ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายเดเร็ค คอลเล็ต อดีตที่ปรึกษาระดับสูงด้านความมั่นคงแห่งชาติในยุครัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาและขณะนี้ทำงานอยู่กับองค์กรเยอรมัน มาแชลล์ ฟันด์ของสหรัฐฯและนายแมทธิว โรจันสกี ผอ.สถาบันเคนนัน วูดโรว์ วิลสัน เซนเตอร์ของสหรัฐฯว่า ในที่สุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียก็จะมีโอกาสเจอกันระหว่างการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่(จี-20)ในเมืองฮัมบูร์ก เยอรมนี ในวันที่ 7-8 กรกฏาคมนี้ ผู้นำทั้งสองเฝ้ามองดูความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายด้วยความสนใจอยู่ห่างๆ โดยเฉพาะหลังนายทรัมป์ อดีตนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มเปิดตัวลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในนามพรรครีพับลิกันเมื่อ 2 ปีก่อน
แต่สัปดาห์นี้ ผู้นำทั้งสอง จะมีโอกาสเจอหน้ากันจริงๆ จะเป็นการพบปะกันที่คนทั่วโลกเฝ้าติดตามมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในรอบหลายปีมานี้ เนื่องจากระยะนี้มีประเด็นปัญหาต่างๆที่หลายคนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องการเมือง ภูมิยุทธศาสตร์และเรื่องราวส่วนตัวของผู้นำทั้งสอง โดยในสัปดาห์หน้า นายทรัมป์จะมีโอกาสพบปะทักทายกับบุคคลที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯระบุว่าอยู่เบื้องแผนการที่แยบยลเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับการเลือกตั้งสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว และช่วยให้นายทรัมป์ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศสหรัฐฯได้สำเร็จ ตลอด 4 ปี นายทรัมป์ ชื่นชมผู้นำรัสเซีย
ขณะที่ นักการเมืองส่วนใหญ่ของสหรัฐฯมองผู้นำรัสเซียว่า เป็นศัตรูของสหรัฐฯ นายทรัมป์ตั้งข้อสังเกตว่าผู้นำรัสเซียมีความกรุณาต่อเขาในหลายๆเรื่อง แต่ปฏิเสธคำอ้างเดิมที่เคยบอกว่า ทั้งคู่เคยพบกันมาก่อน ขณะเดียวกันนายปูติน อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับหรือเคจีบีของรัสเซีย ก็เคยกล่าวชื่นชมนายทรัมป์ว่าเป็นคนสติปัญญาเป็นเลิศและมีพรสวรรค์ แต่เตือนก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐฯเสมือนคนไข้ที่มีอาการหวาดระแวงทางการเมือง กรณีมีข้อครหาที่ว่านายทรัมป์ได้แลกเปลี่ยนข่าวกรองกับเจ้าหน้าที่รัสเซียประจำสหรัฐฯ
แม้ว่าจะไม่มีประเด็นเรื่องการเมืองสหรัฐฯ การพบปะระหว่างนายทรัมป์และนายปูตินในครั้งนี้ว่าสำคัญในเรื่องที่จะมีผลคือการกำหนดทิศทางในอนาคตของยุโรปและตะวันออกกลาง โดยเฉพาะคำถามเรื่องการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรรัสเซียกรณีการผนวกอ่าวไครเมียของยูเครนเป็นอาณาเขต อนาคตของซีเรียหลังการล่มสลายของกลุ่มรัฐอิสลาม วิธีการป้องกันไม่ให้กองกำลังสหรัฐฯและรัสเซียปะทะกันในซีเรียและความประสงค์ของสหรัฐฯที่จะยืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต้) ทั้งหมดล้วนเป็นประเด็นที่รอการตัดสินใจร่วมกันระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย
ทีมต่างประเทศ
CR:CNN