ดต.สน.ท่าข้าม เจอฤทธิ์เบนซ์ป้ายแดงลากไป หลังไม่ยอมให้ตรวจเล่มทะเบียน(มีคลิป)

ด.ต.นิติ  อัญชลิสังกาจ ผบ.หมู่งานจราจร สน.ท่าข้าม กล่าวว่า ขณะที่ตนตั้งด่านตรวจอยู่บริเวณด่านพระราม 2 ใกล้กลับโลตัสพระราม 2 ช่วงเวลาประมาณ 14.00 - 15.00 น. ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้มีรถเบ๊นซ์สีดำ ป้ายแดง ขับผ่านมา เนื่องจากตนเห็นว่าเป็นรถป้ายแดง จึงเรียกตรวจสอบเล่มทะเบียนว่าถูกต้องหรือไม่ เมื่อรถเข้าชิดขอบทางด้านซ้าย ตนก็ได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตรวจสอบเล่มทะเบียนรถ ขณะนั้นมีบุคคลที่อยู่ในรถ2 คน หญิง 1 รายเป็นคนขับ และอีกรายเป็นชายนั่งฝั่งผู้โดยสาร โดยฝ่ายชายได้ทำทียื่นสมุดให้ตน แต่เนื่องจากเขานั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร จึงทำให้ต้องเอื้อมมือเข้าไปหยิบ แต่จู่ๆ ฝ่ายชายกลับเปลี่ยนใจสั่งให้คนขับออกรถไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ตนชักมือกลับออกมาไม่ทัน และถูกลากไปกับรถ แขนและขาครูดไปกับถนน จนได้รับบาดเจ็บ  เบื้องต้น ยังไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นใคร เนื่องจากระหว่างที่ตนล้มนั้น ว.สื่อสาร ได้กระเด็นออกจากตัว และเพื่อนที่ร่วมงานปฏิบัติหน้าที่อยู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งอยู่ไกลออกไป ทำให้ไม่สามารถสกัดจับรถคันดังกล่าวไว้ได้  หลังเกิดเหตุตนได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และอยู่ระหว่างตรวจร่างกายที่ ร.พ.บางมด 

พ.ต.อ. ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เพิ่มเติมกับจส. 100 ว่า ในช่วงเวลานั้น ตำรวจจราจรก็ตั้งด่านจราจรตามปกติ ซึ่ง ด.ต.นิติ อัญชลิสังกาศ เป็นตำรวจคนสุดท้ายพอดี บอกให้ลดกระจกลง ดาบบอกว่าขออนุญาตตรวจรถเพราะว่ารถเป็นรถป้ายแดง ทางฝ่ายชายที่นั่งข้างรถ ก็บอกให้ฝ่ายหญิงขับรถออกไปเลย พอรถเคลื่อนออกไป ด.ต.นิติ ถูกรถคันนี้ทับขา นำส่ง รพ.บางมด ตำรวจคาดว่าในรถคันนี้ น่าจะมีสิ่งของผิดกฏหมายแน่นอน ข้อหาที่ตั้งไว้คือ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าคนขับต้องการมอบตัว ก็สามารถติดต่อที่ สน.ท่าข้ามได้เลยซึ่งรถป้ายแดงเป็นรถที่วิ่งได้ตามปกติ แต่ต้องมีสมุดคู่มือประจำรถด้วย ว่ามีการใช้รถไปไหนบ้าง อย่างไรก็ตามถ้าไม่มามอบตัว ตำรวจก็ติดตามแน่นอนอยู่แล้ว โดยจะออกหมายเรียกและออกหมายจับเป็นขั้นตอนไป

สำหรับอาการบาดเจ็บของ  ด.ต.นิติ หลังดูอาการในรพ.บางมด แล้ว ล่าสุด ยังกลับมาปฏิบัติหน้าที่สน.ท่าข้าม เล่าถึงอาการว่า เจ็บเล็กน้อย ในช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างขอดูเล่มทะเบียน ขณะที่เจ้าของรถหยิบส่งให้เกิดเปลี่ยนใจให้คนขับรถขับออกไปทันทีทำให้ล้มลง ช่วงนั้นเกิดเหตุไม่ถึง 1 นาที สำหรับ หญิงและชายในรถอายุ 40-50 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้  ยังยินดีรับใช้ประชาชนต่อไป