โค้งอันตราย โค้งในถุ้ง จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านยื่นหนังสือให้ตัดถนนให้เป็นทางตรง ลดอุบัติเหตุ

15 กรกฎาคม 2560, 12:33น.


การแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนบริเวณจุดเสี่ยงโค้งในถุ้ง อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยในวันนี้ชาวบ้านได้รวมตัวกันยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเวนคืนที่ดิน ฝั่งขวาในเนื้อที่ ประมาณ 2 ไร่ 1 งาน 17.844 ตารางวา และฝั่งซ้าย 3 งาน 78.49 ตารางวา ผ่านทางนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเอกสารระบุว่า บริเวณโค้งในถุ้งถนนสาย 401 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต มีผู้พิการและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการรวมตัวของผู้นำชุมชนและคนในชุมชนจำนวน 1,037 ครัวเรือน เพื่อแก้ปัญหา ลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยมีแนวทางแก้ไข ในระยะสั้น ให้มีการจำกัดความเร็วรถที่สัญจรผ่านจุดเสี่ยงดังกล่าว และมีกล้องตรวจจับความเร็ว ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวขอให้เวนคืนที่ดินเพื่อตัดถนนส่วนที่เป็นโค้งหักศอกให้เป็นทางตรง





นายสกล กล่าวว่า ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในบริเวณนี้ถือเป็นปัญหาระดับชาติ โดยจังหวัดนครศรีธรรมราชได้มีการประชุมคณะกรรมการความปลอดภัยทางบกทุกเดือน และในบางครั้งเป็นการประชุมกรณีพิเศษ ซึ่งสำหรับบริเวณโค้งแห่งนี้ ถือว่าเป็นจุดที่มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมขอบคุณประชาชนที่เห็นความสำคัญ ส่วนการป้องกัน พยายามที่จะรณรงค์ให้ประชาชนขับขี่อย่างปลอดภัยและมีวินัยจราจร มีความพร้อมทั้งตัวผู้ขับขี่และตัวรถ รวมถึงเจ้าหน้าที่ ได้มีการซ่อมปรับปรุง ติดตั้งป้ายเพื่อให้เกิดความปลอดภัย นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการประชุมให้ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นย้ำให้ประชาชน ขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ขับรถในขณะง่วงนอนหรือมึนเมา ที่สำคัญคือการเคารพกฎจราจร ทั้งนี้ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชมีประชาชนเป็นจำนวนมาก ยานพาหนะก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหากไม่มีการแก้ไขปัญหา ก็จะเกิดอุบัติเหตุสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 





ด้านนางโชคดี โต๊ะตาเหยะ มารดาของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ บริเวณโค้งในถุ้ง โดยถูกรถกระบะที่วิ่งมาด้วยความเร็ว พุ่งชนรถพ่วงข้างที่ลูกสาวนั่งมาจนเสียชีวิต โดยกล่าวว่า ในบริเวณโค้งในถุ้ง มักมีอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ทำถนนใหม่ ขยายความกว้างถนน และทำลูกระนาด เพื่อให้รถที่ขับมาลดความเร็วในจุดนี้ ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะลูกสาวตัวเองที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่เพราะเป็นห่วงทุกคนที่ต้องสัญจรในบริเวณนี้จะได้ปลอดภัย





ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม



 

ข่าวทั้งหมด

X