รองนายกฯยันลาวช่วยไทยตามจับผตห.หนีคดี/ส่งฟ้องศาลแก๊งยันหว่าง/ประท้วงประชุมกลุ่มจี20

07 กรกฎาคม 2560, 17:30น.


+++อีกหนึ่งข่าวเศร้าของวงการบันเทิงไทย ที่สูญเสียราชินีเพลงร็อก แหวน ฐิติมา สุตสุนทร หลังป่วยอาการมะเร็งกระดูกแทรกซ้อน รวมถึงมะเร็งลำไส้ และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะเสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยวัย 54 ปี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว คนใกล้ชิด และแฟนเพลง  ในอินสตาแกรมของแหวน ฐิติมา ได้โพสต์ข้อความสุดท้ายเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ขณะเข้ารับการรักษาอาการป่วย โดยเป็นภาพผลการเรียนของลูกสาว ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ ที่เตรียมเป็นบัณฑิตใหม่ ของคณะเศรษฐศาสตร์ อินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย กำลังใจสำคัญของแม่ @panpantemfah บัณฑิตใหม่ เกียรตินิยมอันดับ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ อินเตอร์ จุฬาฯ  โดยมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเสียใจและไว้อาลัยแก่การจากไปกันเป็นจำนวนมาก



+++แหวน ฐิติมา เป็นนักร้องที่สามารถร้องเพลงได้หลากหลายแนว แบบวาไรตี้ ป๊อป ร๊อค หรือลูกทุ่ง ก็ได้ งานเพลงชุดแรกของแหวน ฐิติมา ปี 2527 ชุด ฉันเป็นฉันเอง ถือเป็นการแนะนำตัวของแหวน ฐิติมา สุตสุนทร กับแฟนเพลง มีเพลงฮิต เช่น ไดอารี่สีแดง ผู้หญิงคนนี้ เชิ้ตแขนยาวไทสีเทา และงานชุด แหวน ฉันเป็นฉันเอง ประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างมาก  โดยเฉพาะเพลง ฟ้ายังมีฝน ยึกยัก สัญญิงสัญญา งานชุด สัญญิงสัญญา ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านยอดจำหน่ายมาก กว่า 9 แสนตลับ และโปรโมตชุดสัญญิง สัญญา ข้ามปี ทำ MV ชุดนี้ถึง 7 เพลง และก็มีงานเพลงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ครอบครัวตั้งศพ แหวน ฐิติมา ที่วัดธาตุทอง รดน้ำศพวันที่ 10 ก.ค. เวลา 14.00 น. และตั้งสวดพระอภิธรรมวันที่ 10-14 ก.ค. เวลา 17.00 น. ก่อนมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 15 ก.ค.



+++นายเต็ง ส่วย รมว.กระทรวงแรงงานและคนเข้าเมืองของเมียนมา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทางการไทย เริ่มบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. มีแรงงานชาวเมียนมา เดินทางข้ามพรมแดนกลับภูมิลำเนาแล้วมากกว่า 34,000 คน และรัฐบาลของทั้งสองประเทศกำลังเจรจาเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตให้แรงงานชาวเมียนมาที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนได้มีโอกาสทำงานในไทยต่อไป



+++นายเต็ง ส่วย กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากฝ่ายไทยว่าจะไม่มีการจับกุมและดำเนินคดีกับแรงงานชาวเมียนมาที่ไม่มีใบอนุญาต แต่จะผลักดันกลับประเทศทันที พร้อมทั้งย้ำว่ารัฐบาลเมียนมาเตือนประชาชนมาตลอด ว่าหากต้องการประสงค์เข้าไปทำงานในไทย ขอให้ติดต่อกับหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตและมีใบรับรองจากภาครัฐ  ที่รวมถึงการมีหนังสือยืนยันอย่างชัดเจนจากนายจ้างในไทยว่ามีตำแหน่งงานให้จริง ขอให้ประชาชนอย่างหลงเชื่อกลุ่มคนที่อ้างตัวเป็นนายหน้าอย่างเด็ดขาด



+++ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงแรงงานเมียนมา ระบุว่า ปัจจุบันมีแรงงานชาวเมียนมาในไทยเกือบ 5 ล้านคน ในจำนวนนี้ราว 2.2 ล้านคนเป็นแรงงานที่มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนจำนวนแรงงานชาวเมียนมาในมาเลเซียอยู่ที่ราว 5 แสนคน และราว 2แสนคน มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งรัฐบาลเมียนมากำลังดำเนินการให้ความช่วยเหลือแรงงานในมาเลเซียเช่นกัน เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซีย เริ่มใช้มาตรการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายครั้งใหม่ในสัปดาห์นี้ หลังหมดเวลาการผ่อนผันให้แรงงานที่ยังไม่มีเอกสารมาขึ้นทะเบียนระหว่างเดือนก.พ.-มิ.ย. ปีนี้



+++นายหลี บุญค้ำ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสจะพ้นจากตำแหน่ง  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้หารือกันถึงเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-ลาวที่ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนความร่วมมือในการส่งผู้ผู้ร้ายข้ามแดนเป็นไปตามกติกาและกฎหมาย ไม่ได้พูดคุยถึงการติดตามตัวนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ผู้ต้องหาตามที่ถูกออกหมายจับ พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ทางการลาวเคยบอกว่าหากสามารถระบุสถานที่อยู่ของคนพวกนั้นได้ชัดเจน เขาจะไปตรวจดูให้ทันที ซึ่งตอนนี้ยังทำแบบนั้น แต่กลุ่มคนดังกล่าวเปลี่ยนสถานที่ทันที เมื่อรู้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ของสปป.ลาวกำลังจะไปตรวจ อย่างไรก็ตาม แม้การตามไปไล่จับไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาพยายามทำตามความสามารถอย่างเต็มที่ ฝ่ายลาวยืนยันให้ความร่วมมือกับไทยตลอด



+++ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,569.44 จุด ลดลง 0.20 จุด มูลค่าซื้อขาย 32,881.28 ล้านบาท เหตุนักลงทุนกังวลธนาคารกลางของประเทศสำคัญๆแสดงท่าทีในการปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ



+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดลบ 64.97 จุด ที่ 19,929.09 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวลดลง ตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลก ลดลง 124.37 จุด ปิดที่ 25,340.85 จุด



+++การดำเนินคดีกลุ่มชาย 4 คน ที่ก่อเหตุด่าทอ ทำร้ายร่างกายดาบตำรวจธวัช สายเสมอ จนสลบขณะเข้าระงับเหตุในปั๊มน้ำมัน ย่านสุขาภิบาล 5  และมีท่าทางไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สายไหม ทั้งที่ปั๊มน้ำมัน และยังอาละวาดถึงบนสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมแก๊งยันหว่าง 4 ผู้ต้องหาคดีคือ นายโสภณ โกสินทร์ อายุ 36 ปี นายรัตนเทพ ชัยปราณีเดช อายุ 21 ปี นายปกรณ์ ชูวงค์ อายุ 24 ปี และนายสิทธิชัย โสลุน อายุ 24 ปี ซึ่งทั้งหมดอยู่ในแก๊ง ยันหว่าง ที่รู้จักกันดีในละแวกสายไหม ส่งฟ้องศาลมีนบุรี พนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาโทษหนักคือ 1.ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน  2.ต่อสู้และขัดขว้างการจับกุมขณะปฏิบัติหน้าที่  3.ใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าพนักงาน  4.ข่มขืนใจเจ้าพนักงาน  5.เมาสุราหรือมึนเมาสารเสพติดอย่างอื่นแล้วขับรถ  6.ทำให้ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหาย ส่วนนายรัตนเทพ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหาลักทรัพย์ เป็นข้อหาที่ 7 ด้วย พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนเพราะพยานให้การว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการข่มขู่ในที่เกิดเหตุจึงกลัวว่าพยานจะได้รับอันตราย



+++นางพูลจิตร์ ทับหิรัญ แม่นายโสภณ กล่าวว่า ลูกชายไม่ใช่คนเกเร เป็นคนทำมาหากิน มีภรรยาและลูก 2 คน มีอาชีพตระเวนซื้อน้ำมันพืชเก่ามาเกือบ 10 ปี ดื่มสุราเป็นบางครั้งเมื่ออยู่บ้าน ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมตามที่บางสื่อบอกว่าเป็นสมาชิกแก๊งยันหว่าง นอกจากนี้ยังส่งเสียค่าใช้จ่ายให้ครอบครัววันละ 300-500 บาท เพิ่งซื้อทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ 1 ปี ต้องส่งค่าบ้านเดือนละ 13,500 บาท  ส่วนเหตุการทำร้ายร่างกายกันที่ สน. ฝ่ายลูกชายถูกทำร้ายร่างกาย เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเข้าห้ามหรือระงับเหตุการณ์ จึงขอความเป็นธรรม โดยฝ่ายผู้ต้องหาได้แจ้งความเอาผิดฝ่ายอาสาสมัคร ในข้อหาทำร้ายร่างกายแล้ว



+++สถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มทางภาคใต้ของจีน สื่อทางการจีน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย 44 คนเนื่องจากน้ำท่วมและดินถล่มในเขตหนิงเซียง มณฑลหูหนาน  เจ้าหน้าที่เขตปกครองตนเองกว่างซี รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ศพ และสูญหาย 14 คน โดยเป็นข้อมูลที่รวบรวมมาตั้งแต่ช่วงกลางจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน  ประชาชนหลายแสนคนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ซึ่งประสบความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (34,000 ล้านบาท)  สื่อจีนรายงานว่า ประชาชนประท้วงเพราะไม่พอใจที่ได้รับความช่วยเหลือฉุกเฉินช้า



+++การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (จี 20) ที่เยอรมนี ส.ส.ไฮค์ เฮนเซล ส.ส.หญิงพรรคเล็ฟท์ปาร์ตี กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วได้ยินแต่คนมีความเห็นเชิงบวกในการประท้วง เพราะชาวเมืองฮัมบูร์กตั้งแต่คนขับรถแท็กซี่ไปจนถึงผู้อาศัยที่เบื่อหน่ายการประชุมสุดยอดจี 20 และเข้าใจความรู้สึกของผู้ประท้วง ล่าสุด ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจ มีการเผารถตำรวจ และปิดถนน หลังจากเมื่อวานนี้ตำรวจอย่างน้อย 76 นายบาดเจ็บเมื่อการประท้วงที่ดำเนินไปอย่างสงบในตอนต้นกลายเป็นเหตุรุนแรงในภายหลัง การประชุมสุดยอดจี 20 ที่เริ่มขึ้นในวันนี้จะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ คาดว่าผู้นำจะหารือในประเด็นเสถียรภาพทางการเงิน การปกป้องสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคง



CR:รัฐบาลไทย



 



 

ข่าวทั้งหมด

X