+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือนพฤษภาคม 2560 มีสัญญาณการขยายตัวต่อเนื่อง แรงขับเคลื่อนจากการส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ13.2 การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดี สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวเป็นบวกและรายได้ที่แท้จริงของเกษตรกรขยายตัว และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาส 1 ที่ร้อยละ 3.3 และเศรษฐกิจครึ่งหลังปีนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก
+++สศค.รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจอีกระยะหนึ่งว่าควรปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจปีนี้หรือไม่ ซึ่งจะชัดเจนเดือนกรกฎาคม แม้จะมีปัจจัยบวกจากส่งออกดีขึ้น แต่ต้องจับตาดูเศรษฐกิจโลกด้วย
+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ ปิดที่ 44.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ปิดที่ 47.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบแรง โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ร่วงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์หนักที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ จากแรงฉุดของกลุ่มเทคโนโลยี ดาวโจนส์ ลดลง 167.58 จุด ปิดที่ 21,287.03 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.99 จุด ปิดที่ 2,419.70 จุด แนสแดค ลดลง 90.06 จุด ปิดที่ 6,144.35 จุด หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ลดลงร้อยละ 1.8 นับเป็นภาคหลักๆที่มีผลงานไม่ดีมากที่สุด จากแรงฉุดของหุ้นบริษัทใหญ่ๆ อย่างเช่น แอปเปิลและไมโคซอฟต์ ก่อนหน้านี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่ปรับขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยพุ่งขึ้นมากกว่าร้อยละ 15 แต่ในเดือนนี้ได้ร่วงลงแล้วเกือบร้อยละ 2
+++ราคาทองคำปิดลบ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯยังคงดีดตัวต่อเนื่อง ทำนักลงทุน ไม่สนใจการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างทองคำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,245.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++เรื่องการสืบทรัพย์น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ คดีจ่ายค่าเสียหายโครงการจำนำข้าว นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ตั้งคณะทำงานสืบทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อชดใช้ความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาท กระทรวงการคลัง ส่งหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมทั้งกรมที่ดิน ให้ช่วยตรวจทรัพย์และแจ้งกลับมาที่กระทรวงการคลัง ทั้งนี้ หากได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่ส่งหนังสือไป ก็จะเร่งส่งให้กรมบังคับคดี ทำการยึดทรัพย์เพื่อนำมาชำระความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป คาดว่าจะได้รับแจ้งจาก ป.ป.ช.ก่อนเป็นแห่งแรก เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่อดีตนายกรัฐมนตรีเคยแจ้งทรัพย์สินทั้งหมดไว้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
+++ส่วนความคืบหน้าของคดี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ไต่สวนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เหลือการไต่สวนคดีดังกล่าวอีกสองนัด คือวันที่ 7 ก.ค. และวันที่ 21 ก.ค.น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังมีพยานที่สำคัญถึง 20 ปากที่จะมาให้การเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หวังว่าจะได้มีโอกาสสืบพยานครบทุกปาก ส่วนการยื่นขอขยายระยะเวลาการไต่สวนยังจะต้องรอดูความเหมาะสมอีกครั้ง
+++การเปิดรับสมัครนักศึกษา 7 หมื่นคน ลงพื้นที่สำรวจผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียน 14.1 ล้านคน นายธเนศ รุ่งโรจน์ชัยพร รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.สำนักงานสถิติแห่งชาติ จะประสานกับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ โดยจะเริ่มวันที่ 20 ก.ค.-18 ส.ค. 2560 ซึ่งมีค่าจ้างแบบละ 60 บาท รวมถึงมีอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้ดูแลควบคุม และมีค่าตอบแทนต่างหาก นักศึกษาที่เข้าไปตรวจสอบจะมีบัตรสำนักงานสถิติแห่งชาติ เพื่อเข้าไปตรวจสอบข้อมูลชาวบ้านว่า ที่อยู่อาศัยเป็นอย่างไร มีลักษณะตามที่แจ้งไปหรือไม่ มีความต้องการช่วยเหลือประเภทใด ซึ่งจะขอความร่วมมือผู้มีรายได้น้อยให้รายละเอียดและข้อมูลเป็นไปตามความจริง โดยจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูล เพราะเป็นความลับและมีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว
+++การสำรวจในครั้งนี้เป็นการสำรวจที่เร่งด่วนและต้องใช้บุคลากรในการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมาก สำนักงานสถิติแห่งชาติมีบุคลากร 2,000 คน แต่มีผู้มีรายได้น้อยสูงถึง 14.1 ล้านคน ทำให้ต้องใช้ระยะเวลามาก จึงต้องจ้างนักศึกษาและนักเรียนมาเพื่อรองรับกับปริมาณผู้มีรายได้น้อยที่ต้องสำรวจ
+++สำหรับการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ ได้เปิดลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 3 เม.ย.-15 พ.ค. 2560 กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติผ่านกรมการปกครองและกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ หรือแบงก์รัฐที่รับฝากเงินจากประชาชน
+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วันนี้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่ 1 กล่าวว่า จะมีการตั้ง กมธ.วิสามัญร่วมกันระหว่าง สนช. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต. ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ผ่านความเห็นชอบจาก สนช.
+++การขยายผลนักเรียนนักเลงสองกลุ่ม เปิดศึกดวลกัน เสียชีวิต 1 เจ็บ5 ยกพวกตะลุมบอนชุลมุนไล่แทงไล่ฟันหน้าตลาดเทศบาลนครนนทบุรี ตำรวจอายัดตัวคนเจ็บทั้งหมด แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ร่วมกันชุลมุนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต และซ่องโจร พร้อมเร่งเช็กภาพวงจรปิดตามล่าตัวพรรคพวกที่ร่วมก่อเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นย่านชุมชนมีผู้คนพลุกพล่านเนื่องจากเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนของวันทำงาน
+++พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ประชุมเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ สั่งการฝ่ายสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุพร้อมประชาสัมพันธ์ไปถึงชาวบ้านที่ถ่ายคลิปไว้ได้เพื่อนำมาตรวจสอบดูว่ามีใครร่วมก่อเหตุบ้าง ช่วงเย็นเมื่อวาน มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งไปที่โรงพยาบาลไปเยี่ยมเพื่อนที่บาดเจ็บ ตำรวจขอให้กลับบ้าน หวั่นเกรงว่าจะมีกลุ่มนักเรียนคู่กรณีตามมาล้างแค้น
+++การตามหาตัวทนายสุดแสบ น.ส.พรทิพย์ จันทรัตน์ พร้อม ด.ญ.ภัทรดา หรือ น้องบีม แก้วผ่อง อายุ 14 ปี บุตรสาว เดินทางเข้าพบ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล นายไกรธวัช ทินโสม นายอำเภอปากเกร็ด เพื่อให้ข้อมูลกรณีถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความที่รับว่าความให้กรณีที่ครอบครัวประสบอุบัติเหตุทำให้สามีเสียชีวิตและบุตรสาวพิการเดินไม่ได้ ยักยอกเงินที่บริษัทรถพ่วงคู่กรณีชดใช้จ่ายให้ 5 ล้านบาทไป และได้รับความช่วยเหลือ
+++ด้านคดีความ พล.ต.ต.สุศักดิ์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ประสานไปยัง บก.น.7 ซึ่งนางสาวพรทิพย์ได้แจ้งความไว้ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ซึ่งพบว่าคดีฉ้อโกงทรัพย์ถูกทนายพิสิษฐ์เกลี้ยกล่อมให้ยอมความ ส่วนคดีปลอมแปลงเอกสารก็หมดอายุความ ซึ่งในด้านคดีหากหลักฐานแน่นหนา สามารถแจ้งความใหม่ดำเนินคดีกับทนายผู้นี้ได้
+++นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จะติดตามเรียกร้องเงินในส่วนที่บริษัทรถพ่วงจ่ายเงินค่าเสียหายให้แล้วคืนจากทนายความ รวมทั้งอาจต้องแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับทนายความที่รับเงินดังกล่าวฐานฉ้อโกง และร่วมมือกับสภาทนายความดำเนินการเรื่องมารยาททนายด้วย มีโทษ 3 สถาน เรียงตามลำดับโทษเบาที่สุดไปจนถึงหนักที่สุด ตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ห้ามทำการเป็นทนายความ กำหนดไม่เกิน 3 ปี หรือลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความต่อไป
+++ด้านนายสรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า จะมีการเรียกนายพิสิษฐ์มาสอบถามถึงข้อเท็จจริง หากผลสอบออกมาว่านายพิสิษฐ์ยักยอกเงินตามที่ผู้เสียหายกล่าวหาจริง บทลงโทษสูงสุดคือการลบชื่อ ออกจากสารบบสภาทนายความ นอกจากนี้จะถูกดำเนินคดี ข้อหาลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ผู้อื่นด้วย รวมทั้งสภาทนายความจะเชิญเจ้าของบริษัทรถบรรทุกมาสอบถามรายละเอียดด้วย
แฟ้มภาพ