+++นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า คาดว่า กรมธนารักษ์จะสามารถทำสัญญาการเช่าที่ราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.3275 กับมูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อก่อสร้างโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร มูลค่า 4.62 พันล้านบาทได้ภายใน 3 เดือนหลังจากนี้ โดยยืนยันว่าจะปฏิบัติตามพ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ทุกขั้นตอน ซึ่งจะมีคณะกรรมการที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาร่วมพิจารณาในทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และคลายข้อกังวลของสังคม
+++ทั้งนี้ โครงการจะสร้างเสร็จภายใน 3 ปีหลังจากมีการลงนามในสัญญาเช่าพื้นที่ โดยมีการประเมินว่าหอชมเมืองกรุงเทพมหานครจะสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐศาสต์และสังคม อยู่ที่ 4.68 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 30 ปี จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มมากขึ้นและระยะเวลาการเข้าพักในไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะยาวขึ้นอย่างน้อย 1 วัน รวมทั้งยังทำให้เกิดการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นด้วย
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ภาคประชาชนเป็นคนสนับสนุนด้านการเงิน ไม่ได้มีการประมูล เพราะทำเพื่อประชาชนโดยตรง และมีประชาชนออกมาเสนอราคาเอง ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าจะเกี่ยวข้องกับภาคเอกชนที่เป็นกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ มีความเกี่ยวข้องกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้นไม่เกี่ยวกัน ไม่มีใครเกี่ยวข้อง เพราะทุกคนรู้จักกัน
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เยี่ยมชมศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบกรุงเทพ หรือ ทีซีดีซี ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบให้แยกออกจากสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อเตรียมยกระดับเป็นสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ องค์การมหาชน พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่า ศูนย์ทีซีดีซีจะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างต้นทางถึงปลายทางจากภาคผลิต ภาคแปรรูป และนวัตกรรม นำไปสู่เศรษฐกิจ 4.0 แต่สิ่งสำคัญต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนโดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามาเรียนรู้ อยากให้กระทรวงศึกษาธิการให้มาสำคัญในเรื่องนี้ในการบรรจุในหลักสูตรการศึกษา และรอให้จัดตั้งศูนย์ในทุกจังหวัดไม่ได้ จึงต้องให้ความสำคัญกับการรวมกลุ่ม และให้แต่ละภาคดึงศักยภาพของตัวเองมาใช้
+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้หลายอย่างยังติดขัดเพราะเรากำลังขับเคลื่อนประเทศแนวใหม่ โดยใช้สติปัญญาและใช้ศาสตร์พระราชา ต้องเพิ่มยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ด้านที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ใน 20 ปี แต่ยุทธศาสตร์เหล่านี้นักการเมืองยังไม่เข้าใจ ยังกลัว และพยายามต่อต้านทุกอย่าง ซึ่งเป็นเพียงยุทธศาสตร์ชาติเพื่อสอดคล้องอนาคต และลดความเหลื่อมล้ำ หากเห็นชอบร่วมกันก็สามารถทำได้แต่ไม่เห็นชอบก็สามารถปรับแก้ไขได้ ข้าราชการและนักการเมืองต้องใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา ปัญหายังไม่จบเพราะมีความคิดแตกต่างและมีความขัดแย้งสูง รวมทั้งเมื่อออกกฏหมายใหม่ๆก็ไม่ยอมรับ บังคับใช้ไม่ได้ และกฏหมายเดิมก็ไม่ทำตาม ขอย้ำว่าจุดประสงค์ออกกฏหมายทุกอย่างไม่ทำให้ใครเดือดร้อน จึงต้องกลับไปปรับแก้ไขทั้งหมด
+++การเสียชีวิตของน.ส.เอลิส ดัลเลอมาเน อายุ 30 ปี นักท่องเที่ยวสาวเบลเยียม เสียชีวิตบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งรับผิดชอบงานสอบสวน เร่งตรวจสอบสำนวนการสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับได้เรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเข้าพบเพื่อให้แนวทางประเด็นสอบสวนเพิ่มเติม โดยเน้นให้มีการสอบสวนในประเด็นที่เป็นข้อสงสัยตามที่ปรากฏเป็นข่าวของสื่อมวลชน ทั้งนี้การเสียชีวิตเกิดจากขาดอากาศหายใจ
+++พล.อ. ประวิตร ระบุว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามอยู่ พยายามดูแลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาเฟีย แต่เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล ซึ่งบนเกาะมีคนหลายพวกและหลายชนชาติ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลอย่างเต็มที่
+++วันนี้ ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย คดีสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 คดีนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจำเลยที่ 1-4 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ศาลนัดไต่สวนพยานนัดสุดท้ายวันนี้ จำนวน 5 ปาก และหลังไต่สวนพยานแล้ว นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จำเลยที่ 1 จะขอแถลงปิดคดีเอง เพื่อชี้แจงสรุปคดีทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันสุดท้ายของการไต่สวน ทั้งนี้ ศาล จะมีคำสั่งอีกครั้งว่าจะนัดให้คู่ความแถลงปิดคดี เพิ่มเติมหรือไม่ หรือจะนัดฟังคำพิพากษาในวันใด อย่างไรก็ตามในวันนี้ พล.อ.ชวลิต 1 ในจำเลย ไม่ได้เดินทางมาศาล แต่ได้แจ้งต่อศาลว่าไม่สามารถเดินทางมาได้ เนื่องจากป่วย จึงได้ส่งทนายมาชี้แจงและรับฟังการไต่สวนแทน
+++กรณีนายอัครณัฐ หรือน็อต อริยฤทธิ์วิกุล อายุ 29 ปีอดีตพิธีกรรายการ เวคคลับ ใช้กำลังทำร้ายบริเวณใบหน้านายกิตติศักดิ์ หรือบอย สิงห์โต อายุ 26 ปี พนักงานคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน คู่กรณีขี่รถจักรยานยนต์ เฉี่ยวชน รถยนต์มินิ จนได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหักและบังคับให้ยกมือกราบรถเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2559 ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ผ่านสื่อโซเชียล วันนี้ ศาล นัดฟังคำพิพากษาที่อัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ได้ยื่นฟ้อง ทั้งนายอัครณัฐ กับนายวิทวัส ศรีบัณฑิตมงคล เพื่อนของนายอัครณัฐ ในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกคนละ 2 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี และให้จำเลยทั้งสองบริการสังคม เป็นเวลา 24 ชั่วโมง และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง เป็นเวลา 4 ครั้งในระยะเวลา 1 ปี
+++ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ศาลก็ได้นัดทั้ง 2 ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยตกลงค่าเสียหายกัน ซึ่งน็อต อัครณัฐ ได้ให้การรับสารภาพ และพร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้กับ บอย กิตติศักดิ์ ที่ได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหักต้องผ่าตัดรักษาหลายครั้งและค่าสินไหมทดแทนจากการขาดรายได้และจิตใจ รวมประมาณ 180,000 บาท ซึ่งได้มีการรับเงินสดชดใช้กันไปแล้ว
แฟ้มภาพ