รอยเตอร์ รายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ถูกสาธารณชนในสหรัฐฯวิพากษ์วิจารณ์กรณีรัสเซียเข้ามาเกี่ยวกับปัญหาการเมืองสหรัฐฯและถูกวิจารณ์ในต่างแดนกรณีการถอนตัวออกจากข้อตกลงลดภาวะโลกร้อนและเรื่องการค้า เดินทางถึงกรุงปารีส ฝรั่งเศส แล้วเพื่อหาจุดยืนร่วมกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ในด้านการทูตและการทหาร เพื่อช่วยกันคลี่คลายปัญหาสำคัญๆของโลกเช่นปัญหาสงครามในซีเรียและการปราบปรามก่อการร้าย
ก่อนหน้านี้ผู้นำทั้งสองเริ่มต้นความสัมพันธ์อย่างไม่สนิทสนมกันมากนัก ทั้งการแสดงท่าทางบีบมือขณะจับมือทักทาย ขบฟันกราม ยิ้มให้กันในการพบปะกันครั้งแรกระหว่างการประชุมขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่ขณะนี้ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่าควรจะปรับปรุงความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยนายมาครง หวังจะพาฝรั่งเศสให้ก้าวขึ้นไปมีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น
ขณะที่ นายทรัมป์ ดูเหมือนจะถูกโดดเดี่ยวจากบรรดาผู้นำโลกคนอื่นๆเริ่มรู้สึกว่าต้องการมิตรในต่างแดนเช่นกัน
ผู้นำสหรัฐฯเดินทางไปเยือนฝรั่งเศสในช่วงที่ยังคงมีปัญหาคาราคาซังกรณีรัสเซียถูกกล่าวหาว่าเข้าไปก้าวก่ายเรื่องการเมืองสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะอีเมลที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของประธานาธิบดีทรัมป์ เผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวันอังคารบ่งชี้ว่าลูกชายของเขาตอบรับการช่วยเหลือจากพลเมืองชาวรัสเซียที่อาสาจะช่วยให้คุณพ่อของเขาชนะนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว
ย้อนหลังไปก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ นายมาครง ให้การต้อนรับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียที่พระราชวังแวร์ซายในกรุงปารีส
ในการเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯจะร่วมพิธีสวนสนามของทหารในวันชาติฝรั่งเศสวันพรุ่งนี้และงานรำลึกครบรอบ 100 ปีหลังสหรัฐฯส่งทหารเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 กับฝ่ายสัมพันธมิตร นำโดยอังกฤษ ฝรั่งเศสและรัสเซีย สำหรับการฉลองวันชาติฝรั่งเศสเมื่อปีที่แล้ว เกิดเหตุที่น่าเศร้าสลดเมื่อคนร้ายชาวตูนีเซียคนหนึ่งที่ฝักใฝ่กลุ่มรัฐอิสลามขับรถบรรทุกพุ่งชนคนที่ไปร่วมเฉลิมฉลองวันชาติในเมืองนิซทางภาคใต้ของประเทศ มีคนเสียชีวิตกว่า 80 ศพ
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters