นางบังอร คำพวง พร้อม สามีเดินทางมาร้องเรียนกับพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสั่งสอบข้อเท็จจริง หลังจากตกเป็นผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น ในคดีที่เป็นเรื่องหึงหวง ที่บังอร หรือ อ้อย คำพวง เลิกรากับแฟน และมีแฟนใหม่ แต่แฟนเก่าขอมีอะไรด้วยเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อแลกกับการเลิกวุ่นวายกับตน จนแฟนใหม่ทนไม่ไหว จึงร่วมมือกับบังอร หรืออ้อย ฆ่าแฟนเก่า เหตุการณ์นี้ ทั้งที่วันเกิดเหตุนางบังอร ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เบื้องต้นตรวจสอบพบมีบุคคลชื่อและนามสกุลจากทะเบียนราษฎร์ซ้ำกันถึง 5 คน
พลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุว่า วันนี้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามมารับทำสำนวนคดีนี้ใหม่ทั้งหมด เพื่อยื่นให้อัยการพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่การรื้อคดี แต่เป็นการทำสำนวนขึ้นมาใหม่ เพื่อส่งให้อัยการพิจารณา จะต้องมีการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ตรวจ DNA และสอบปากคำใหม่ทั้งหมด โดยวันนี้ทางกองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาเก็บ DNA ของนางบังอรด้วย ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนสน. ประชาชื่นส่งสำนวนคดีไปให้อัยการแล้ว ทางตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ เบื้องต้นได้นำเรียนเรื่องนี้ต่อพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งจเรตำรวจทราบแล้ว และหากผลการตรวจพิสูจน์พบว่านางบังอร ไม่ใช่ผู้กระทำความผิดจริง และหากจะมีการเอาผิดตำรวจในท้องที่ ที่ทำคดีนี้ ในเรื่องการทำสำนวนผิดพลาด จะส่งเรื่องนี้ไปให้กองกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการต่อไป
นางบังอร ยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้กระทำความผิด โดยวันที่เกิดเหตุ ตนอยู่กับสามีที่บ้าน ในอำเภอบางบ่อ จังหวัดหนองคาย และก่อนหน้านี้ตนไม่ได้ใช้นามสกุล "คำพวง" แต่ใช้นามสกุลอื่น แต่เพิ่งมาเปลี่ยนมาใช้นามสกุล "คำพวง" ตอนจดทะเบียนสมรสกับสามี เมื่อปี 2537 และยังมีชื่อเล่นว่า "อร" ไม่ได้ชื่อ "อ้อย" ตามที่ปรากฏในสำนวนคดี รวมทั้งยืนยันด้วยว่ามีสามีแค่คนเดียว และหลังจากที่ตำรวจจับตัวมา ก็ไม่ได้มีการชี้ตัวผู้ต้องหา และสอบปากคำตนเอง และสามี โดยตนได้ปฏิเสธกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ร้องเรียนเรื่องนี้กับอัยการ โดยวันนี้นำตัวสามี มายืนยันว่าวันเกิดเหตุได้อยู่กับสามี
นอกจากนี้นางบังอร ยังระบุอีกว่า คนที่ชื่อ บังอร คำพวง ในทะเบียนราษฎร์ มีอยู่ทั้งหมด 5 คน ซึ่งมี 3 คน อยู่ในตำบลเดียวกัน อีก 2 คน อยู่ในจังหวัดอื่น และในตำบลบางบ่อ มีคนที่ชื่อบังอร ชื่อเล่นว่าอ้อย อยู่ในตำบลเดียวกันด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจับตัวนางบังอร มาดำเนินคดี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นชื่อ นามสกุล และ หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก โดยตำรวจยืนยันว่า พยานในที่เกิดเหตุจำชื่อและนามสกุลได้ว่าเป็น บังอร คำพวง ซึ่งในสำนวน