การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมได้มีการพิจารณาร่างพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2560 (ฉบับที่ 2 ) ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรงงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเสนอหลักการของพระราชกำหนดการประมงฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560 ว่า เนื่องจากพระราชกำหนดฉบับที่แล้วมีความขัดข้องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงได้เสนอกำหนดให้ปรับปรุงนิยามคำว่าประมงพาณิชย์ เรือประมงพื้นบ้าน ที่จำแนก ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อไม่ใช้นายทุนใช้ช่องว่างในการต่อเรือพื้นบ้านทำการประมงเพื่อหลีกเลี่ยงประมงพาณิชย์ / และปรุงหลักเกณฑ์ให้เรือประมงพื้นบ้านสามารถทำประมงนอกชายฝั่งได้ 3 ไมล์ทะเล (5.5 กิโลเมตร) เพื่อช่วยเหลือประมงพื้นบ้าน ซึ่งการออกใบอนุญาตทำประมงพื้นบ้านต้องสอดคล้องกับสัตว์น้ำสูงสุดเพื่อการทำประมงอย่างยั่งยืน/ ปรับปรุงหลักเกณ ฑ์ในการสั่งหยุด หรือกิจการปิดโรงงานในการทำประมงสัตว์น้ำที่ใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายให้เป็นไปตามความร้ายแรงที่กระทำผิด และเปิดโอกาสให้ปรับปรุงแก้ไขในระหว่างการประกอบในอนุญาต /ปรับปรุงหลักเกณฑ์ผู้รับใบอนุญาตทำการประมง สามารถสามารถโอนขายเรือประมงพร้อมใบอนุญาตได้ จากเดิมที่ไม่สามาถทำได้ ทำให้ชาวประมงได้รับผลกระทบหากต้องการเลิกทำการประมงเพราะไม่มีใครต้องการซื้อเรือประมงที่ไม่มีใบอนุญาต / กำหนดให้สามรถผ่อนผันแนวทางกับเครื่องมือทำการผิดกฎหมาย /ปรับปรุงหลักเกณ์การควบคุมการขนถ่ายสัตว์น้ำ /ห้ามไม่ให้รับคนทำประมงจากเรือลำอื่น ในระหว่างออกเรือทำการประมง เพื่อไม่ให้คนประจำเรือต้องอยู่ในเรือนานเพื่อป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์/ปรับปรุงหลักเกณนำเข้าสัตว์น้ำและการเข้าเทียบท่าของเรือประมงที่ไม่ใช่เรือประมงไทย เนื่องจากมีการนำเรือประมงที่ไม่เรือประมงไทยที่ไม่ได้นำสัตว์น้ำเข้ามาในไทยด้วยวัตถุประสงค์อื่นเช่นการนำเรือมาซ่อมแซม / กำหนดให้มีคณะกรรมการมาตรการทางปกครองทำหน้าที่แทนอธิบดีกรมประมงเพื่อการทำงานรวดเร็วและรัดกุมยิ่งขึ้น และกำหนดหลักเกณฑ์คุ้มครองการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่โดยสุจริต หากมีการสั่งกักเรือประมงไม่ให้ออกทำการประมงระหว่างถูกดำเนินคดี
ซึ่งขั้นตอนการแก้ไขให้มีการจัดรับฟังความเห็นผ่านคณะกรรมการศึกษาและแก้ไขกฎหมาย และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงพื้นบ้าน โดยการเสนอแก้ไขพระราชกำหนดนี้ เป็นกรณีฉุกเฉินจำดป็นรับด่วนเพื่อเศรษฐกิจของประเทศหากเนิ่นนานก็จะทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ สำหรับการแก้ไขดังกล่าวไม่ได้ ทำให้มาตรการแก้ไขประมงผิดกฎหมายได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ด้านสมาชิกสนช.เห็นด้วยและสนับสนุนให้พระกำหนดประมง ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้เพราะในพระราชกำหนดฉบับนี้มีการแก้ไขในเรื่องสำคัญๆ ทำให้ไม่เพียงแก้ไขเรื่องไอยูยู และยังเป็นการแก้ปัญหาการประมงที่ยั่งยืนอีกด้วย ขณะที่นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ได้สอบถามถึงกรณีที่มีการออกคำสั่งตามมาตรา 44 ที่ให้มีการผ่อนผันละเว้นโทษเว้นโทษใน 4 มาตราในพระราชกำหนดแรงงาน จะมีผลละเว้นในพระราชกำหนดประมงด้วยหรือไม่
พล.อ.ฉัตรชัย ยืนยันพระราชกำหนดดังกล่าวว่าไม่ได้มุ่งหวังให้ความสำคัญเรื่องใบเหลือง ใบแดง แต่ ยืนยันถึงการมุ่งสู่การทำประมงที่ยั่งยืนมีการทำประมงพื้นบ้านเหมาะสมถูกต้อง และการทำประมงพาณิชย์ต้องเป็นที่ยอมรับของสากล ในที่สุดที่ประชุมสนช.มีมติอนุมัติประกาศให้พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2560 ฉบับที่ 2 มีผลบังคับใช้เป็นพระราชบัญญัติ ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 200 งดออกเสียง 4 ไม่เห็นด้วยไม่มี