จนท.กรมการขนส่งทางบก ยังพบรถบขส.เจาะห้องเก็บสัมภาระผดส.หลังลงตรวจขนส่งจตุจักรรับวันหยุดยาว

การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจตุจักร ของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกในวันนี้  นายกิตติคุณ  สิงหเดโช เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการในวันนี้ เปิดเผยว่า  ระหว่างวันที่ 8-10กรกฎาคมนี้  เป็นช่วงเทศกาลเข้าพรรษา มักจะมีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจตุจักรแห่งนี้ มีรถโดยสารสาธารณะคอยให้บริการประชาชน ทั้งรถของบริษัทขนส่ง หรือ บขส.และรถตู้หมวด2 ที่วิ่งระหว่างจังหวัด

ดังนั้นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจึงต้องลงพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ในการตรวจสภาพความพร้อมของตัวรถและผู้ขับขี่  เพื่อสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งการตรวจจะใช้วิธีประเมินด้วยประสบการณ์และข้อมูลที่มีอยู่ สุ่มตรวจรถโดยสารสาธารณะ เช่น  เมื่อพบรถที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม หรือ มีสถิติการทำผิดบ่อยครั้ง เจ้าหนาที่กรมการขนส่งทางบกก็จะเรียกตรวจแค่บางคัน เพราะมีรถที่ออกจากสถานีจำนวนมาก หากตรวจทุกคัน จะทำให้เกิดการจราจรติดขัดได้  สำหรับรถทั้ง2ประเภทนี้จะดูเรื่องของ  การเสริมเบาะที่นั่งเกินที่จดทะเบียนไว้ ,การปรับแต่งรถ,การปรับเปลี่ยนห้องสัมภาระ ,อุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วนพร้อมใช้งานหรือไม่ เช่น กระจก ถังดับเพลิง ยางล้อ ขนาดล้อ จะต้องได้มาตรฐาน,การติดตั้งระบบจีพีเอส เพื่อดูความเร็วในการวิ่งรถ   ส่วนของรถตู้โดยสารจะดูอีกว่ามีการปรับเบาะที่นั่งเหลือ13ที่นั่งหรือไม่ เพราะ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้โดยสารสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองออกทางเบาะหลังได้ ส่วนตัวผู้ขับขี่ จะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ สมุดบันทึกการวิ่งรถเป็นหลัก เพราะ การเดินทางนั้นความพร้อมของผู้ขับขี่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ

สำหรับ การลงพื้นที่วันนี้ พบผู้กระทำผิด คือ รถบขส.เจาะห้องเก็บสัมภาระผู้โดยสาร1ราย ในกรณีนี้ถือว่ามีความผิดเช่นกัน เพราะ ผู้ขับขี่หรือเด็กรถ บางรายอาจฉวยโอกาส ค้นกระเป๋าและขโมยสัมภาระของผู้โดยสารได้ นายกิตติคุณ ยังขอความร่วมมือผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนรถโดยสารสาธารณะด้วยว่า ให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เพื่อความปลอดภัย และขอให้มั่นใจว่าจะปลอดภัยในการใช้บริการรถ โดยสารธารณะ ที่สำคัญผู้ขับขี่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะ หากพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและสร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารได้