ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++วันนี้ เวลา 16.30 น. พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ไปตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ในวันพฤหัสที่ 13 ก.ค.นี้ เวลา16.30น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมถือว่ามีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 60 เร็วกว่าเวลาที่ประมาณการไว้ถึง 16 วัน โดยในส่วนของโครงสร้างเสร็จแล้ว ขณะนี้เริ่มลงมือตกแต่งส่วนประกอบต่าง ๆ อาทิ เทวดา ครุฑ ส่วนที่เสร็จแล้ว มีการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพื่อรอประกอบพร้อมกัน ซึ่งล่าสุดได้เพิ่มโรงขยายแบบอีก 2 โรง รวมเป็น 4 โรง ฝนที่ตกในขณะนี้ ไม่ถือเป็นอุปสรรค และจากที่ได้ลงพื้นที่ตรวจล่าสุด พบว่าน้ำไม่ท่วม ยืนยันว่าส่วนประกอบต่าง ๆ เสร็จทันกำหนดแน่นอน เพราะมีการกระจายงานกันทำพร้อม ๆ กัน ซึ่งต้องขอบคุณทุกคน รวมถึงจิตอาสาที่มาช่วยกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ หากการจัดสร้างเสร็จเร็วกว่าเวลาประมาณการ จะถือเป็นกำไรให้คณะทำงานได้มีเวลาตกแต่งพระเมรุมาศให้สวยสมพระเกียรติ
+++กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง.
+++หลังการหารือ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)และมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าผลการหารือ ได้ข้อสรุปเรื่องการจัดทำบัตรประจำตัวพระ หรือสมาร์ทการ์ดพระ ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลภายใน 3 เดือน โดยคณะกรรมการมหาเถรสมาคมกำลังดูในรายละเอียดว่าต้องใส่ข้อมูลอะไรลงไปในบัตรสมาร์ทการ์ด ส่วนการหารือเรื่องการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดต่างๆกว่า 47,000 วัด ทั่วประเทศซึ่งปัจจุบันร้อยละ 96-97 ได้ส่งบัญชีรายรับรายจ่ายมายัง พศ.เรียบร้อยแล้ว แต่ข้อมูลยังขาดความสมบูรณ์และไม่ครบถ้วน ดังนั้นในการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดต่างๆ ที่จะดำเนินการต่อไป ได้มอบหมายให้ พศ.ทำความเข้าใจกับวัดและผู้ที่ทำบัญชีให้กับวัดต่างๆ ให้ทำแบบง่ายๆ เน้นการลงรายรับ และรายจ่ายของวัดเป็นหลักแล้วค่อยๆพัฒนาไป แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกพร.ด้วย โดยตัองให้ความสำคัญกับวัดที่อยู่ต่างจังหวัดและวัดห่างไกลซึ่งอาจมีคนทำบัญชีเพียงคนเดียวและส่วนใหญ่เป็นคนแก่ๆ ที่ไม่เข้าใจระบบบัญชีมากนัก
ส่วนประเด็น การให้ข่าวกับสื่อมวลชนเรื่องที่เกี่ยวกับคณะสงฆ์วัดหรือการดำเนินการของคณะสงฆ์ ที่ประชุมมีมติให้ ผู้อำนวยการ พศ.เป็นผู้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนเพียงคนเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน ส่วนกรณีการทุจริตเงินทอนวัดในที่ประชุมวันนี้ ไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้มากนัก เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอให้ทาง ปปป.ส่งเรื่องคดีทั้งหมดมาที่ พศ.แล้วจึงจะคุยกันอีกที เบื้องต้นหากทาง ปปป.ส่งเรื่องกลับมาทาง พศ.ก็จะดูแลและดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับวินัยเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา เนื่องจาก พศ.ไม่มีอำนาจ ดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา และขณะนี้ได้มีการตั้งตั้งคณะกรรมการ สอบวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้องแล้วจำนวน2ชุด เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว
+++ ที่ประชุมคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจนัดแรก ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 คณะ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจ เบื้องต้นที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของคณะกรรมการออกเป็น 5 คณะประกอบด้วย1.คณะอนุกรรมการด้านการบริหารงานบุคคล มีพล.อ.บุญสร้างเป็นประธานอนุกรรมการฯ 2.คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา มีนายธานิศ เกศวพิทักษ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา เป็นประธาน 3.คณะอนุกรรมการด้านหน้าที่ อำนาจและภารกิจของตำรวจ มีนายมนุชญ์ วัฒนโกเมร อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน 4.คณะอนุกรรมการด้านรับฟังความคิดเห็น มีพล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธาน และ5.คณะอนุกรรมการด้านวิชาการ มีนายศุภชัย ยาวะประภาษ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธาน ที่ประชุมมอบหมายให้นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ ทำหน้าที่โฆษกคณะกรรมการ ทีมงานฝ่ายโฆษกนั้นให้นายสมคิด เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกตามความเหมาะสม
+++ส่วนแผนการดำเนินงานได้วางแนวทางการประชุมไว้ในระยะแรกจะประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน กำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการและกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติในรอบ 9เดือนแรก จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาการดำเนินการของคณะกรรมการโดยผ่านระบบทางช่องทางการสื่อสารปกติ และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และยังมีสิ่งใหม่คือคณะกรรมการด้านวิชาการ เพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจ มีความเป็นวิชาการมากขึ้น และยังดูประสิทธิภาพการทำงานของคณะกรรมการด้วย เพื่อให้ทราบข้อบกพร่องและจุดอ่อน สำหรับเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการคือการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะทำให้เสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ต่อด้วยเรื่องของระบบงานสอบสวน และเรื่องอื่น ๆ จะพิจารณาเป็นลำดับต่อไปโผโยกย้ายไม่จำเป็นต้องเข้าคณะกรรมการ แต่เป็นการวางระบบ และไม่มีผลต่อการแต่งตั้งที่จะถึงนี้ สำหรับการประชุมครั้งต่อไปจะมีในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ส่วนจะใช้สถานที่ใดจัดการประชุมจะแจ้งอีกครั้ง เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาใช้สถานที่ รัฐสภา วปอ. หรือทำเนียบรัฐบาล
+++พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ รองผู้กำกับสืบสวน สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.สุรชัย ปลื้มจิตต์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ปทุมวัน และ พ.ต.ต.เอกรินทร์ อุปเวช สารวัตรสืบสวน สน.ปทุมวัน ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ บก.น.6 หลังกองปราบจับไอซ์ ยาเค คาผับในโรงแรมดัง
+++พลอากาศตรี พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์คัดค้านการจัดซื้อเครื่องบิน T-50TH ให้กับกองทัพอากาศนั้น นี้ ยืนยันว่า การจัดซื้อเครื่องบินไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 62 ประกอบมาตรา 75 และมาตรา 76 ที่กำหนดให้กองทัพมีหน้าที่ในการเตรียมกำลังและป้องกันราชอาณาจักร โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นของกองทัพอากาศในครั้งนี้ ได้ดำเนินการโดยคำนึงถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญคือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และความมีภูมิคุ้มกัน ซึ่งโครงการดังกล่าวมีความโปร่งใส และมีขั้นตอนที่สามารถตรวจสอบได้ โดยการจัดหาเครื่องบิน T-50TH ในครั้งนี้ จะเข้าประจำการทดแทนเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นแบบ L-39 (ในฝูงบินเดิม) ซึ่งปัจจุบันได้ทยอยปลดประจำการเนื่องจากครบอายุการใช้งาน หากไม่มีการจัดหาทดแทนจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศ โดยรายการดังกล่าวมีการวางแผนผูกพันงบประมาณข้ามปี และแบ่งชำระเป็น 4 ปี (พ.ศ.2560 - 2563) ซึ่งเป็นการทยอยจ่ายภายใต้กรอบงบประมาณที่กองทัพอากาศได้รับการจัดสรรในแต่ละปี ตามแผนยุทธศาสตร์เสริมสร้างความมั่นคงฯ ทำให้ไม่สามารถชะลอการจัดซื้อฯ ได้เพราะจะกระทบต่อการฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นของกองทัพอากาศ ส่งผลต่อการเตรียมกำลังกองทัพอากาศเพื่อการป้องกันประเทศตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญ
+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างการแก้ไขรายละเอียดร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ. ...หรือ ภาษีลาภลอย โดยเฉพาะประเด็นรายได้จากการจัดเก็บภาษี ที่เดิมจะนำเข้าสู่กองทุนพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ ซึ่งจะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปลี่ยนเป็นนำรายได้จากการเก็บภาษีเข้าสู่งบประมาณของรัฐบาลแทน คาดว่าภาษีลาภลอยเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งยืนยันว่าการจัดเก็บภาษีลาภลอยไม่มีผลกระทบกับประชาชนหากไม่มีการซื้อขายเชิงพาณิชย์ ส่วนอัตราภาษีใน พ.ร.บ.ภาษีลาภลอยจะมีการกำหนดเพดานสูงสุดไว้ ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังเสนอแนวทางการเก็บภาษีลาภลอยอัตราร้อยละ 5 จากส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นหากมีการขายที่ดินเพื่อทำกำไรจากเจ้าของที่ดิน โดยกำหนดมูลค่าของสินทรัพย์ที่จัดเก็บว่าต้องเกินกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ในรัศมี 2.5- 5 กิโลเมตร จากโครงการพัฒนาของรัฐ เช่น สถานีรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ สนามบิน ทางด่วน.