กรณีนางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ และด.ญ.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือ น้องบีม เข้าร้องทุกข์ว่าถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความว่าความในคดีอุบัติเหตุบนท้องถนน โกงเงินชดใช้ค่าเสียหายจากที่คู่กรณีเป็นเงินประมาณ 4,000,000 บาท และเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายพิสิษฐ์ และนางสาวภัทรวดี สวัสดี ได้ที่คอนโดมิเนียม ย่านรามอินทรา 125 แล้วนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาสอบปากคำต่อที่สถานีตรวจนครบาลบางยี่ขัน และให้ครอบครัวน้องบีมชี้ตัว
พลตำรวจโทศานิตย์ มหาถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมว่าใครเป็นผู้ให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหา เพื่อที่จะนำตัวมาดำเนินคดี และจะประสานไปที่สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน ดูว่าจะสามารถอายัดทรัพย์สินในส่วนใดมาจ่ายชดเชยให้กับผู้เสียหาย ซึ่งต้องรอคำสั่งจากศาลก่อน จากการสอบปากคำในเบื้องต้น นายพิสิษฐ์ยอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง และได้รับเงินจากบริษัทประกันภัย 4,000,000 บาท แต่หักค่าทนายความไป 500,000 บาท ที่เหลือ 3,500,000 บาท มอบให้นางสาวพรปวีณ์ ชูแก้ว ภรรยา เนื่องจากมีปัญหาทางการเงิน
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ไม่มีความกังวลเรื่องการดำเนินคดีกับทนายความ ถึงแม้จะเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากระทำผิดจริง พร้อมฝากไปถึงประชาชนที่ถูกกระทำลักษณะนี้ เข้าแจ้งความดำเนินคดี
ด้านนางสาวพรทิพย์ กล่าวพร้อมน้ำตาว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ แต่ยังกังวลเรื่องเงินที่จะได้รับคืน และหากได้พูดคุยกับนายพิสิษฐ์ อยากจะถามว่า นี่หรือคือการช่วยเหลืออย่างเต็มที่อย่างที่เคยบอกกับไว้กับครอบครัว
โดยในขณะนี้นายพิสิษฐ์ถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมร่วมกันฉ้อโกงและยักยอกโดยเป็นผู้จัดการทรัพย์สินเป็นผู้มีอาชีพอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ขณะที่นางสาวพรปวีณ์และนางสาวภัทรวดี ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและสนับสนุน
..
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ