มาตรการตอบโต้การติดตั้งระบบป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ของรัฐบาลจีนด้วยการสั่งห้ามพลเมืองชาวจีนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกาหลีใต้อย่างหนัก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเกาะเชจู สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเกาหลีใต้ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมาลดลงเหลือเพียง 1 ใน 8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเพียง 9,386 คนลดลงจาก 77,824 คน ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเกาะเชจูหวังว่าจะมาทดแทนนักท่องเที่ยวจีนก็มีจำนวนลดลงเช่นกัน โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 12,360 คน ลดลงจากเมื่อปีก่อนที่มีจำนวน 86,292 คน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกาะเชจูจะยังคงซบเซาต่อไปอีกจนถึงสิ้นปีนี้ ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ว่าจีนจะผ่อนปรนมาตรการห้ามการเดินทางของพลเมืองจีนในเกาหลีใต้ลง หลังความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลจีนกับรัฐบาลชุดใหม่ของเกาหลีใต้มีแนวโน้มดีขึ้น
ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังสหรัฐฯ ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในเกาหลีใต้ ชาวจีนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้ลดลงอย่างมาก ทำให้ต้องมีการระงับเที่ยวบินตรงระหว่างจีนกับเกาหลีใต้ถึงสัปดาห์ละ 248 เที่ยวบิน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ตัดสินใจยกเลิกการจองทัวร์เกาะเชจูระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมแล้วทั้งสิ้น 117,828 คน ขณะเดียวกัน ก็ไม่ปรากฎเรือนำเที่ยวนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไปยังเกาะเชจูเลย ขณะที่ร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินบนเกาะเชจูบางแห่งตัดสินใจไม่ต่อสัญญาดำเนินธุรกิจ เนื่องจากยอดขายที่ลดลงมากกว่าร้อยละ 50 ขณะเดียวกันบรรดาผู้ประกอบกิจการทัวร์จีนก็ใช้โอกาสนี้เรียกเก็บค่านายหน้าในการนำลูกทัวร์เข้าร้านปลอดภาษีเพิ่มจากร้อยละ 8 เป็นร้อยละ 15 ของราคาจำหน่ายสินค้า ซึ่งทำให้ร้านค้าไม่สามารถแบกรับภาระได้ นักวิจัยประจำองค์การท่องเที่ยวเกาหลีประจำเกาะเชจูกล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลจีน ทำให้บริษัททัวร์ในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองเฉินหยาง และอีกหลายเมืองในจีนระงับการให้บริการนำเที่ยวเกาหลีใต้ และเสนอขายบริการนำเที่ยวญี่ปุ่น ไทย และอินโดนีเซียแทน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้เร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในทันที โดยเสนอให้มีการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่ชาวจีน
...
**13.34F174**
Yonhab News