รอยเตอร์ รายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สหรัฐฯแถลงในสวนโรสการ์เดน ทำเนียบขาว สหรัฐฯ ร่วมกับประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้เมื่อวานว่าสหรัฐฯจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อลงโทษเกาหลีเหนือให้หนักยิ่งขึ้น หลังการหารือกับประธานาธิบดีมุน ผู้นำสหรัฐฯย้ำถึงความสำคัญของการเป็นพันธมิตรสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ แต่สหรัฐฯเน้นประเด็นการหารือกับเกาหลีใต้เรื่องการค้าและขอให้เกาหลีใต้รับภาระค่าใช้จ่ายในการช่วยป้องกันประเทศเกาหลีใต้ของสหรัฐฯมากขึ้น นายทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯจะขอเจรจาใหม่เรื่องข้อตกลงการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯซึ่งผู้นำคนก่อนคืออดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯลงนามกับเกาหลีใต้เมื่อ 5 ปีก่อน
สำหรับประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือ ผู้นำสหรัฐฯย้ำว่ายุคสมัยแห่งความอดกลั้นต่อโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจบสิ้นไปแล้ว ระบุว่าสหรัฐฯและเกาหลีใต้เผชิญกับภัยคุกคามร่วมกันคือพฤติกรรมที่ขาดความยั้งคิดและรัฐบาลที่อำมหิตของเกาหลีเหนือ นายทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯและพันธมิตรจะร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าว แต่ยังไม่ชัดเจนว่านายทรัมป์จะดำเนินการอย่างไรเพื่อจัดการกับเกาหลีเหนือซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถจะใช้โจมตีได้ไกลถึงสหรัฐฯ
นายทรัมป์ เคยตั้งความหวังว่าประเทศจีน พันธมิตรเกาหลีเหนือ จะดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อชักจูงเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ แต่ช่วงหลังๆนี้ ผู้นำสหรัฐฯรู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลจีนไม่ได้ดำเนินการมากพอเพื่อช่วยคลี่คลายปัญหานี้
ด้านนายมุน เตือนว่าเกาหลีใต้พร้อมจะตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการยั่วยุทางทหารของเกาหลีเหนือ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหานี้ ระบุว่าสหรัฐฯและเกาหลีใต้เห็นพ้องกันว่าควรจะใช้ทั้งวิธีการลงโทษเกาหลีเหนือควบคู่ไปกับการเจรจา เพื่อคลี่คลายวิกฤติ แต่ย้ำว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเกาหลีเหนืยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธก่อน
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters