+++เรื่องปฎิรูปตำรวจ หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความมั่นใจและเชื่อมือพล.อ. บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจ หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เซ็นลงนามแต่งตั้งพร้อมทั้งกรรมการรวม36 คน ตั้งกรอบเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 9 เดือน วันนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นัดหารือกับพล.อ.บุญสร้าง ที่รัฐสภา เพื่อพูดคุยถึงคนที่จะมาทำหน้าที่เลขาฯ คณะกรรมการ และจะได้กำหนดวัน สถานที่ และเบี้ยประชุมนัดแรก รวมถึงความต้องการในส่วนอื่นๆ ส่วนจะมีการตั้งอนุกรรมการเพิ่มหรือไม่ เป็นเรื่องของประธาน
+++เรื่องพ.ร.ก.การทำงานของแรงงานต่างด้าว พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ปรับตัวไปมีระยะเวลา6เดือน และให้เวลามานานถึง3ปี ยังไม่มีการจัดระเบียบ ถ้าไม่ทำในตอนนี้ อนาคตประเทศชาติเสียหาย กรณีภาคเอกชนท้วงติงให้ทบทวนโทษปรับที่สูงเกินไป ต้องมีทบทวนกันอีกที เป็นเรื่องของกระทรวงแรงงาน
+++นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ยืนยันว่า หากทำถูกต้องก็ไม่ต้องกลัว ภายใน 6 เดือนนี้จะไม่ถูกลงโทษ เพื่อให้เวลาไปขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เตรียมออกประกาศกระทรวง เพื่ออำนวยความสะดวกและเยียวยาให้ต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าสู่ระบบ เช่น การเปลี่ยนนายจ้างหรือใบอนุญาตทำงานไม่ตรงกับนายจ้าง จะเปิดให้มาเปลี่ยนนายจ้างให้ถูกต้องได้ การตั้งศูนย์รับแจ้งการใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งจะเปิดให้นายจ้างพาลูกจ้างมาแจ้งพิสูจน์ตัวตน โดยใช้เวลาไม่นาน จากนั้นก็จะออกหนังสือเพื่อให้ไปยื่นเรื่องผ่านกระบวนการพิสูจน์สัญชาติ และรับใบอนุญาตทำงานต่อไป
+++ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี พร้อมทั้งได้ปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2560 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.5 จากเดิมที่ร้อยละ 3.4 และปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 3.7 จากเดิมร้อยละ 3.6 เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มการขยายตัวที่ชัดเจนขึ้นจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวดีขึ้น ทำให้มีการปรับประมาณการตัวเลขส่งออกของไทยในปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5 จากเดิมที่ร้อยละ 2.2 ภาพรวมการส่งออก เริ่มกลับมาฟื้นตัวค่อนข้างชัดเจน แต่ปรับจีดีพีเพิ่มขึ้นไม่มาก เพราะส่วนหนึ่งภาคเอกชนมีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อมาผลิตสินค้า สำหรับการส่งออกค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วง 5-6 เดือนก่อนหน้าที่มีการขยายตัวด้านการนำเข้าค่อนข้างมาก คณะกรรมการเห็นว่าระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ สามารถรับมือกับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจการเงินทั้งในและต่างประเทศได้ดี แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงในบางจุด
+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.94 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากรัสเซีย คัดค้านการลดกำลังผลิตเพิ่มเติมจากที่ตกลงกัน นอกจากนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและรายงานของรอยเตอร์ที่ระบุว่าตัวเลขการส่งออกน้ำมันของโอเปกเพิ่มขึ้นอีก 4 แสน 50,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนพฤษภาคม เป็น 25.92 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน
+++ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน ดาวโจนส์ ลดลง 1.10 จุด ปิดที่ 21,478.17 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.53 จุด ปิดที่ 2,432.54 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 40.80 จุด ปิดที่ 6,150.86 จุด ข้อมูลทางเศรษฐกิจในแนวโน้วทางลบและการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำ ปิดบวกโดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,221.70 ดอลลาร์ต่ออ
+++คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 25 ส.ค.หลังจากที่ไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย คดีนี้อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 1, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 2 และพวกรวม 28 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) ประมวลกฎหมายอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พร้อมขอให้ศาลสั่งปรับจำเลยเป็นเงิน 35,274,611,007 บาท ศาลให้นายบุญทรง แถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรจะละเอียดกว่าแถลงด้วย ส่วนการบังคับคดีอายัดทรัพย์ในทางแพ่งเป็นกระบวนการที่อยู่ระหว่างยื่นฟ้องศาลปกครอง
+++คณะกรรมการพิจารณาพักโทษของกรมราชทัณฑ์ ได้พิจารณาพักโทษผู้ต้องขังที่เข้าหลักเกณฑ์การพักโทษ หนึ่งในนั้นมี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี รวมอยู่ด้วย เนื่องจากมีความประพฤติดี จนถูกจัดอยู่ในผู้ต้องขังชั้นดี โดยคณะกรรมการให้สิทธิลดโทษ 1 ใน 5 หรือเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน จากโทษ จำคุก 1 ปี แต่หลังจากได้รับการปล่อยตัว ตามเงื่อนไขได้รับการพักโทษของกรมราชทัณฑ์แล้ว นพ.สุรพงษ์ จะต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ และทำตามเงื่อนไขที่กำหนด จนกว่าจะครบกำหนดศาลสั่งจำคุกวันที่ 25 สิงหาคม 2560 นพ.สุรพงษ์ ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทำความผิดขณะดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร จากกรณีแปลงสัญญาดาวเทียมไทยคมเอื้อกลุ่มชินคอร์ป และถูกนำตัวส่งเรือนจำเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2559
+++หลายคนคงจะได้อ่านเรื่องราวของน้องเอาร่มไปกางให้ทหารในช่วงฝนตก เฟสบุ๊ค army pr center เปิดตัว ด.ช.คนดังกล่าวชื่อน้องเดียร์ หรือ ด.ช.บริวัฒน์ สิงหการ พี่ทหารครับ ผมเอาร่มมาให้ เปิดใจกับแอดมินว่า ฮ.ทหารลงจอดฉุกเฉินที่โรงเรียนเมืองพังงา เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี แรกๆเด็กก็ตื่นเต้นเมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์เป็นๆต่อหน้าต่อหน้า ไม่เป็นอันเรียน สักพักเห็นพี่ทหารนั่งนิ่งอยู่ในเครื่องไม่ยอมลงมา รีบถามคุณครูมีร่มไหมครับ ผมจะเอาไปรับพี่ทหาร คุณครูมณีรัตน์ เร็วเรียบ (ครูเขียว) ที่กำลังสอนอยู่นั้น ก็หาร่มให้เท่าที่หาได้ มีร่มคันจิ๋วอยู่ 2 คัน น้องเดียร์กับน้องซี ก็อาสาวิ่งไปรับพี่ๆทหารจนเปียกปอนทั้งทหารและเด็กๆ ครูเขียวเล่าว่าวันรุ่งขึ้นน้องเดียร์ไม่สบายนิดหน่อย แต่พอได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นที่ชื่นชมของหลายๆคน ก็ยิ้มแก้มปริ น้องเดียร์ บอกกับแอดมินว่า ผมอยากเป็นทหารครับ และก็ดีใจที่ได้เอาร่มไปให้พี่ทหารครับ สงสารกลัวพี่ทหารเปียก
CR:FB army pr center