การดำเนินงานและนโยบายของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในโอกาสครบรอบ 59 ปี นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า สำหรับภารกิจหลักในปีนี้ กฟน. ได้ดำเนินโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน โดยดำเนินการไปแล้วในระยะทาง กว่า 42 กม. และอยู่ในระหว่างการดำเนินงานอีก 40 กม. นอกจากนี้ ที่ยังอยู่ในแผนระยะยาวอีก 127 กม. คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2564 นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายว่าจะนำสายสื่อสารลงดินด้วย โดยจะมีการแก้ปัญหาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ถนนพหลโยธิน ได้ใช้ท่อร้อยสายสื่อสารไปกับสายไฟฟ้า ซึ่งหากฝ่ายสื่อสารต้องการที่จะมาร่วมใช้สายร้อยท่อกับการไฟฟ้านครหลวงก็ยินดี อย่างไรก็ตามจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกัน เพื่อให้สายบนเสาเป็นมีความเป็นระเบียบ และลดจำนวนสายบนเสาลง
สำหรับวัตถุประสงค์ของการนำสายไฟฟ้าลงดิน เพราะเชื่อว่า ประชาชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องการเห็นภาพสายไฟลงดิน นอกจากนี้ เพื่อความเเข็งแรงมั่นคงของสายไฟฟ้าด้วย เพราะหากอยู่บนอากาศ อาจมีกรณีรถชนเสา ต้นไม้ล้มทับสายไฟ สัตว์ต่างๆ มากัดแทะสายไฟ ซึ่งถ้าหากนำสายลงดินปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป เพราะวัสดุที่ใช้หุ้มสายนั้น กันน้ำ กันสัตว์กัด และมีอายุการใช้งานนานถึง 30 ปี ด้านผลประกอบการของการไฟฟ้านครหลวง นายชัยยงค์ กล่าวว่า ในครึ่งปีแรกมีรายได้ 94,000 ล้านบาทและคาดว่าสิ้นปี 2560 จะสามารถทำรายได้ ได้ถึง 192,000 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิคาดการณ์ที่ 9,000 ล้านบาท
ส่วนการดูแลเรื่องของสายไฟ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ในช่วงนี้ที่เป็นฤดูฝน นายชัยยงค์ กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูแล เรื่องต้นไม้ใหญ่ที่อาจเกี่ยว เสียดสี หรือล้มทับสายไฟ รวมถึงเรื่องของรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่อาจเกี่ยวสายไฟและสายสื่อสาร พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้ดูแลเรื่องของการตัดต้นไม้ และหากพบเห็นว่ามีสารสื่อสารที่ห้อยต่ำกว่ามาตรฐานก็ขอให้แจ้งมายังการไฟฟ้านครหลวง
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม