นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเข้าพบกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ได้หารือถึงกรณีข้อกังวลเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว หลังจากพระราชกำหนดการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา และมีบทลงโทษที่หนัก คือการปรับสูงสุด 400,000 บาท ถึง 800,000 บาท ซึ่งจากการประชุมกับหลายฝ่ายก่อนหน้านี้ ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อธิบดีกรมการจัดหางาน ตัวแทนสภาความมั่นคงแห่งชาติ คณะกรรมการกฤษฎีกา ตัวแทนจากสภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้รับทราบปัญหาจากการใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าว และมีการเสนอให้รัฐบาลตั้งศูนย์รับจดทะเบียนใหม่ ขอให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการออกกฎหมายลูก ปัญหาการจ่ายเงินชดเชยกับลูกจ้าง กรณีเดินทางกลับประเทศ และการประชาสัมพันธ์การใช้ พ.ร.ก.โดย
นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบและให้ข้อเสนอเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยจำเป็นจะต้องใช้คำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อจะผ่อนคลายปัญหาต่างๆ ด้วยการชะลอหรือเลื่อนการบังคับใช้บางมาตรา ของ พ.ร.ก.ออกไปก่อน ได้แก่มาตรา 101 มาตรา 102 และมาตรา 122 ซึ่งเป็นมาตราที่เกี่ยวกับการการเอาผิดและลงโทษหนัก กับนายจ้างและลูกจ้าง ออกไป 120 วัน และในระหว่างนี้ขอให้ผู้ใช้แรงงานต่างด้าว ทั้งที่ผิดกฎหมายเข้าเมือง หรือผิดกฎหมายเงื่อนไขการได้รับอนุญาตการทำงาน ให้ทุกคนอยู่ในความสงบและไปดำเนินการให้ถูกต้อง ส่วยนายจ้างก็ใช้มาตรการอย่างเดียวกัน โดยยืนยันว่าไทยยังเคารพพันธะกรณีกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะการต่อต้านการค้ามนุษย์ที่จะต้องทำอย่างจริงจังต่อไป ไม่ให้การใช้หรือไม่ใช้ พ.ร.ก.นี้ มาเป็นอุปสรรคในการต่อต้านการค้ามนุษย์
แฟ้มภาพ