องค์การห้ามอาวุธเคมี เผยมีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียเมื่อเดือนเมษายน

30 มิถุนายน 2560, 16:24น.


รอยเตอร์รายงานอ้างองค์การห้ามอาวุธเคมี(โอพีซีดับเบิลยู) หน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการใช้อาวุธเคมีของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ว่า ผลตรวจสอบของคณะกรรมการค้นหาข้อเท็จจริงร่วมสหประชาชาติ(ยูเอ็น)-โอพีซีดับเบิลยู สรุปว่า มีการใช้อาวุธเคมีประเภทแก๊สพิษซารินในการโจมตีย่านชุมชนในเมืองข่าน เชคุน จังหวัดอิดลิบ ทางภาคเหนือของซีเรียเมื่อวันที่ 4 เมษายน มีคนเสียชีวิตราว 80 ศพ แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดว่า ฝ่ายใดระหว่างกองทัพซีเรียกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ระบุว่า ขั้นตอนต่อไปคือการร่วมกันคลี่คลายปัญหานี้และส่งผู้เชี่ยวชาญไปเก็บหลักฐานในซีเรียเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ให้ชัดเจนว่าฝ่ายใดมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้



เหตุรุนแรงครั้งนั้นนับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดในสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อมากว่า 6 ปี และเป็นเหตุให้สหรัฐฯโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งของซีเรีย โดยสหรัฐฯให้เหตุผลว่าฐานทัพดังกล่าวเป็นจุดที่กองทัพซีเรียใช้เครื่องบินเพื่อโจมตีพลเมืองด้วยอาวุธเคมี ด้านนางนิกกี ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นระบุว่าเมื่อปรากกฏข้อเท็จจริงเช่นนี้แล้ว ยูเอ็นจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการอิสระชุดหนึ่งเพื่อสอบสวนว่าใครจะต้องร่วมรับผิดชอบในเรื่องนี้ จะได้นำตัวกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ก่อนหน้านี้โอพีซีดับเบิลยูระบุว่ากองกำลังรัฐบาลซีเรียเคยใช้แก๊สคลอรีนโจมตีพลเรือนมา 3 ครั้งในปี 2557และ2558 ขณะที่กลุ่มรัฐอิสลามใช้แก๊สมัสตาร์ดในการโจมตีพลเรือนเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาหน่วยข่าวกรองหลายแห่งของชาติตะวันตกกล่าวหารัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรียว่าใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนเมื่อเดือนเมษายน แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลซีเรียปฏิเสธว่าไม่เคยใช้อาวุธเคมีมาตลอดช่วง 6 ปีที่เกิดสงครามในซีเรีย

ข่าวทั้งหมด

X