พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จัดรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยกล่าวถึง การดำเนินการของคสช.ว่าอยู่ในระยะที่สองของแผนโรดแมป ไม่ได้มุ่งหวังการใช้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตัวเอง แต่จะใช้อำนาจเท่าที่จำเป็นอย่างระวัง ไม่ให้กระทบสิทธิประชาชน ยืนยัน เคารพหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งเดินหน้าดำเนินการตามโรดแมป แต่บางสถานการณ์ที่ไม่ปกติก็ต้องมีการคงอำนาจของคสช.ไว้ด้วย เพราะคสช. มีหน้าที่ดูแลงานด้านความมั่นคง รักชาติ รักแผ่นดิน ไม่สามารถปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ลดการแตกแยก เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ทุกอย่างต้องใช้เวลากว่าจะเดินหน้าไปสู่สภาปฎิรูป
+++ส่วนที่มีการวิจารณ์สัดส่วน สนช. ไม่เป็นประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า สนช. ไม่ได้เลือกตั้ง ขอให้ดูผลงานก่อนว่าจะทำอะไรเพื่อประเทศชาติ เพราะไม่มีใครดีหรือเลวที่สุด ยืนยันว่าไม่ใช่โควตา เป็นการให้ทุกฝ่ายเสนอชื่อมาเพื่อพิจารณาในภาพรวม และมาคัดเลือกกัน ต้องรอดูผลงาน และทุกวันนี้เหตุการณ์ก็ยังไม่ปกติ จะมีทหารมากน้อยก็เป็นเรื่องธรรมดา เป็นช่วงที่ไม่ปกติ ถ้าปกติก็ทะเลาะกันเหมือนเดิม การเดินหน้าแผนโรดแมปในช่วงที่สอง จะเป็นช่วงสำคัญเพื่อนำไปสู่รัฐบาลถาวร
+++ในการปฎิรูปจะมีสภาปฎิรูปแห่งชาติ 250 คน ทุกภาคส่วนสามารถเสนอชื่อบุคคลผ่านนิติบุคคลมาได้ตลอด ทุกคนมีส่วนร่วมกันได้ตลอดเวลาทั้งเรื่องการแก้กฎหมายต่างๆ ยืนยันว่า คสช. จะไม่เข้าไปชี้นำในสภาปฎิรูป และในวันที่ 9 ส.ค. จะให้สภากลาโหม นัดตัวแทนของกลุ่มองค์กรนิติบุคคลจากทุกภาคส่วนทั้ง 11 กลุ่ม มาประชุมชี้แจง
+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปฏิบัติงานของ คสช. ช่วงแรกคือช่วงนี้ประมาณ 3 เดือน ที่มีการจัดระเบียบโดยการใช้การบริหาร ก่อนจะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระยะกลาง จะมีรัฐบาล ประมาณเดือนกันยายน ในการนี้ จะเป็นรัฐบาล อาจจะเรียกว่า “รัฐบาลเฉพาะกาล” แต่ต้องมีอำนาจเต็ม ในการบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อจบระยะที่ 2 จะส่งต่อให้ระยะยาว คือ รัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง ขอให้ ใจเย็นๆ ยืนยันว่าจะเร่งรัดเรื่องต่างๆ ให้เร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ในส่วนตัวมองว่า ถ้าหากใจร้อนจะอันตราย ในการที่จะทำงาน เพราะงานบางอย่างต้องใช้เวลามากพอสมควรในการแก้ปัญหา เพราะเกิดขึ้นมาหลาย 10 ปี แล้ว
+++พล.อ.ประยุทธ์ เตือนคนที่เคลื่อนไหวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะคนที่ทำผิดมาตรา 112 ว่า คนที่ทำผิดมีกฎหมายและกระบวนการสอบสวนตามข้อเท็จจริง ดังนั้นใครที่ทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนคนที่ไม่ได้ทำผิด กฎหมายก็สามารถพิสูจน์ทราบได้
+++คสช. มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาคสช. กระชับสัมพันธ์กับทางการจีนเรื่องการค้าการลงทุน ซึ่งทางการจีน ยินดีหาตลาดรองรับสินค้าเกษตรของไทย ทั้งข้าว ยางพารา และผลไม้ โดยใช้ความไว้วางใจ เท่าเทียม และเป็นธรรมซึ่งกันและกัน
+++เรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอชี้แจงว่า ผู้ก่อเหตุใช้ประเด็นเรื่องความแตกต่างทางศาสนา ความไม่ชอบธรรม มาปลุกระดม เมื่อมีการต่อสู้ด้วยอาวุธ ทำให้ทุกฝ่าย บาดเจ็บ สูญเสีย แต่เหตุการณ์บานปลาย เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่สามารถดูแลได้ รัฐบาลต้องจัดกำลังทหารลงไปพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะไทยที่ดำเนินการแบบนี้ คิดว่าทุกประเทศก็ทำกัน เนื่องจากพื้นที่กว้าง ต้องนำคนลงไปทุกพื้นที่ จึงต้องใช้กำลังคนมากขึ้น ไม่ใช่ต้องการได้เบี้ยเลี้ยง แต่ฝ่ายก่อเหตุ ก็อ้างว่าละเมิดเรื่องสิทธิมนุษยชน เพื่อที่จะให้ต่างประเทศเข้ามาช่วยหรือกดดันเจ้าหน้าที่รัฐ ขอชี้แจงว่า ปัญหาในประเทศ ก็ต้องแก้ปัญหาเอง ไม่ต้องให้คนอื่นมาช่วย ส่วนการนำเสนอข่าวของสื่อ ไม่ได้ห้ามการนำเสนอข่าว เพียงแต่ไม่อยากให้นำเสนอข่าวซ้ำไปมา เพราะจะเป็นการเปิดพื้นที่ข่าวให้ฝ่ายก่อเหตุ