กกต.สหรัฐพบหลักฐานทีมทรัมป์จ่ายเงินให้ทนาย/ปธน.ตุรกียืนยันไล่ล่าผู้บงการพยายามรัฐประหาร

การเมืองสหรัฐฯ คณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐ ได้รับรายงานที่ระบุว่า ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จ่ายเงิน 50,000 ดอลลาร์ให้สำนักงานกฎหมายที่เป็นตัวแทนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ในช่วงไม่กี่วันก่อนที่จะมีการเปิดเผยเรื่องที่เขาพบกับนักกฎหมายรัสเซีย และกลายมาเป็นประเด็นใหม่ที่ตอกย้ำข้อกล่าวหาที่ว่า ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีสมคบกับรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว

สำหรับหลักฐานการจ่ายเงินให้สำนักงานกฎหมายของ อลัน เอส. ฟิวเตอร์ฟาส ลงวันที่ 27 มิถุนายน ระบุว่า เป็น ค่าบริการปรึกษาทางกฎหมาย และเมื่อสัปดาห์ก่อนมีการเปิดเผยว่า ฟิวเตอร์ฟาสรับหน้าที่เป็นทนายความให้ทรัมป์ จูเนียร์ นอกจากนี้แล้ว นายทรัมป์ จูเนียร์ ยอมรับว่า พบกับนักกฎหมายรัสเซียที่นิวยอร์กในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปีที่แล้ว เพราะนักกฎหมายผู้นี้อ้างว่ามีข้อมูลที่สามารถทำลายนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต  และทีมหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ยังจ่ายเงินกว่า 538,000 ดอลลาร์ให้โจนส์ เดย์ ซึ่งเป็นบริษัทกฎหมายที่เป็นตัวแทนของทีมหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ระหว่างการเลือกตั้งด้วย

ปัจจุบัน ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษและคณะกรรมาธิการหลายชุดของรัฐสภาสหรัฐฯ กำลังสอบสวนกรณีที่หน่วยงานข่าวกรองกล่าวหาว่า รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งสืบสวนความเป็นไปได้ว่า  รัสเซียสมรู้ร่วมคิดกับทีมหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์

ประธานาธิบดี เรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ของตุรกี กล่าวปราศรัยที่อิสตันบูล เนื่องในวันครบรอบ 1 ปีของความพยายามทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลตุรกี โดยประกาศว่าจะนำตัวผู้อยู่เบื้องหลังความพยายามก่อเหตุ มารับโทษประหารชีวิตให้ได้ ผู้นำตุรกียังชี้ว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารเป็นพวกไม่มีความศรัทธาต่อพระเจ้า ซึ่งที่ผ่านมาตุรกียืนยันมาตลอดว่า นาย เฟตฮุลเลาะห์ กูเลน ที่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ เวลานี้เป็นผู้บงการก่อรัฐประหาร การจัดงานในครั้งนี้ มีประชาชนจำนวนมากร่วมการงานที่บริเวณสะพานบอสฟอรัส ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้เสียชีวิต 36 ราย

ส่วนการเมืองเวเนซุเอลา ฝ่ายค้านจัดการลงประชามติอย่างไม่เป็นทางการและไม่มีผลผูกมัด เพื่อคัดค้านแผนการเลือกตั้งสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญและหยั่งเสียงประชาชนว่าต้องการเลือกตั้งประธานาธิบดีก่อนกำหนดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การลงประชามติครั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติไม่ให้การรับรอง แต่มีประชาชนมาใช้สิทธิ์กันอย่างคึกคัก แม้ว่ากลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีจะไม่ใช้สิทธิ์ในครั้งนี้ แต่ก็คาดว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์มากถึง 11 ล้านคน เพื่อลงประชามติค้านแผนการลงคะแนนวันที่ 30 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ และฝ่ายค้านประกาศจะไม่เข้าร่วมการลงประชามติเช่นกัน

การที่ทั้งสองฝ่ายแข่งกันจัดให้มีการลงคะแนนของกลุ่มตนเอง ทำให้เกิดความกังวลว่าโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะเข้าร่วมการเจรจาคลี่คลายความขัดแย้งลดลงไปเรื่อยๆ ขณะที่การชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 100 คน

ที่อิหร่าน คณะตุลาการอิหร่านตัดสินจำคุก 10 ปีพลเมืองสหรัฐคนหนึ่งในข้อหามีพฤติกรรมเป็นสายลับ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองจับกุมตัวชายผู้นี้โดยได้รับการชี้แนะโดยตรงจากสหรัฐ แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยชื่อ บอกแต่ว่าเป็นชาวต่างชาติที่ถือ 2 สัญชาติ คือสัญชาติสหรัฐกับอีกสัญชาติของประเทศหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่คณะตุลาการมีคำตัดสิน เขาก็ได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีชาวอิหร่านหลายคนที่ถือ 2 สัญชาติ ได้แก่ สหรัฐ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรีย, แคนาดาและฝรั่งเศส ถูกควบคุมตัวในข้อหาเป็นสายลับและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลที่เป็นศัตรูกับอิหร่าน

นักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่าในเดือนกันยายนนี้ธนาคารกลางยุโรป จะประกาศออกจากนโยบายการเงินที่มีมาตรการผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ  โดยในการสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 75 คนคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจในยูโรโซนจะยังคงแข็งแกร่งไปจนถึงปลายปี 2561 ดังนั้นการทำงานของอีซีบีในเดือนกันยายนจึงน่าจะเป็นการประกาศลดการซื้อพันธบัตร 60,000 ล้านยูโรต่อเดือน และจะเริ่มดำเนินการในต้นปีหน้า นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ยังเชื่อว่า อีซีบีจะไม่เปลี่ยนแปลงการชี้นำเกี่ยวกับนโยบายเงินโดยนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรปอาจจะเปิดเผยมาตรการในช่วงปลายเดือนสิงหาคม

ที่ฟิลิปปินส์ เมื่อวานนี้ เกิดเหตุผู้ต้องหา 14 คนที่ถูกควบคุมตัวในห้องขังของสถานีตำรวจบนเกาะโจโลทางใต้ของฟิลิปปินส์หลบหนีออกจากห้องขัง และตำรวจวิสามัญฯ ผู้ต้องหาที่หลบหนีเสียชีวิต 3 คน ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย  โดยทหารและตำรวจกำลังไล่ติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 10 คน

ส่วนหิมะที่ตกหนักในกรุงซันติอาโกของชิลี ทางสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติเผยว่า เป็นหิมะที่ตกหนักที่สุดตั้งแต่ปี 2550 และทำให้ประชาชนราว 250,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้ มีคนงานที่ออกไปทำความสะอาดเสียชีวิต 1 ราย และประชาชน 2 รายเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าดูด

ประเทศเอสโตเนีย เตรียมเปิดสถานทูตข้อมูลอีเลคทรอนิคส์แห่งแรกในโลกที่ประเทศลักเซมเบิร์ก ในช่วงต้นปี 2561 โดยจะเป็นศูนย์เก็บข้อมูลสำคัญของรัฐบาลเอสโตเนียไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภาษี ที่ดิน ธุรกิจ เอกสารตัวตน ข้อมูลเงินบำนาญ รวมถึงกฎหมายต่างๆ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง และประเทศในกลุ่มองค์การป้องกันสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ในศูนย์แห่งนี้ได้แม้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในประเทศจะล้มเหลวก็ตาม

โดยนับตั้งแต่เอสโตเนียแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตเมื่อปี 2534 ประเทศที่มีประชากร 1,300,000 คนแห่งนี้ ก็เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีไฮเทคจนได้รับฉายาว่า อี-สโตเนีย

....