หลังจากที่มีเฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสภาพและข้อความทำนอง ประกาศตัดหัว แม่ทัพภาค 4 โดยจะให้รางวัล 1 ล้านบาท พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าทาง ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้(ศชต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลับ ซึ่งการโพสลักษณะดังกล่าวมีความผิดชัดเจน และเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายทางอาญาด้วย เพราะเป็นการชักชวนผู้อื่นให้กระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่ระหว่างติดตามจับกุม และ สืบสวนดำเนินการทุกมิติว่าเฟสบุ๊ครายนี้เป็นใครต้องการอะไร และมีฝครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งไม่ทราบว่า ผู้โพสต์เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้หรือบุคตลที่อยู่ต่างประเทศหรือไม่ จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนก่อน ขณะเดียวกันต้องตรวจสอบว่าเพราะเหตุใดถึงได้พุ่งเป้าไปที่แม่ทัพภาคที่ 4
ส่วนกรณีที่นายสมชาย แสวงการ ออกมาระบุว่า มีตำรวจรับการเรียกรับผลประโยชน์จากกฎหมายแรงงานต่างด้าวในพื้นที่มหาชัย จังหวัดสมุครสาคร 50 ล้านบาทรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ จังหวัดสมุทรสาคร ตาก เชียงราย และสระแก้ว ก็จะต้องมีการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบก่อน ทางการไทยได้ประสานไปยังเมืองเมียวดี ของเมียนมาร์ เพื่อให้ตรวจสอบร่วมกันแล้ว ซึ่งได้รับการตอบกลับจาก ผู้ว่าการเมืองเมียวดีว่า ยังไม่ได้รับการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังเคยเป็นวิทยากรเสวนาเรื่อง "ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร" ว่า ถือเป็นสิทธิของพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะดำเนินคดีกับนายสังศิตไปตามกฎหมายเพราะมีการพูดพาดพิงถึงหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้เสื่อมเสีย และมองว่า คนเราพูดอะไรก็ต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเอง