การจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุฉ้อโกงหลอกซื้อดาวน์รถยนต์ผ่านสื่อออนไลน์ มีมูลค่าความเสียหายกว่า 20ล้านบาท พลตำตรวจตรีสุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายกว่า 14ราย เข้ามาร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่กองปราบปราม สืบสวนขยายผล เพื่อติดตามรถยนต์คืน หลังนายลาภวงศ์ วัชรวันทานนท์ หรือกอล์ฟ มีพฤติการณ์เปิดเว็บไซต์ เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม โฆษณาตามเว็บไซต์ซื้อขายรถยนต์ และให้ประชาชนหลงเชื่อ โดยการหลอกซื้อดาวน์รถยนต์และนำรถของผู้เสียหายไปขายต่อ ให้กับเต๊นท์รถมือสองและประชาชนทั่วไป ซึ่งเจ้าหน้าที่กองปราบปรามสืบสวนจนทราบและสามารถจับกุมนายลาภวงศ์ได้ที่หน้าร้านกาแฟในอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานีเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลไปบ้านหลังหนึ่ง ที่เป็นสถานที่รับจํานํารถ ย่าน คลองสามวา กรุงเทพมหานคร ซึ่งพบรถของผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดรถยนต์เพื่อตรวจสอบไว้65คัน และจากการ สอบสวนเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวอ้างว่าไม่ทราบว่ารถของผู้ต้องหาได้มาโดยถูกต้องหรือไม่
เบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลติดตามหารถยนต์ที่ผู้ต้องหาหลอกซื้อดาวน์ไป กลับคืนมาให้ได้มากที่สุด ส่วนรถยนต์65คันที่สามารถอายึดได้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและเลขตัวถังรถว่าตรงกับรถของผู้เสียหายหรือไม่ หากพบก็จะรีบทำการติดต่อนำส่งคืนผู้เสียหายโดยเร็วที่สุด

ด้านนายทองสุข กิมซือ ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ได้ซื้อรถมาสด้า อาร์เอ็กซ์ 8 ราคาประมาณ1,200,000บาท โดยผ่อนชำระไปแล้วกว่า 200,000บาท แต่เนื่องจากเริ่มผ่อนไม่ไหว จึงประกาศขายรถผ่านทางสื่ออนไลน์ จากนั้นผู้ต้องหาติดต่อกลับมา ขอซื้อรถคันดังกล่าว โดยสัญญาว่า จะปิดไฟแนนซ์ให้ และนำรถเบนซ์มาให้ใช้แทน จนกว่าจะขายรถได้ กระทั่ง 6 เดือนผ่านไป ยังขายไม่ได้ และในระหว่างนั้นมีหนังสือทวงถามค่างวดจากไฟแนนซ์ ทำให้ รู้สึกไม่มั่นใจ กลัวถูกหลอก จึงได้โพสต์ลงเฟสบุ๊คบอกพฤติการณ์ของผู้ต้องหา ก่อนจะมีคนเข้ามาบอกว่าถูกกระทำลักษณะเดียวกัน หลังจากนั้นตนเองและผู้เสียหายได้รวมตัวกันไปหาผู้ต้องหาที่บ้าน เพื่อขอรถคืน แต่ผู้ต้องหา อ้างว่า เอารถไปจำนำในราคา 200,000บาท หากจะเอารถคืนต้องหาเงืนไปไถ่ถอนเอง ดังนั้นจึงเข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ ก่อนนำบันทึกแจ้งความมาร้องขอความช่วยเหลือที่กองปราบปราม ระหว่างการแถลงข่าวอยู่ ตำรวจได้ให้นายทองสุข ดูรถคันหนึ่ง ที่ตำรวจอายัดมาได้ ว่าใช่รถของตนเองหรือไม่ และทันทีที่เห็นรถ นายทองสุขถึงกับร้องให้ หลังให้รถกับผู้ต้องหาไป ถูกบริษัทไฟแนนซ์ส่งเอกสารทวงค่างวดรถตลอด จากนี้ไม่คิดขายอีกแล้ว จากการตรวจสอบรถของนายทองสุขนั้น พบว่าถูกนำไปจำนำถึง 4 ทอด

ด้านนายวัฒนพร พิทักษ์ศักดิ์เสรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เตือนภัยว่า การซื้อขายรถที่ยังค้างค่างวดกับไฟแนนซ์ไม่สามารถทำได้ หากมีความจำเป็นจริงๆ จะต้องติดต่อผ่านทางบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงสัญญาผู้เช่าซื้อใหม่ แต่การขายรถในลักษณะเช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ฐาน ยักยอกทรัพย์และผู้รับซื้อรถจะผิดข้อหารับของโจรด้วย ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่กองปราบปรามนำรถยนต์ของนายทองสุข มามอบคืนให้ พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่กองปราบปรามที่ติดตามนำรถยนต์กลับคืนได้ เพราะน้อยคนที่จะโชคดีแบบนี้
