ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.
+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. มีมติตั้งคณะกรรมมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอัยการเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่มีมติให้นายเข็มชัย ชุติวงศ์ รองอัยการสูงสุด ขึ้นเป็นอัยการสูงสุด โดยคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมมีระยะเวลาดำเนินการ 30 วัน ก่อนรายงานต่อที่ประชุมได้รับทราบเพื่อพิจารณาให้ความชอบในการดำรงตำแหน่งต่อไป
+++ด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดตาก บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก องค์กรพัฒนาเอกชนของเมียนมา ต่างนำเอกสารในการทำเอ็มโอยู ของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ไทย ลาวและกัมพูชา เพื่อแนะนำและเชิญชวนให้แรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา กลับมาใช้ระบบนี้เข้ามาทำงานในประเทศไทยหลังจากกลับภูมิลำเนาไปแล้ว เพื่อจะได้เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยอีก จะได้ไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น แต่แรงงานเมียนมาต่างบอกว่า ค่าธรรมเนียมระบบเอ็มโอยูแพงเกินไป ส่งผลให้เกิดการต่อรองระหว่างนายจ้าง กับลูกจ้าง ซึ่งส่วนมากลูกจ้างจะถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกละเมิดสิทธิด้านแรงงานได้ด้านการเดินทางกลับไปยังพื้นที่อำเภอแม่สอด ของแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา มีจำนวนลดลงแล้ว โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. มีแรงงานเมียนมากลับไป จำนวน 1,869 คน ซึ่งลดลงไปมากแล้ว จากเดิมวันละ 4,500-6,000 คน หลังรัฐบาลไทย โดย คสช.ใช้มาตรา 44 ชะลอการบังคับใช้กฎหมายแรงงานฉบับใหม่ ทำให้แรงงานใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำงานต่อไป และมีโอกาสที่จะทำงานใหม่
t+++น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลย ในคดีที่อัยการสูงสุด(อสส.) เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฐานปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำข้าว โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส. รวมถึงมวลชนจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ยังคงมั่นใจใจพยานหลักฐานที่นำเสนอต่อศาลว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด และยังมีพยานอีกหลายปาก โดยจะขอยื่นต่อศาลเพื่อขอให้ให้สืบพยานจนครบ ตอนนี้ ยังมีกำลังใจดี และการที่มีมวลชนมาให้กำลังใจที่ศาลจำนวนมาก ก็ไม่อยากให้ฝ่ายความมั่นคง มองเป็นเรื่องการเมือง แต่อยากให้มองเป็นเรื่องของความห่วงใย และความผูกพันกันเท่านั้น พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทยเริ่มวางตัวบุคคล เพื่อจะเป็นหัวหน้าทีมในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และมีชื่อ นางมณทาทิพย์ โกวิทเจริญกุล พี่สาวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็น 1 ในรายชื่อ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการผลักดันให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาเป็นผู้นำทีมพรรคเพื่อไทย เพื่อลบข้อครหาว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของตระกูลชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ทุกคนต่างก็มีความสามารถ และในพรรคก็มีกลไกในการพิจารณา
+++ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ พรรคการเมืองยังไม่สามารถทำกิจกรรมได้ ทุกอย่างจึงยังไม่มีความชัดเจน แกนนำพรรคได้พยายามประคับประคองพรรค เท่าที่กฎหมายจะอำนวยให้ดำเนินการได้ เมื่อมีความชัดเจนคงได้คุยกัน
+++พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ผู้บังคับการกองกฎหมาย สำนักงานกฎหมายและคดี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ที่ สน. ปทุมวัน ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายวิทยาได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการวิทยุถึงประเด็นการซื้อขายตำแหน่ง ในการโยกย้ายนายตำรวจวาระประจำปี 2559 ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ในลักษณะใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จทำให้ประชาชน เข้าใจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติในทางที่เสื่อมเสีย และเกิดความรู้สึกดูหมิ่นเกลียดชังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
+++ศาลอาญา รัชดาฯ นัดสอบคำให้การคดีที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ยื่นฟ้อง บริษัทเวลท์ เอเวอร์ ฯโดยนางสาว พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน กับพวกรวม 10 คน ตกเป็นจำเลยฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และซ่องโจร กรณีชักชวนให้ผู้เสียหายเข้าเป็นสมาชิกของบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โดยอ้างว่าจะมีสิทธิได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศอาทิ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจ่ายเงินเข้าบัญชีแม่ข่ายแต่ละสายที่พวกผู้ต้องหาให้สมาชิกชำระเงิน และจะได้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม มูลค่าความเสียหายกว่า 51 ล้านบาท แต่กลับลอยแพสมาชิกที่จะไปประเทศญี่ปุ่น ต้องตกค้างสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 11 เมษายน โดยศาลอ่านอธิบายคำฟ้องพร้อมสอบคำให้การจำเลย ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน 11 กันยายนนี้ เวลา 9.00 น.
+++เกิดอาฟเตอร์ช็อคหรือแรงสั่นสะเทือนหลังเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.5 ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์วานนี้ ส่งผลให้ประชาชนอยู่ในอาการหวาดผวาและต้องหลบหนีออกนอกบ้านเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 72 คน ทีมกู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้คนติดค้างภายใต้ซากอาคารถล่มในเมืองคานังกา จังหวัดเลย์เต ได้ทั้งสิ้น 13 คน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.5 ซึ่งมีจุดศูนย์กลางใกล้กับเมืองวานนี้ เหตุแผ่นดินไหว ส่งผลให้พื้นที่ใน 3 จังหวัดของฟิลิปปินส์ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ โรงเรียนทุกแห่งในจังหวัดเลย์เตต้องประกาศปิดการเรียนการสอน บ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย และเกิดดินถล่มในบางพื้นที่ ผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นหญิงวัย 18 ปี 1 คนเสียชีวิตจากการถูกซากอาคารหล่นทับในเมืองออร์มอค ขณะที่อีก 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ศพได้จากซากอาคารถล่มในเมืองคานังกา ด้านสายการบินท้องถิ่นต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินเดินทางมายังเมืองออร์มอค