+++ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ จะเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พิจารณาประกาศใช้ มาตรา 44 ช่วยแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ที่จะมีการขยายเวลาให้แรงงานต่างด้าวทำเรื่องขออนุญาตเข้ามาทำงานภายในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ภายในเวลา 120 วัน ให้การทำงานของเจ้าหน้าที่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงจัง ไม่ให้มีการหาผลประโยชน์ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมาจากพระราชกำหนดการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว พ.ศ.2560 ที่ได้มีผลบังคับใช้แล้ว
+++พล.อ.ศิริชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็มีการออกกฎหมายมา 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว และพ.ร.ก.การนำคนต่างด้าวเข้าประเทศ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการบูรณาการ การควบคุม แก้ปัญหานายหน้าต่างๆ เลยออกเป็น พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 เพื่อให้เกิดการคุ้มครอง ป้องกัน ฟื้นฟูผู้ที่อยู่ในวงจรการจ้างแรงงานต่างด้าว ส่วนข้อกังวลเรื่องค่าปรับที่สูงถึง 4-8 แสนบาท ชี้แจงว่า เป็นไปตามกฎหมายอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายในเดียวกันคือกฎหมายประมง กฎหมายใช้แรงงานเด็ก กฎหมายค้ามนุษย์ เป็นต้น ยืนยันว่า ฐานความผิดยังเป็นฐานเดิม แต่เพิ่มโทษรุนแรงขึ้นเพื่อให้เกิดการจ้างและใช้แรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมาย
+++นายวิวัฒน์ จิระพันธุ์วานิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้ มีแรงงานต่างด้าวเดินทางออกผ่านด่านชายแดนกว่า 29,000 คน แต่ก็มียอดแรงงานที่เดินทางเข้ามาทำงานตามเอ็มโอยู 6 หมื่นคน ส่วนการชะลอ พ.ร.ก.ต่างด้าว ที่ส่งผลกระทบนายจ้างและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ยังต้องรอดูคำสั่ง มาตรา 44 ที่จะออกมาว่าใน 120 วัน จะให้การช่วยเหลืออย่างไร หลังจากนั้นกระทรวงแรงงานจะแถลงมาตรการให้ชัดเจน นายจ้างจึงอย่าวิตกเกินไป สำหรับแรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงาน แต่ชื่อนายจ้างไม่ตรงตามที่ระบุและทำงานผิดสถานที่ นายจ้างสามารถนำไปยื่นขอเปลี่ยนชื่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด โดยจะทำได้แล้วเสร็จใน 1 วัน
+++การประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปรัฐบาล) น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เชิญกระทรวงแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหตุผลที่ออกพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวว่าจะนำผลที่หารือในวันนี้ เข้าสู่วิปสนช.ก่อนเสนอเข้าที่ประชุม สนช.ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนเรื่องการหาทางเยียวยาโดยอาจออกมาตรา 44 ซึ่งคงต้องรอผลการหารือในที่ประชุมคสช.และ ครม.ในวันพรุ่งนี้
+++การประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ครั้งที่ 13 นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้งนายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ในวาระ 1 ตุลาคม 2560 ในการพิจารณาแต่งตั้งผู้บริหาร จะต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถในการบริหารงานศาล ที่ประชุมก.ต.มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง และพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่เห็นชอบในการแต่งตั้งให้นายศิริชัย ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว แม้จะเป็นผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดก็ตาม นัดประชุมครั้งต่อไป วันที่ 11 กรกฎาคม
+++เจ้าหน้าที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 จ.นครปฐม ได้นำตัว ผู้ต้องหาคดีจำหน่ายวัตถุระเบิด และจัดซื้อวัตถุระเบิด มีอาวุธปืน และ วัตถุระเบิดที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้โดยผิดกฎหมายจำนวน 6 คน ประกอบด้วย ร.ท.สันติ นามวิเศษ จ.ส.อ.ประดิพัทธ์ เสน่ห์ดี จ.ส.อ.ฉัตรชัย เอี่ยมสมบูรณ์ จ.ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ ส.อ.สุทธิโชค ไพเราะ และพลทหาร สกลนที พรหมทอง เดินทางมาที่ศาลทหารกรุงเทพ หลังจากครบระยะเวลาฝากขังในผัดที่ 2 พนักงานสอบสวน ยังคงขออำนาจศาลฝากขังในผัดที่ 3 ต่อ เนื่องจากยังสอบสวนพยานในคดีไม่แล้วเสร็จอีกจำนวนหลายปาก และการตรวจวัตถุพยานในพื้นที่ต่างๆยังไม่สมบรูณ์ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง
+++คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพ ได้ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวน และคำร้องของทนายผู้ต้องหาให้ขอปล่อยตัวชั่วคราว เห็นควรอนุมัติตามคำร้องของพนักงานสอบสวนเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. ถึงวันที่ 15 ก.ค. และพิจารณาคำร้องขอประกันตัวของทนายผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยไม่อนุญาตให้ประกันผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 6 คน กลับไปควบคุมตัวต่อที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 จ.นครปฐม
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดที่1,579.41จุด เพิ่มขึ้น 4.67จุด มูลค่าซื้อขาย 29,995.55ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดบวก 22.37 จุด ที่ 20,055.80 จุด ดัชนีได้แรงหนุนจากรายงานของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ระบุว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ปรับตัวขึ้นในไตรมาส 2/2560 อย่างไรก็ตาม แรงบวกได้ถูกสกัดลงจากรายงานที่ว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายชินโซ อาเบะ พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงโตเกียว ให้กับพรรคโทมิน เฟิร์สท์ โนะ ไค (พรรคชาวโตเกียวต้องมาก่อน) ของนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว และพรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรของนางโคอิเกะ ซึ่งรวมถึงพรรคโคเมอิโตะ
+++ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 19.59 จุด ปิดที่ 25,784.17 จุด
+++ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) มีน.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธานสปท. เป็นประธาน ได้มีความเห็น 144 ต่อ 1 คะแนนเห็นชอบรายงาน ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิรูปการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชน โดยพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกมธ. รายงานว่า สิ่งที่น่าวิตกในขณะนี้ คือ สื่อกระแสหลักใช้สื่อออนไลน์มาแข่งขันในการนำเสนอข่าว ทำให้หลายเหตุการณ์ เช่น ฆาตกรฆ่าหั่นศพ กลายเป็น เน็ตไอดอล กมธ.เสนอแนวทางปฏิรูป 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ต้องทำให้เสร็จปี2562 เช่น การจัดระเบียบการลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย กสทช.ควรจัดระเบียบลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินให้ใช้ลายนิ้วมือและใบหน้าควบคู่กับบัตรประชาชน และควรจัดตั้งศูนย์กลางบริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ได้เป็นข้อมูลสาธารณะที่ใครมาตรวจสอบก็ได้ ส่วนการปฏิรูประยะยาว เช่น การปลูกจิตสำนึกที่ดีในการใช้สื่อออนไลน์ การให้ความรู้ด้านเทคโนโลยี การใช้มาตรการทางกฎหมาย โดยให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.) หามาตรการการลงโทษปรับเจ้าของสื่อออนไลน์ต่างประเทศ ที่ปล่อยให้เผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่ถูกละเมิด หรือเนื้อหาที่มีลักษณะชักชวนให้นำไปสู่การกระทำรุนแรง เพื่อให้เจ้าของสื่อออนไลน์ต่างประเทศ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป ร่วมรับผิดชอบในฐานะเป็นเจ้าของพื้นที่ที่ทำให้เกิดการแพร่หลายของเนื้อหาดังกล่าว
+++สมาชิกสปท.ได้อภิปรายแสดงความคิดเห็น นายกษิต ภิรมย์ สมาชิกสปท. กล่าวว่า อยากให้ทบทวนรายงานฉบับนี้ทั้งหมด เพราะอ่านแล้ว จับไม่ได้ว่าหัวใจของเรื่องจะแก้ไขปัญหาการใช้สื่อโซเชียลมีเดียได้อย่าง
+++ขณะที่ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกสปท. อภิปรายว่า การที่กมธ.เสนอให้ประชาชนต้องสแกนลายนิ้วมือ ใบหน้าในการลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน เหมือนการทำหนังสือเดินทาง ไม่แน่ใจว่ามีประเทศใดใช้แนวทางนี้บ้าง หากนำมาตรการนี้มาบังคับใช้ทั้งประเทศ จะเป็นการขัดต่อสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะการแค่มีบัตรประชาชนสามารถบอกอะไรได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
+++บีบีซี รายงานโฆษกตำรวจเยอรมนีว่ามีผู้บาดเจ็บ 30 คน ในจำนวนนี้หลายคนอาการสาหัส และอีก 18 คนยังติดอยู่ในรถ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คาดว่าอาจจะเสียชีวิต หลังเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถทัวร์คันหนึ่งหลังพุ่งชนท้ายรถบรรทุกคันหนึ่งเมื่อเวลา 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ขณะแล่นอยู่บนทางด่วนหมายเลข A-9 ใกล้เมืองสตัมบัค ทางภาคใต้ของประเทศ จุดเกิดเหตุอยู่ทางตอนเหนือของรัฐบาวาเรีย
+++ขณะนี้ หน่วยกู้ภัยของเยอรมนีได้ส่งเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยไปทำงานร่วมกับทีมกู้ภัยในพื้นที่ราว 200 คนเพื่อพยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ตำรวจได้ปิดกั้นทางด่วน ขณะที่การกู้ภัยยังคงดำเนินอยู่ สำหรับรถทัวร์คันเกิดเหตุมีผู้โดยสาร 46 คนและมีคนขับรถ 2 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่รถชนกัน แต่มีรายงานว่าในช่วงเกิดเหตุรถบนทางด่วนแล่นด้วยความเร็วต่ำกว่าปกติ ตำรวจเพิ่มเติมว่ามีโรงพยาบาลอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ
+++รอยเตอร์ รายงานอ้างสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีนว่ามีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 15 ศพและมีการอพยพชาวบ้านหลายแสนคนในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศหลังฝนตกหนักในช่วง 2-3 วัน เกิดน้ำท่วมในบางท้องที่ ในจำนวนนี้ 7 ศพ เสียชีวิตในมณฑลกวางสี มีการอพยพชาวบ้าน 23,000 คนไปยังที่ปลอดภัย
+++ส่วนที่มณฑลหูหนาน ที่อยู่ใกล้กัน มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ และมีการอพยพชาวบ้านกว่า 3 แสนคนไปยังที่ปลอดภัย ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นเตือนภัยสีแดงเมื่อบ่ายวานนี้ ระบุว่าระดับน้ำตลอดริมฝั่งแม่น้ำเซียงเจียง ลำน้ำย่อยของแม่น้ำแยงซีในมณฑลหูหนานอาจเพิ่มสูงแตะระดับสูงสุด คือ 39.18 เมตรในช่วงน้ำท่วมหนักเมื่อปี 2541 หรืออาจจะท่วมสูงทำสถิติใหม่ในระยะ 2-3 วันนี้
+++สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน คาดว่า จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ มีคนเสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมหนักในประเทศจีนเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูฝน
แฟ้มภาพ