ฆ่ายกครัวกระบี่ มีหลายเงื่อนงำ /เร่ง 30 วันสอบอัยการเมากร่าง/ศาลปค.รื้อคดีอดีตอธิบดีกรมสรรพากร เอื้อประโยชน์ขายหุ้นชิน/ล่าเบนซ์ดำเฉี่ยวตร.สน.ท่าข้าม

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

+++วันนี้ ยังต้องติดตามกันต่อ เหตุ 7 ชายฉกรรจ์ แต่งชุดพรางบุกบ้านผู้ใหญ่บ้านอ่าวลึก จ.กระบี่ กักขังคนในบ้าน ก่อนจ่อยิงหัวเรียงตัวตายสยอง 8 ศพ เจ็บสาหัส 3 ไม่เว้นแม้แต่เด็ก 2 ขวบ  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เดินทางลงพื้นที่จ.กระบี่ เพื่อติดตามคดี เบื้องต้นระบุว่า จากการสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี และเป็นมืออาชีพ เนื่องจากใช้เวลาในการก่อเหตุนาน ใจเย็นรอจนกว่าผู้ใหญ่บ้านจะเดินทางกลับบ้าน อีกทั้ง ไม่ทิ้งหลักฐานหรือเบาะแสที่สาวไปถึงตัวคนร้ายได้ โดยเฉพาะการเก็บปลอกกระสุนปืนหลังก่อเหตุ รวมทั้งเก็บฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดไม่ให้ตำรวจติดตามได้

+++ปมชุดสืบสวนตั้งไว้ 4 ประเด็น ได้แก่ ความขัดแย้งกับนักการเมืองท้องถิ่น ระดับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่ง ประเด็นที่ 2 เรื่องร้องเรียนการสร้างโรงโม่หิน ที่มีกรณีพิพาทกันรุนแรงมากว่า 1 เดือน ประเด็นที่ 3 ปัญหาขัดแย้งเรื่องบุกรุกที่ดิน ที่นายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้าน เป็นโจทย์ยื่นฟ้องไล่ที่ชาวบ้าน 8 ราย ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในชั้นศาล และประเด็นที่ 4 ปมขัดแย้งเรื่องยาเสพติด นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลว่าก่อนหน้านี้ไม่นานนายวรยุทธ ยังร่วมกับผู้นำอีกหลายหมู่บ้าน ยกขบวนลูกบ้านไปขับไล่ครูคนหนึ่ง โดยอ้างว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้ออกนอกพื้นที่ สำหรับรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เป็นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่มาจาก จ.สงขลา

+++อัยการเมากร่าง เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.)และ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษก อสส. ร่วมกันแถลงพบว่า จากคลิปเสียงที่เผยแพร่ในสื่อมวลชนข้อมูลที่ปรากฏจากสื่อ ข้อความในเฟซบุ๊กของ นายธนพล จูฑะเตมีย์ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดียาเสพติด 1 และพฤติกรรมในอดีต น่าเชื่อว่าเป็นคลิปเสียงพูดของนายธนพล ที่มีลักษณะคล้ายเมาสุรา เป็นคำพูดไม่เหมาะสม กระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรอัยการ และพนักงานอัยการ ซึ่ง อัยการสูงสุด ได้เห็นชอบและมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อนายธนพล แล้ว กำหนดให้รายงานความคืบหน้าภายใน 30 วัน โดยระหว่างที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบนั้น นายธนพลก็จะไม่ได้รับการโยกย้ายในตำแหน่งที่สูงขึ้น และเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้อัยการส่วนใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์ไม่สบายใจ แต่ทุกสังคมย่อมมีแกะดำ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจด้วย

+++พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางมามอบนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่ และการติดตามคดี พร้อมทั้งให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทั้ง 2 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ ส.ต.ต.กิตติคุณ แสงเรือง ผบ.หมู่ (ป) สภ.แสนสุข และ ส.ต.ต.อานุภาพ โพธิ์พิมพ์ ผบ.หมู่ (ป) สภ.แสนสุข ที่มีความอดทน อดกลั้น และแก้ไขสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

+++ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม มีมติเอกฉันต์ 14-0 เห็นชอบ นายชีพ  จุลมนต์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาคนที่ 44 ต่อไป สำหรับ นายชีพ ปัจจุบัน อายุ 63 ปี ซึ่งยังมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งอีก 2 ปี จนกว่า จะเกษียณราชการในอายุ 65 ปี การศึกษาจบปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโทรัฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ นายชีพ นับเป็นนิติศาสตร์บัณฑิตจาก ม.รามคำแหง คนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขตุลาการสูงสุด  เป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีโครงการจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลย เป็นผู้พิพากษา 1 ในองค์คณะคดีฮั้วประมูลและปฏิบัติหน้าที่มิชอบระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ที่มี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ พร้อมนักอดีตนักการเมือง ข้าราชการ และบริษัทเอกชน รวม 28 ราย เป็นจำเลยด้วย และเป็นองค์คณะในคดีสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปี 2551 ซึ่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. เป็นจำเลยด้วยอีกสำนวนซึ่งคดีนี้ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 2 ส.ค.นี้

+++วันนี้ จะมีการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ  พล.อ.บุญสร้าง  กล่าวว่า ว่า ในวันนี้จะเป็นการประชุมคณะกรรมการฯครั้งแรก และจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการการแต่งตั้งโยกย้าย 2.คณะอนุกรรมการการบริหารทรัพยากรบุคคล 3.คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและการสอบสวนคดีอาญา 4.คณะอนุกรรมการหน้าที่ อำนาจ และภารกิจของตำรวจ 5.อนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น และ 6.อนุกรรมการวิชาการ  ในกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญจะเขียนระยะเวลาไว้ 9 เดือน ทุกด้านจะให้เสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด จะมีก็แต่คณะอนุกรรมการการแต่งตั้งโยกย้าย ที่จะต้องทำให้สำเร็จภายในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่กำหนดเวลาชัดเจนและสั้นกว่าเรื่องอื่น ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการโยกย้ายปลายปีนี้ โดยจะนำไปใช้ในปีหน้า จะได้ไม่เกิดแรงต่อต้าน หรือ แรงต่อต้านจะได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปโครงสร้างตำรวจในครั้งนี้ ไม่ใช่จะพลิกฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่เราต้องทำให้ดีขึ้น อย่าให้เกิดผลรวดเร็วจนเขารับไม่ทัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดความแตกหักมันจะยุ่ง

++++ในวันนี้ (12 ก.ค.นี้ )ศาลปกครองกลางนัดพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ในคดีที่นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ฟ้องปลัดกระทรวงการคลัง กรณีถูกลงโทษปลดออกจากราชการ สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายศิโรตม์ กับพวก กรณีไม่เรียกเก็บภาษีเงินได้จากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ที่รับโอนหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 738 ล้านบาท จาก น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี ผู้ถือหุ้นแทนคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร โดยก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งปลดออกจากราชการ และคืนสิทธิประโยชน์แก่นายศิโรตม์ แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่า เป็นบุคคลภายนอกมีส่วนได้ส่วนเสีย และถูกกระทบจากคำพิพากษา แต่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำร้องดังกล่าว แต่ในที่สุด ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองกลาง เป็นให้รับคำร้องของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไปตามรูปคดี เนื่องจากเห็นว่ากรณีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบและแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงจากนายศิโรตม์ และพยานบุคคล รวมถึงพยานเอกสาร หลักฐาน จึงเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการชี้มูลความผิดมาตั้งแต่ต้น จึงมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องกับการวินิจฉัย หรืออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีได้

+++ปัญหาเลขบัตรประชาชนสำหรับบุคคลที่เกิดในปี 2527  นายวิเชียร ชิดชนกนารถ ผอ.สำนักบริหารการทะเบียน(สน.บท.) กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย  กล่าวว่า ขณะนี้อธิบดีกรมการปกครองได้ให้นโยบายใหม่และจะออกหนังสือสั่งการให้ประชาชน 3 พันกว่าคนที่สูติบัตรกับเลขในทะเบียนบ้านไม่ตรงกันไปขอหนังสือรับรองที่อำเภอไหนก็ได้ว่าเลขที่ปรากฏในทะเบียนบ้านกับเลขที่ปรากฏในสูติบัตรเป็นบุคคลเดียวกันก็จะสามารถใช้เอกสารนี้ไปทำธุรกรรมต่างๆ ได้ ก็จะไม่เจอปัญหาแบบกรณีที่ร้องเรียนมาที่ต้องไปแก้ไขการทำพาสปอร์ต หรือทำบัตรธนาคารใหม่ เพราะเมื่อทางกรมยืนยันให้ใช้เลข 3 ได้ ประชาชนก็ไม่ต้องไปแก้อะไรอีก และถ้าสะดวกกลับไปในอำเภอที่ตัวเองมีชื่ออยู่ ก็เอาสูติบัตรไปแสดงต่อนายทะเบียน แล้วให้นายทะเบียนลงหมายเหตุด้านหลังสูติบัตรว่าเลขที่ใช้ในสำเนาทะเบียนบ้านคือเลข 3 ก็จะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างเลข 1 กับ เลข 3 ได้ โดยประชาชนไม่ต้องไปแก้ไขอะไร

+++คลิปเล่าเรื่อง ด.ต.นิติ  อัญชลิสังกาจ ผบ.หมู่งานจราจร สน.ท่าข้าม กล่าวว่า ขณะที่ตนตั้งด่านตรวจอยู่บริเวณด่านพระราม 2 ใกล้กลับโลตัสพระราม 2 ช่วงเวลาประมาณ 14.00 - 15.00 น. ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้มีรถเบ๊นซ์สีดำ ป้ายแดง ขับผ่านมา เนื่องจากตนเห็นว่าเป็นรถป้ายแดง จึงเรียกตรวจสอบเล่มทะเบียนว่าถูกต้องหรือไม่ เมื่อรถเข้าชิดขอบทางด้านซ้าย ตนก็ได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตรวจสอบเล่มทะเบียนรถ ขณะนั้นมีบุคคลที่อยู่ในรถ2 คน หญิง 1 รายเป็นคนขับ และอีกรายเป็นชายนั่งฝั่งผู้โดยสาร โดยฝ่ายชายได้ทำทียื่นสมุดให้ตน แต่เนื่องจากเขานั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร จึงทำให้ต้องเอื้อมมือเข้าไปหยิบ แต่จู่ๆ ฝ่ายชายกลับเปลี่ยนใจสั่งให้คนขับออกรถไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ตนชักมือกลับออกมาไม่ทัน และถูกลากไปกับรถ แขนและขาครูดไปกับถนน จนได้รับบาดเจ็บ  

+++พ.ต.อ. ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เพิ่มเติมกับจส. 100 ว่า ในช่วงเวลานั้น ตำรวจจราจรก็ตั้งด่านจราจรตามปกติ ซึ่ง ด.ต.นิติ อัญชลิสังกาศ เป็นตำรวจคนสุดท้ายพอดี บอกให้ลดกระจกลง ดาบบอกว่าขออนุญาตตรวจรถเพราะว่ารถเป็นรถป้ายแดง ทางฝ่ายชายที่นั่งข้างรถ ก็บอกให้ฝ่ายหญิงขับรถออกไปเลย พอรถเคลื่อนออกไป ด.ต.นิติ ถูกรถคันนี้ทับขา นำส่ง รพ.บางมด ตำรวจคาดว่าในรถคันนี้ น่าจะมีสิ่งของผิดกฏหมายแน่นอน ข้อหาที่ตั้งไว้คือ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าคนขับต้องการมอบตัว ก็สามารถติดต่อที่ สน.ท่าข้ามได้เลยซึ่งรถป้ายแดงเป็นรถที่วิ่งได้ตามปกติ แต่ต้องมีสมุดคู่มือประจำรถด้วย ว่ามีการใช้รถไปไหนบ้าง อย่างไรก็ตามถ้าไม่มามอบตัว ตำรวจก็ติดตามแน่นอนอยู่แล้ว โดยจะออกหมายเรียกและออกหมายจับเป็นขั้นตอนไป  สำหรับอาการบาดเจ็บของ  ด.ต.นิติ หลังดูอาการในรพ.บางมด แล้ว ล่าสุด ยังกลับมาปฏิบัติหน้าที่สน.ท่าข้าม เล่าถึงอาการว่า เจ็บเล็กน้อย ในช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างขอดูเล่มทะเบียน ขณะที่เจ้าของรถหยิบส่งให้เกิดเปลี่ยนใจให้คนขับรถขับออกไปทันทีทำให้ล้มลง ช่วงนั้นเกิดเหตุไม่ถึง 1 นาที สำหรับ หญิงและชายในรถอายุ 40-50 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้  ยังยินดีรับใช้ประชาชนต่อไป