ททท.ชู 3 แนวทางเจาะตลาดนทท.ไทย-เทศ ต่อยอดไทยแลนด์4.0 เพิ่มรายได้โตขึ้น8% ปี2561

ทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ประจำปี2561นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะต้องเติบโตอย่างยั่งยืน ต้องแข่งขันกับต่างประเทศได้และพร้อมเข้าสู่ไทยแลนด์4.0 แต่ยังคงวิถีชุมชนอยู่ ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพื่อสร้างการท่องเที่ยวให้เป็นAmazing Thailandต่อไป ซึ่งปีนี้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว ทุกคนจะต้องช่วยกันทำให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้นักท่องเที่ยวรักประเทศไทยและกลับมาเที่ยวอีก

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึง การตลาดการท่องเที่ยวตลอดปีนี้ว่า ททท.นำแนวคิดไทยแลนด์ 4.0 มาสร้างการรับรู้ต่อยอดจุดขายหลัก Thailand Local Experience ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย นอกจากจะมุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้มากกว่า 45,000 บาทแล้ว ยังมุ่งทำการตลาดแบบเจาะจงในกลุ่มสตรีและกลุ่มผู้สูงวัย รวมถึงเปิดตัวโครงการท้าเที่ยวข้ามภาค เพื่อสร้างกระแสการเดินทางของกลุ่มGenY

ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มตลาดกลางบน และในกลุ่มFrist visit เพิ่มขึ้น ทำให้สะท้อนถึงผลของการปรับโครงสร้างตลาดและขยายฐานตลาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมมีการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน และพบว่าเดินทางเข้ามาในลักษณะกระจายตัวเชิงช่วงเวลามากขึ้น ไม่กระจุกตัว มีการเดินทางเชื่อมโยงและท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรองเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่เป็นไปตามที่หวัง ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในเรื่องขนส่ง สาธารณูปโภค อาจจะเป็นสาเหตุให้คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น แต่ก็ยังคงคาดการณ์ว่าภายในปีนี้ ประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ เติบโตขึ้นตามที่รัฐบาลกำหนด

สำหรับปีหน้า ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวร้อยละ8 มุ่งเน้นปรับโครงสร้างตลาดเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แหล่งการท่องเที่ยวยอดนิยม และจะผลักดันแนวทางการทำตลาด3แนวทาง คือ การสร้างกระแสใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อชะลอความเสื่อมโทรมของทรัพยากร การสร้างสรรค์เนื้อหา เพื่อเพิ่มคุณค่าให้สินค้าท่องเที่ยวไทย และการขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพด้วยการนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวที่สัมผัส Thailand Local Experience เน้นวัฒนธรรมเรื่องของอาหาร

ส่วนทิศทางการส่งเสริมตลาดในประเทศ ยังคงให้ความสำคัญกับการเจาะกลุ่มศักยภาพผ่านโครงการหลายโครงการเช่น โครงการท้าเที่ยวข้ามภาค ตอกย้ำแนวคิด การท่องเที่ยวคือการค้นพบตัวเอง ในกลุ่ม Gen Y ,โครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด Plus ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกับเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ,โครงการท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง มุ่งกระตุ้นให้เกิดการเดินทางจริงหลังจากได้สร้างการรับรู้ในปีที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด หนึ่งประสบการณ์ลึกซึ้งมากคุณค่ากว่าที่คิด

ส่วนตลาดต่างประเทศมุ่งปรับภาพลักษณ์ผ่านการสร้างแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ ควบคู่กับผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเจาะกลุ่มกระแสหลัก เช่น กลุ่มExecutive Lady กลุ่มครอบครัว กลุ่ม Gen X  และยังเจาะกลุ่มความสนใจพิเศษอีก เช่น กลุ่ม Honeymoon & Wedding  กลุ่ม Sport Tourism กลุ่ม Green Tourism นอกจากนี้ ยังต่อยอดกระแสด้านอาหารที่มีแนวโน้มเติบโตสูงสุดผ่านโครงการ ต่างๆ เช่น Amazing G-Link เพื่อนำวิถีการกินและเอกลักษณ์ด้านอาหารของแต่ละจังหวัดมาส่งเสริมการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน ASEAN Tourism Forum 2017 เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะเป็นจุดเชื่อมโยงการเดินทางของภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ การสื่อสารของตลาดต่างประเทศยังคงใช้แนวคิด “Discover Amazing Stories” โดยนำสินค้าท่องเที่ยวไทยที่มีความหลากหลายมาขยายผลต่อ ประกอบกับจุดแข็งของประเทศไทยมีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรม ผู้คน อาหาร และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะสามารถมอบประสบการณ์ให้แก่นักท่องเที่ยวได้หลายมิติ และเน้นว่าในปีหน้าจะต่อยอดไทยแลนด์4.0 โดยใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาร่วมด้วย แต่ยังคงคำนึงถึงต้นทุน สิ่งแวดล้อม ตลอดจนการกระจายรายได้สู่ชุมชน

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ