+++หลังจากที่พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า จะหารือกับพล.อ.บุญสร้าง และตกลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องธุรการ แต่ละคนมีบ้านอยู่ที่ไหน และสะดวกเดินทางมาประชุมที่ใด รวมถึงจะกำหนดวันประชุมร่วมกันของคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจนัดแรกในวันใดด้วย โดยประธานจะเป็นผู้กำหนดวันและเวลา ส่วนเรื่องการตั้งเลขานุการ คาดว่าจะแต่งตั้งภายหลังการประชุมวันนี้เสร็จสิ้น
+++พล.อ.บุญสร้าง ระบุว่า มีแนวทางการทำงานเรื่องการปฏิรูปตำรวจในใจคร่าว ๆ บ้างแล้ว แต่อยากฟังความเห็นจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก่อน สัปดาห์หน้าจะเปิดเผยภาพรวมการทำงานทั้งหมด ในแผนจะรวบรวมผลการศึกษาจากทุกฝ่าย รวมทั้งโมเดลจากต่างประเทศมาประกอบการศึกษา และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จทันเวลา ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำ ซึ่งต้องฝากความหวังไว้กับกรรมการทุกคนด้วย ไม่ใช่ตัวเองเพียงคนเดียว ยืนยันไม่รู้สึกหนักใจที่ถูกมองว่าเอาทหารมาปฏิรูปตำรวจ เพราะตัวเองกับตำรวจไม่ได้เป็นศัตรูกัน และมีเพื่อนเป็นตำรวจมาก เชื่อว่าทุกฝ่ายเข้าใจ
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เผยการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจที่ สตช. ในช่วงบ่ายวันนี้ เป็นการพูดคุยประเด็นปกติ ซึ่งไม่มีประเด็นการพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งตั้ง พล.อ.บุญสร้าง เป็นประธานคณะกรรมการการปฏิรูปตำรวจ
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก(อีอีซี) ว่า การประชุมวันนี้มีเรื่องที่ต้องพิจารณา และขยายเวลาหลายเรื่อง ที่จะต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความก้าวหน้า ซึ่งเรื่องการทำระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย สู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงในอนาคต จึงขอฝากเป็น mind map ไว้ในใจหรือในความคิดของทุกคนว่า จะต้องวางแผนควบคู่การพัฒนาของภาคอื่นด้วย โดยต้องเร่งสร้างการรับรู้ ว่าเรื่องนี้เป็นโครงการนำร่อง ในภาคตะวันออกที่ต้องให้เกิดขึ้นก่อน ซึ่งมีความพร้อมในหลายประการ มีศักยภาพในการพัฒนาได้เร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้ภาคอื่น ซึ่งหลายภาคก็มีความต้องการที่จะยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจให้ดีขึ้น
+++นอกจากนี้ เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเร่งงานด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงแผนอื่นร่วมด้วย จึงเกิดปัญหาเรื่องการสร้างการรับรู้และการสร้างความเข้าใจ จึงได้กำหนด กรอบนโยบายในการทำอีอีซี ให้คณะกรรมการที่มีอยู่ซึ่งเป็นตัวแทนของทุกกระทรวงจัดทำแผนควบคู่กันในการพัฒนาด้านเกษตรกรรม และเกษตรกรในพื้นที่อีอีซี ควบคู่กันไปด้วย จึงขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันพิจารณาว่าจะทำอย่างไร ให้ปรับการทำเกษตรในพื้นที่ อีอีซีไปด้วย โดยจะใช้แนวทางใหม่ โดยให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนเป็นการปลูกพืชที่เราต้องการ เช่นข้าว หากมองในข้อเท็จจริง ก็น่าดีใจ ว่าเราสามารถส่งข้าว ได้ 10 กว่าล้านตัน แต่มูลค่าที่กลับมาไม่ทำให้เกษตรกรดีขึ้นมากนัก จึงอยากให้ใช้พื้นที่ อีอีซี เป็นพื้นที่นำร่อง ในการนำไปสู่การปรับพื้นที่อื่น ๆ ให้เหมาะสม กับสภาพดินฟ้าอากาศ จึงอยากให้ 2 หน่วยงานที่สั่งไป ไปจัดทำแผนและเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาว่าจะผู้ปลูกในพื้นที่สามารถทำอย่างไรได้บ้าง
+++แนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 2560 นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงว่า ทิศทางเศรษฐกิจยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยเศรษฐกิจทั้งปีจะขยายตัวในกรอบร้อยละ 3.5-4.0 สาเหตุที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ไว้ การส่งออกฟื้นตัวชัดเจน และมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย 5 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวถึงร้อยละ 7.2 หรือคิดเป็นมูลค่า 93,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่า การส่งออกทั้งปี จะขยับใกล้เป้าหมายโตร้อยละ 5 ของกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่ ภาคการท่องเที่ยว คาดว่า ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 5 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14.6 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 3.2 ขณะที่ เดือนมิถุนายนคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวอีก 2.2 ล้านคนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
+++ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคครึ่งปีหลัง จากผลการสำรวจนักธุรกิจทุกภูมิภาคเห็นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ยกเว้นภาคใต้เห็นว่าเศรษฐกิจ น่าจะทรงตัว แม้การส่งออกยางพารา ขยายตัวดี เพราะภาครัฐมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ภาคตะวันออก รัฐบาลมีโครงการอีอีซี ขณะที่ การค้าชายแดนทรงตัวและน่าจะดีขึ้นในอนาคต ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยนักท่องเที่ยวจีนมีการเข้ามาท่องเที่ยวเอง มีการใช้จ่ายเงินมากขึ้นและพักยาวขึ้น มีสายการบินใหม่ ๆ บินเข้ามาภูเก็ตมากขึ้น ตุรกีจะเปิดเส้นทางบินส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวรัสเซียจะเข้ามา โดยภาพรวมปรับตัวดีขึ้นและจะดียิ่งขึ้นอีกจากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business) การจัดตั้งธุรกิจใช้เวลาลดลงเหลือเพียง 2 วันดีมาก มีการจัดตั้งศูนย์บุคลากรทักษะสูง (Strategic Talent Center: STC) เป็นต้น
+++นายกลินท์ กล่าวถึงการที่รัฐบาลออก พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างได้ให้ได้มาตรฐานสากล หอการค้าไทยเห็นด้วยกับการออกกฎหมายฉบับนี้ แต่วิธีการดำเนินการยังมีปัญหาต้องปรับปรุง เช่น การกำหนดค่าปรับสูงเป็นสิ่งที่ไม่เห็นด้วย สำหรับการเลื่อนบังคับใช้กฎหมาย 4 มาตรา ออกไป 180 วัน เป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อนายจ้างและแรงงานที่จะปรับตัว แต่ภาครัฐควรที่จะต้องมีวิธีการแก้ไขให้แรงงานเข้าสู้ระบบได้โดยเร็ว เพราะว่างานหลายอย่างคนไทยเลือกที่จะไม่ทำแล้ว เช่น งานเก็บผลไม้ งานแม่บ้าน เป็นต้น หากสามารถแก้ไขเรื่องเหล่านี้ได้ก็จะทำให้แรงงานต่างชาติสามารถเข้ามาทำงานได้อย่างถูกต้อง ส่วนแรงงานต่างชาติไหลออก มีจำนวนไม่มากกว่า 20,000 คน ที่ด่านแม่สอด และเชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ไขได้ปัญหาได้
+++ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมัน เดินทางไปยังสวนสัตว์เบอร์ลิน ในพิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ เมิ่งเมิ่ง แพนด้าเพศเมียอายุ 4 ปี และ เจียวชิ่ง แพนด้าเพศผู้อายุ 7 ปี ในฐานะ ทูตสันถวไมตรี เพื่อเฉลิมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศที่ครบ 45 ปีในปีนี้ โดยแพนด้าทั้งสองตัวจะอาศัยอยู่ที่สวนสัตว์เบอร์ลินเป็นเวลา 15 ปี ตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ และเยอรมนีชำระค่าธรรมเนียมให้แก่รัฐบาลปักกิ่งปีละ 1 ล้านยูโร หรือ ราว 38.9 ล้านบาท
+++ทั้งนี้ ผู้นำจีนกล่าวแสดงความหวังว่าแพนด้า เมิ่งเมิ่ง ซึ่งหมายความว่า ฝันหวาน และแพนด้าเจียวชิ่ง ที่แปลว่า ที่รัก จะสามารถปฏิบัติภารกิจของการเป็นทูตสันถวไมตรี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้เป็นอย่างดีเยี่ยม รวมถึงการมีลูกเพื่อเป็นของขวัญนำโชคให้แก่ชาวเยอรมันด้วย
+++ด้านผู้นำเยอรมนีกล่าวว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะดูแลแพนด้าทั้งสองตัวอย่างดีที่สุด ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีน ส่งแพนด้ามาอาศัยที่เยอรมนีแล้ว 3 ตัว โดยตัวล่าสุดคือแพนด้าเพศผู้ ชื่อ เป่าเปา หมายความว่า สมบัติ อาศัยอยู่ที่สวนสัตว์เบอร์ลินนานถึง 32 ปี ก่อนตายเมื่อปี 2555 ขณะมีอายุได้ 34 ปี ถือเป็นแพนด้าเพศผู้อายุยืนที่สุดในโลก
CR:รัฐบาลไทย