.)ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่พอใจการทำงานเชิงรุกที่ตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัด ทำให้พุทธศาสนาเสียหาย นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทำความเข้าใจกับพ.ต.ท.พงศ์พร ว่าการทำงานกับคนหมู่มากต้องระมัดระวังรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดความกระทบกระทั่งระหว่างกัน ซึ่งปัญหาอาจเกิดจากบุคคลิกภาพของผอ.พศ.ที่ทำงานตรงไปตรงมา ยึดข้อกฎหมายเป็นหลักและทำงานเชิงรุกมากเกินไป เชื่อว่า หากได้พูดคุยทำความเข้าใจระหว่างกัน บรรยากาศการทำงานจะดีขึ้น ขอศึกษารายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน และเร็ว ๆ นี้อาจเชิญผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน ยืนยันว่ายังไม่มีแนวคิดที่จะปรับพ.ต.ท.พงศ์พร ออกจากตำแหน่ง เพราะเชื่อมั่นในการทำงานและต้องตรวจสอบกรณีเงินทอนวัดต่อไป เพราะหากไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่อาจมีความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่
+++การยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมกกต.ในวันพรุ่งนี้ ส่วนตัวไม่ติดใจอะไรแล้ว เพราะได้ทำหน้าที่ในฐานกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย และแถลงข้อโต้แย้งต่อที่ประชุม สนช.ตามมติ กกต. ถือว่าเป็นการทำหน้าที่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว และหมดหน้าที่ในการทำตรงนี้แล้ว
++นายศุภชัย กล่าวถึงร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมีข้อโต้แย้งใน 3 ประเด็น จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ และจะประชุมนัดแรกในวันที่ 25 กรกฎาคม ในส่วนตัวพร้อมที่จะทำหน้าที่กรรมาธิการ โดยจะดูว่า 3 ประเด็นดังกล่าวปัญหาไม่ตรงตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ที่ทราบจะมีการปรับเปลี่ยนบทบัญญัติที่เกี่ยวกับไพรมารี่โหวต เพื่อให้ปฏิบัติง่ายขึ้น กกต.ในฐานะผู้ปฏิบัติก็ยินดี เพราะขณะที่ยังไม่ตกลงกันว่าจะแก้ไข กกต.ก็ได้ชี้แจงไปแล้วในฐานะผู้ปฏิบัติไม่มีปัญหา สามารถปฏิบัติได้
+++คดีฆ่า8ศพที่จ.กระบี่ ที่บริเวณหน้ากองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 (ร.15พัน1) คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ควบคุมตัวตาม ม.44 ผู้ต้องสงสัย 6 คนที่ร่วมกับนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต หัวหน้าทีมก่อเหตุฆาตกรรมยกครัว นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก มีรายงานข่าวจากพนักงานสอบสวน ระบุว่า ภายหลังได้มีการควบคุมตัวเพื่อนสาวคนสนิทของบังฟัต และน้องชาย มาสอบปากคำ หลังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุ โดยเพื่อนสาวคนสนิทเป็นผู้วางแผนให้บังฟัตและลูกน้อง เข้าไปจัดฉากว่า นายวรยุทธ มีปัญหาเรื่องหนี้สิน แล้วเกิดความเครียดฆ่าภรรยาและลูก หลังจากนั้นจึงได้ฆ่าตัวตายตาม และเป็นคนวางแผนให้เซ็นชื่อโอนหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายรถยนต์โตโยต้า รุ่น ยาริส ให้กับบังฟัต เพื่อยืนยันว่า นายวรยุทธ เป็นหนี้บังฟัต จนมีการโอนรถยนต์ให้แทนเงินสด ส่วนน้องชายของเพื่อนสาวคนสนิท เป็นผู้ไปรับรถยนต์ของกลางที่บังฟัตพร้อมพวกใช้เป็นยานพาหนะไปก่อเหตุ เพื่อนำไปซุกซ่อน จากการสอบสวนปากคำน้องชายของเพื่อนสาวคนสนิทบังฟัต ให้การสอดคล้องอ้างว่า วันเกิดเหตุได้รับแจ้งจากพี่สาว ให้นำรถยนต์ส่วนตัวไปเปลี่ยนกับรถของบังฟัต และไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และไม่มีพยานเชื่อมโยงถึงว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ในส่วนของเพื่อนสาวคนสนิท แม้ในทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทราบพฤติกรรม ถึงความเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ แต่ยังไม่มีผู้ใดซัดทอด โดยเฉพาะบังฟัตให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้กระทำการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งชุดสืบสวนเร่งหาพยานหลักฐานเพื่อเชื่อมโยง
+++นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าของร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จ เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) เพื่อเห็นชอบ แล้วส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป
+++นายเอกนิติ กล่าวว่า สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำหนดดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ มี 6 หลักการ คือ 1.มีการจัดตั้ง คนร. ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติเพื่อกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ 2.มีแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนารัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องแผนพัฒนาฯ และยุทธศาสตร์ชาติ 3.มีกระบวนการสรรหากรรมการที่ชัดเจนและนำสรรถนะหลักและความรู้ที่จำเป็นมาใช้ 4.มีกลไกระบบการกำกับดูแลที่ดีเพื่อเปิดเผยข้อมูลให้เกิดความโปร่งใสและส่งเสริมความรับผิดรับชอบในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล 5.พัฒนาระบบประเมินผลที่เชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจและนโยบายอย่างเป็นระบบ และ 6.จัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติเพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าของและพัฒนารัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทจำกัดในฐานะผู้ถือหุ้นเชิงรุก ซึ่งร่าง พ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ จะทำให้การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจมีความบูรณาการในภาพรวมเป็นระบบและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น
+++หุ้นไทยปิดตลาดบ่าย ปรับลดลง 3.70 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,574.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,690.08 ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นฮั่งเส็ง ฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 81.35 จุด ปิดที่ 26,470.58 จุด โดยได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 2/2560
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างผลสำรวจความคิดเห็นหรือโพลล์ที่จัดทำร่วมกันระหว่างหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซี นิวส์ของสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 10-13 กรกฏาคม ใช้วิธีสุ่มโทรศัพท์สอบถามความคิดเห็นชาวอเมริกัน 1,001 คน บ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 36 เท่านั้นที่ชื่นชอบผลงานในช่วง 6 เดือนแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นับว่าต่ำสุดเมื่อเทียบกับผู้นำคนอื่นๆของสหรัฐฯในรอบ 70 ปี ขณะที่ ร้อยละ 48 ไม่ชื่นชอบ ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของนายทรัมป์ลดจากเดิมคือร้อยละ 42 เมื่อเดือนเมษายน ครั้งนั้นสื่อทั้งสองแห่งนี้ร่วมกันสำรวจในโอกาสที่ผู้นำสหรัฐฯเข้ารับตำแหน่งครบ100 แรก
+++นอกจากนี้ ผู้จัดทำโพลล์ได้สอบถามกลุ่มประชากรที่สุ่มสำรวจความเห็นครั้งนี้ด้วยว่า การที่ลูกชายคนโตของนายทรัมป์คือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์,ลูกเขยคือ นายจาเร็ด คุชเนอร์และอดีตผู้จัดการฝ่ายรณรงค์หาเสียงคือนายพอล มานาฟอร์ท พบกับทนายความชาวรัสเซียเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว เพื่อหวังจะได้ข้อมูลใหม่ๆที่อาจจะสร้างความเสียหายแก่นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคคู่แข่ง ท่านคิดว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ร้อยละ 26 ตอบว่าเหมาะสม ขณะที่ร้อยละ 63 ตอบว่าไม่เหมาะสม
+++ผลสำรวจ ระบุว่า ร้อยละ 60 เชื่อว่ารัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเมืองสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้วและร้อยละ 41 เชื่อว่า ทีมงานของนายทรัมป์จงใจให้รัสเซียเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว ร้อยละ 44 เชื่อว่านายทรัมป์ได้เปรียบคู่แข่งจากการเข้าแทรกแซงการเมืองสหรัฐฯ ขณะที่ร้อยละ 31 ไม่เชื่อว่ารัสเซียเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้วและร้อยละ 14 ไม่เชื่อว่าทีมรณรงค์ของนายทรัมป์หรือนายทรัมป์ได้เปรียบคู่แข่งทางการเมืองจากการเข้ามาก้าวก่ายการเมืองสหรัฐฯของรัสเซีย
+++รอยเตอร์รายงานว่า นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีที่รับผิดชอบการเจรจาเรื่องถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรปหรือเบร็กซิตของสหราชอาณาจักรและนายมิเชล บาร์เนียร์ หัวหน้าผู้เจรจาเบร็กซิทของกลุ่มอียูจะเริ่มต้นการเจรจาเบร็กซิตนัดแรกในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มต้นการเจรจาลงลึกในเรื่องรายละเอียดของเบร็กซิต ถึงแม้ว่าความเห็นที่ไม่ลงรอยกันในบรรดาคณะรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรในเรื่องนี้อาจจะส่งผลให้การเจรจาไม่แล้วเสร็จตามกำหนด 2 ปีคือภายในวันที่ 30 มีนาคม 2562 ขณะนี้เหลือเวลาเจรจาอีก 20 เดือน
+++นายเดวิสและนายบาร์เนียร์จับมือทักทายกันต่อหน้าสื่อมวลชนที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มอียูก่อนจะเริ่มการเจรจาในรอบแรก 4 วัน เริ่มจากวันนี้ โดยนายเดวิสกล่าวว่าความจริงทั้งสองฝ่ายได้เจรจาในเบื้องต้นเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่จะลงลึกในรายละเอียด และจะแถลงคืบหน้าการเจรจาอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้
+++ประเด็นหลักๆที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องทำความตกลงคือเรื่องสิทธิ์ของพลเมือง,ข้อเรียกร้องของกลุ่มอียูให้สหราชอาณาจักรจ่ายเงินให้กับอียู 6 หมื่นล้านยูโร ตามข้อผูกมัดตามข้อตกลงเดิมและข้อตกลงอื่นๆเช่นจะเกิดอะไรขึ้นกับสินค้าของสหราชอาณาจักรในกลุ่มอียูในวันที่เบร็กซิตเริ่มมีผลบังคับในอีก 2 ปีข้างหน้า
แฟ้มภาพ